David Weston หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์ โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ โชว์ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยใหม่ของ Windows 11 ที่จะปิดการทำงานของ Remote Desktop Protocol (RDP) ชั่วคราว (ค่าดีฟอลต์คือ 10 นาที) หากเจอความพยายามล็อกอินซ้ำๆ กัน (ค่าดีฟอลต์คือ 10 ครั้ง) เพื่อป้องกันการโจมตีแบบ brute force
Weston บอกว่าปัญหาการโจมตี ransomware เรียกค่าไถ่ที่ปฏิบัติการเจาะระบบโดยมนุษย์ (Human Operated Ransomware) มักใช้ช่องโหว่เรื่องการเปิด RDP ทิ้งไว้ แล้วลองล็อกอินแบบสุ่มรหัสผ่าน brute force เข้ามาเรื่อยๆ จนสำเร็จ การปรับค่าตรงนี้จะช่วยให้การทำ brute force ยากขึ้นมาก ระดับความปลอดภัยโดยรวมก็จะดีขึ้นตามไปด้วย
ฟีเจอร์นี้เพิ่งเริ่มนำเข้ามาใน Windows 11 Insider และต้องรออีกพักใหญ่ๆ กว่าจะเริ่มใช้งานทั่วไป
@windowsinsider Win11 builds now have a DEFAULT account lockout policy to mitigate RDP and other brute force password vectors. This technique is very commonly used in Human Operated Ransomware and other attacks - this control will make brute forcing much harder which is awesome! pic.twitter.com/ZluT1cQQh0
— David Weston (DWIZZZLE) (@dwizzzleMSFT) July 20, 2022
Comments
Client ? งั้นหรือ ? RDP
Server สิครับ (ขออภัยไม่ได้ไปไล่อ่านเอกสารว่า win server เปิดฟังก์ชั่นนี้ไว้หรือยัง)
สมัยก่อนผมใส่ TFA ของ Duo อีกชั้นนึง บางคนก็ยอมควักเงินซื้อ RdpGuard มาไว้โดยรับความเสี่ยงว่าลูกค้าจะเข้ามาไม่ได้ก็มี
ว่าแต่ MS เพิ่งจะมาใส่ใจกับปัญหานี้?
ใส่ 2 FA อีกชั้นได้แล้วนะ password ไม่พอแล้ว
ตกใจกับข่าวนิดนึง เข้าใจว่ามันเป็นฟีเจอร์พื้นฐานมากนะ