By: mk 
on 11 June 2022 - 09:22
Tags:
Topics:
Jack Dorsey อดีตซีอีโอ Twitter ที่ปัจจุบันยังเป็นซีอีโอของ Block (Square เดิม) และมีโครงการ TBD เน้นระบบประมวลผลแบบกระจายศูนย์ เปิดตัวแนวคิด Web5 ที่บอกว่าไปไกลกว่า Web3 แล้ว (ไม่บอกว่า Web4 ไปไหนด้วย)
ก่อนหน้านี้ Dorsey เคยวิจารณ์แนวคิด Web3 ว่ากระจายศูนย์ไม่จริง เพราะนักลงทุน VC ครอบงำอยู่เบื้องหลัง เขาต้องการสร้างแนวคิดการกระจายศูนย์ที่แท้จริง และออกมาเป็น Web5 เลยนั่นเอง
โครงการ Web5 ของ TBD ระบุว่าเป็นการประมวลผลแบบกระจายมากๆ (extra decentralized web) ยิ่งกว่า Web3 เพราะผู้ใช้เป็นผู้ควบคุมทั้งอัตลักษณ์ (identity) และข้อมูล (data) ของตัวเอง ไม่ต้องไปฝากไว้กับเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการเหมือนในยุคปัจจุบัน
this will likely be our most important contribution to the internet. proud of the team. #web5(RIP web3 VCs 🤫)https://t.co/vYlVqDyGE3 https://t.co/eP2cAoaRTH
— jack (@jack) June 10, 2022
แนวคิด Web5 ของ TBD ประกอบด้วยชิ้นส่วนย่อย 4 ชิ้น ได้แก่
- Decentralized Web Platform (DWP)
- Decentralized Web Apps (DWAs)
- Decentralized Identifiers (DIDs) เป็นระบบ URL ที่เรียกว่า did:// มาแทน http:// แบบในปัจจุบัน
- Decentralized Web Nodes (DWNs) กระบวนการเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์
ในโลกของ Web5 ผู้ใช้แต่ละคนเก็บข้อมูลลงใน DWN node ของตัวเอง (จะมีกี่อันก็ได้) แล้วชี้ตำแหน่งกันด้วย DID โดยมี DID resolver ทำหน้าที่แบบเดียวกับ DNS resolver
พื้นฐานเหล่านี้ถูกเรียกรวมๆ ว่าเป็นแพลตฟอร์ม (DWP) จากนั้นนักพัฒนาจะสร้างแอพ (DWA) ทับลงไปบนแพลตฟอร์มอีกที ตัวแอพ DWA มีความคล้ายกับ PWA ในปัจจุบัน แต่เรียกข้อมูลจาก DWN เครื่องไหนก็ได้ แทนเรียกจากเซิร์ฟเวอร์กลาง
TBD ยังสร้างโปรโตคอล tbDEX ไว้สื่อสารระหว่าง DWN ด้วย โค้ดของซอฟต์แวร์ทั้งหมดที่กล่าวถึงเริ่มทยอยขึ้นบน GitHub แล้ว
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
Web4 ละ?
ทำไมนึกถึง Web Torrent หว่า เคยคิดเหมือนกันว่าวันนึงหากคนเอาเทคโนโลยี Torrent มา implement เข้ากับเทคโนโลยี Web จะเป็นยังไง เปิด port กันพรึบเลยทีเดียว แต่ผู้ให้บริการคงร้อง และต่อต้านน่าดู
2+3=5
Winamp สินะ
ดันเข้าใจ ทันยุคนั้น ..มันก็นานแล้วนะ
แล้วอีลอนก็บอกว่า
WE ARE THE 99%
Web888 ส่งเข้าประกวด
มันต่างจากเว็บยุคเริ่มแรกยังไงล่ะเนี่ย เอาจริง ๆ ยุค Quantum Link นี่ก็กระจายศูนย์มาก ๆ ยกเว้นตัวระบบเครือข่ายเองสรุปแล้วมันปล่อย micro program ออกไปใส่เครื่องไหนก็ได้ในเน็ตเวิร์ก แล้วใช้ Identifier ในการแยกแยะว่าใครเป็นเจ้าของ ถ้าเพิ่ม relay เข้าไปด้วยอาชญากรนี่ยิ้มหวานเลยเอาจริงยิ่งเราต้องการ decentralized web มากเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนจะเอื้ออาชญากรมากเท่านั้นแหละครับ เป็นราคาที่ต้องแลก จะยอมให้ข้อมูลตกอยู่ในมือ big tech ไม่กี่เจ้า หรือจะควบคุมข้อมูลด้วยตัวเอง
เหมือนเคยมีคนบอกว่าอะไรที่มันไม่จำเป็นต้อง decentralized ก็ไม่ต้องไปพยายามจะ decentralized มัน
จริงๆ ก็เหมือนย้อนกลับไปสมัย web1.0 แล้วให้internetวิวัฒนาการไปทางกระจายศูนย์ มากกว่าไปทางรวมศูนย์ที่ทำให้เกิด Web2.0 แหล่ะ
ส่วนเรื่องอาชญากร สุดท้ายกฏหมายและการจัดการมันก็ต้องหาทางอแดปเอาเองแหล่ะ ถ้าจะเดินตามแนวทางเอาง่ายว่าแบบทุกวันนี้ สุดท้ายทุกอย่างมันก็ไปรวมอยู่กับรบ.หมด จริงๆก็มีจีนเป็นตัวอย่างละ
เว้นช่อง Web4 ไว้เผื่อ Web3 มีพัฒนาการสินะ
แต่สุดท้ายก็ต้องมาจบที่ Web5 อยู่ดี
ชอบกราฟฟิคเวคเตอร์ผสม pixelart
คือ implement เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนรูป เปลี่ยนคำ ใส่ protocol มั่วๆ ให้งงเล่น?
Tor Onion เป็น Web5 ไหมครับ
ไม่เป็นครับ ต้น/ปลายทางมันยังเหมือนเดิม
ต่อไปเราจะยังต้องจ่ายค่า bandwidth และ server อยู่ไหมเนี่ย
โปรเจ็คwebกระจายศูนย์พวกนี้มันดูย้อนแย้งมากๆ จุดประสงค์ในการสร้างมันคือเพื่อความปลอดภัยแต่คุณค่าจริงๆคือเพื่อหาทางเก็งกำไรแค่นั้น
แล้วดันไม่ปลอดภัยกว่าระบบเดิมอีก55
ต่อให้พี่แจ๊คคิดระบบที่สมบูรณ์แบบแค่ไหน มันก็จะมีโจรที่แอบอ้างความสมบูรณ์แบบนั้นไปหลอกลวงคนอื่นอยู่ดีแล้วมีเยอะด้วย สุดท้ายก็แค่บ่อกาวแหล่งใหม่ที่ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับโลก
เพื่อความปลอดภัยเพื่อลดอำนาจและอิทธิพลต่อข้อมูลจากระบบรวมศูนย์กลาง (ถ้าเจาะจงคือ big tech และรัฐบาล)เรื่องบ่อกาวนี่เห็นด้วย
ขอบคุณที่แก้ให้ครับ