หลังจากเปิดตัวแล้วค่อนข้างเป็นกระแสเชิงลบ ทั้งในแง่ราคาวางจำหน่ายที่แพงเหมือนเกมใหม่ และการ "เคลม" ตัวเกมเวอร์ชั่นนี้ของ The Last of Us Part I ที่ทาง Sony และ Naughty Dog เรียกว่าเป็นการ Remake ซึ่งขัดแย้งความรู้สึกของเกมเมอร์และสภาพของตัวเกมที่ออกมา ว่ามันควรจะเป็น Remastered
ล่าสุด Shaun Escayg ตำแหน่ง Creative Director (และเป็น Lead Cinematic Animator ในเกมออริจินัล) ของ Naughty Dog เขียนโพสต์บรรยายเบื้องหลังการปรับปรุงเกมนี้ พร้อมยืนยันว่า The Last of Us Part I คือการ Remake ไม่ใช่ Remastered เพราะภาพรวมของการปรับปรุงทั้งหมดของตัวเกม
Shaun บอกว่าเกมนี้มันไม่ใช่แค่การนำเกมเดิม ตัวละครเดิม สภาพแวดล้อมเดิม มาปรับปรุงให้แสดงผลดีขึ้นบนเครื่องรุ่นใหม่ (performing on better hardware) แต่เป็นการยกเครื่อง (completely redesigned) ทุกอย่าง ตั้งแต่ Art Direction, แสง, เทคโนโลยีการจัดแสง, ไปจนถึงการออกแบบตัวละคร ทีมงานใช้องค์ความรู้ที่สั่งสมกว่าทศวรรษตั้งแต่ปล่อยเกมบน PS3 นำมาใช้กับเทคโนโลยีใหม่ๆ และนำเสนอใหม่ (reimagine) ในรูปแบบที่เหนือกว่า แต่ยังเคารพและคงความเป็นออริจินัลของตัวเกม
ความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ บน The Last of Us Part I นอกจากสิ่งที่เราสัมผัสได้เช่น ดีไซน์ตัวละคร แสงและสภาพแวดล้อม Shaun อธิบายด้วยว่ายังมีของใหม่ๆ ที่เราอาจจะไม่ได้เห็นจากตัวอย่าง แต่ต้องเล่นเกมเอง เช่น ตัว AI ในการต่อสู้ ที่เดิมติดข้อจำกัดของ PS3 แต่พอเป็น PS5 ที่มีพลังประมวลผลมากกว่า ก็สามารถเพิ่มจำนวนศัตรูในแต่ละฉาก การมีปฏิสัมพันธ์ต่อสภาพแวดล้อมของ NPC ไปจนถึงฉากต่อสู้ที่จะสมจริงและเล่นกับสภาพแวดล้อมได้มากขึ้น
ก่อนหน้านี้ อดีตทีมพัฒนาของ Naughty Dog ก็ออกมาบอกลักษณะเดียวกัน ซึ่งในมุมผู้พัฒนา อาจจะมองว่าตัวเกมมีการปรับปรุงเยอะมาก ไม่ใช่แค่เอาเกมเก่ามาปรับภาพให้ชัดแล้วเล่นให้ลื่นบนเครื่องเล่นใหม่ แต่ในมุมผู้เล่น คำถามคือการปรับปรุงแบบนี้ ต่อให้เยอะมากขึ้นก็ตาม มันคุ้มมั้ยกับราคาที่เท่ากับเกมใหม่ถึง 2,290 บาท โดยที่ 90% ของเกมทั้งในแง่เกมเพลย์ เนื้อเรื่องเหมือนเดิมทุกอย่าง
ที่มา - PlayStation
Comments
FFVII กลายเป็นผู้บัญญัติ Remake ไปแล้ว
Remake ยังไงคนจำเค้าเดิมไม่ได้
จริงครับ สร้างบาร์ใหม่เรียบร้อย ทำไม่ได้แบบนั้น อย่าสะเออะเรียกว่า remake เดือดร้อนกันหมด 5555
ผมให้ re1
Remake/Remaster ในมุมมองของนักพัฒนากับผู้เล่นมันต่างกัน บางอย่างนักพัฒนาเริ่มทำใหม่หมดตั้งแต่ต้นหรือ Remake แต่ออกมาแล้วไม่ต่างจากเดิมมากผู้เล่นก็มองว่ามันคือ Remaster
ส่วนตัวผมมองว่ามันไม่มีใครถูกใครผิด แค่มองคนละมุมกันเท่านั้นเอง ส่วนคำว่า Remake/Remaster หรือคำอื่นๆมันก็เป็นแค่ชื่อที่ตั้งเพื่อการตลาดเท่านั้นแหละ
เพราะงั้นปัญหามันไม่ใช่เรื่องที่ว่าจริงๆแล้วมันคือ Remake หรือ Remaster กันแน่ แต่มันคือการเลือกใช้คำโปรโมทที่ไม่ตรงกับความคาดหวังของผู้เล่นต่างหาก (และอย่างที่เม้นบนว่า ผู้เล่นหลายคนคาดหวังไว้ว่าถ้าแปะว่า Remake มันต้องมีอะไรเปลี่ยนมากกว่านี้ มันก็เลยเป็นประเด็นขึ้นมา)
ในแง่นักพัฒนา จะ remaster หรือ remake ไม่ค่อยต่างกันมากครับ คือเขียนใหม่ (ฮา)
code หายด้วยสินะครับ
I need healing.
เปล่าครับ ขี้เกียจมาไล่อ่าน code เก่าว่าทำอะไรไปบ้างครับ
บางทีก็เปลี่ยนแพลตฟอร์ม เปลี่ยนเอนจินเลยครับ
สมมติแบบเกมเก่าเป็น DS บอก รีมาสเตอร์ลงพีซี นั่นเขียนใหม่เกือบจาก 0 เพราะว่า DS มีหลักการการทำงานต่างกับพีซีเยอะมาก (DS Graphics เป็น sprite-based, มี 8 layer, วาดสามดีได้แค่ layer เดียว หรือ ออดิโอเป็น 16 track sampler อะไรงี้ครับ)
แต่ถ้ากราฟิคเหมือนเดิมเด๊ะ จะบอกว่า "รีเมค" ก็โดนประชาฑัณฑ์อีก ก็ต้องบอกว่ารีมาสเตอร์ อะไรงี้ครับ
Remaster แล้วได้ระดับ mafia นี่คนคงไม่บ่นว่าขายแพงอะครับ
เหมือนเอาโมเดลภาค 2 มายัดใส่ภาคแรก ภาพเน้นสมจริงมากขึ้น
คนบ่นว่าเป็น remaster ก็ไม่แปลก คุณทำโมเดลใหม่หมด แต่วิธีเล่นฟีเจอร์ไม่ค่อยต่างจากเดิม ภาค original ก็ดูดีล่ะไม่จำเป็นต้องรีบมี part1 ก็ได้เพราะคุณภาพของกราฟิกไม่ได้ก้าวกระโดดชัดเจน
คนมองมันมองแค่ อ้าว ใส้ในเดิมหนิ แค่เอาสกินเอาฉากเอา texture ใหม่มาครอบ จะบอกว่า remaster ก็ไม่ผิด เพราะไอ้ใหม่ๆที่ dev ทำ คนเล่นมันก็ อ้อเหรอ สวยดี แล้วไง???
แนวทางช่วงปีสองปีของsonyมานี้ สนับสนุนไม่ลงจริงๆ
กระทบgod of warด้วย ดูwokeยังไม่รู้
ทุกวันนี้ไม่กล้ากดเกมday oneของsonyเลย(แต่ของเจ้าอื่นยังซื้ออยู่)
ถ้าเทียบหนัง จริงบทตัวเกม เนื้อหาเกมยังเหมือนเดิมก็ Remaster อะ
งั้นต้องเรียก Remaster Enhanced Edition ตั้งชื่อยาวๆ มันเข้าไป 555
ภาพสวยนะ unreal5ปะเนี่ย
The Last Wizard Of Century.
เค้ามีเอนจินเค้าเองครับ (ทีมที่ทำก็ดังอยู่นะ)
เล่นจบละครับหลังจากรอใจจดใจจ่อกับรีเมคนี้จองล่วงหน้าไว้
อยากบอกประสบการณ์หลังเล่นจบว่าremakeแน่นอนเพราะเกมส์เพลยเหมือนPart2 มากกว่าตัว original.
ซึ่งpart2เองก้ออัพเกรดการเล่นอย่างชัดเจนตอนที่ออกมา แต่มีกั้กให้ความสามารถยังเหมือน original เช่นไม่มีหมอบคลานเปนต้น
ประการณ์หลังเล่นจบรู้สึกว่าว้าว ชอบมากกกกกกกกกก ชอบจนรู้สึกอยากออกมาช่วยสนับสนุนเพราะหลายๆคนที่บ่นไม่ได้เห็นทั้งตัว ได้เหนเพียงคลิปสิบนาทีซึ่งโชว์น้อยมาก(ส่วนราคาอันนี้รู้มาตั้งแต่ตอนโซนี่ประกาศวกว่่าเกมส์ใหม่ทั้งหมดจะขึ้นราคา เลยรู้สึกไม่แปลกใจ) ทจากที่เล่นมารู้สึกได้ทันทีว่า มันดูเหมือนจดหมายรักของทีมผู้สร้างถึงแฟนเก่าและแฟนใหม่มากกว่าต้องการให้เกมส์ประสบความสำเร็จ เหนได้ชัดเจนของการใส่เสียงผู้กำกับและนักแสดงเข้ามาบรรยาย การถ่ายทำต่างๆ เละเป็นการเปิดเผยอย่างชัดเจนโดยผู้กำกับ ที่นำเสนอ LGBTQIA characters ใน Part1 เพื่อปลุกกระแส Gender Rights ในวงการเกมส์ ซึ่งเปนที่ถูกต่อต้านจากหลายๆกลุ่ม. แถมซีรี่ของ HBO ก้อจะมาปีหน้าซืึ่งดูเหมือนเปนการโปรโมตทีวีไปด้วย
นอกจากนี้ผู้กำกับได้บอกอีกว่า part3 บทเสร็จละ แปลว่า อย่างย้อยในอนาคตคง เหน 1,2,3 อยู่ใน platform เดียวกัน
ก่อนจะจบมีอันนึงที่เค้าไม่ค่อยพูถึงกันมากนั้น แต่ผมรู้สึกได้ว่าเปลี่ยนอย่างเหนได้ชัดคือระบบเสียง 3D Audio ของ PS5 ทำให้สามารถได้ยินเสียงอย่างรอบทิศจิงๆ ซึ่งต่างอย่างสิ้นเชิงจาก original. และ.....เอิ่ม กราฟฟิก ดันดีกว่า PAATT 2 อีกแอบทำให้รู้สึกว่า Part2 ล้าสมัยไปละ กร้ากกกก (เหนลาง part 2 ps5 upgrade คงตามมาแน่นอน)