แม้ว่าช่วงหลังๆ อาจเงียบไปบ้าง แต่ SpaceX ยังคงเดินหน้ายิงจรวดปล่อยดาวเทียมสำหรับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต Starlink อยู่ตลอด ล่าสุดขยายพื้นที่ให้บริการไปถึงทวีปแอนตาร์กติกาแล้ว ทำให้ขณะนี้ครอบคลุมทั้ง 7 ทวีปของโลกเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา SpaceX ทดลองให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปยัง McMurdo Station ซึ่งเป็นสถานีวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาในทวีปแอนตาร์กติกา มีผู้อยู่อาศัยราว 1,200 คน ถือเป็นชุมชนที่ห่างไกลที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ภาพจานรับสัญญาณดาวเทียมของ Starlink (จานแบนๆ บนหลังคา ทางขวาของภาพ | ภาพโดย NSF)
นอกจากนี้หากเข้าไปที่เว็บไซต์ของ Starlink จะมีแผนที่แสดงพื้นที่ที่ Starlink เริ่มให้บริการแล้ว รวมถึงพื้นที่ที่มีแผนจะเปิดให้บริการ สำหรับประเทศไทยระบุว่ากำลังรอการอนุมัติจากรัฐบาลอยู่ ส่วนประเทศอื่นที่ยังรออนุมัติเหมือนกันคืออินเดียและปากีสถาน (แสดงให้เห็นว่าการให้บริการถึงจะเป็นดาวเทียม ก็ยังต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของแต่ละประเทศอยู่ดี ไม่ใช่ทางลัดออกอินเทอร์เน็ตแต่อย่างใด)
สำหรับสถานะของประเทศอื่นในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีดังนี้
หากดูรวมๆ แล้ว SpaceX น่าจะให้บริการอินเทอร์เน็ต Starlink ได้ในประเทศส่วนใหญ่ของโลกภายในปี 2023
ปัจจุบัน SpaceX ปล่อยดาวเทียม Starlink ไปแล้วกว่า 3,200 ดวง จากที่ได้รับอนุญาต 12,000 ดวง โดยปีนี้ตั้งเป้ายิงจรวด Falcon 9 ถึง 60 เที่ยว
ที่มา - Space.com
Comments
อันนี้อาจจะต้องรอรุ่นท่านรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์รึเปล่าครับ
เพราะประเทศไทยเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิด AT Field กันเอาไว้หลายๆ อย่างจริงๆ ครับ :P
รอบนี้ กสทช. น่าจะเกี่ยวถ้ามีรายได้เข้า แต่ไม่เกี่ยวบางกรณี เช่น ควบรวมค่ายมือถือ เป็นต้น
AIS หนาวๆร้อนๆ
ข่าวต่อไป: AIS จับมือกับ Starlink ให้บริการ 5G ผ่านโครงข่ายดาวเทียม
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ครับ กลัวว่า Starlink จะเปิดให้บริการตรงมากกว่านะสิ เปิดบริการตรงได้ ทำไมต้องจับมือหละ?
สัญญาณที่ภาคพื้นไงครับ
เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นในอเมริกาแล้วครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
การร่วมมือในการขยาย Coverage ก็เป็นไปได้ครับโดยเฉพาะเมกาที่พื้นที่มาก แต่ในไทยส่วนตัวผมไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น ผมอาจจะคิดผิดก็ได้นะครับ บางที่ Starlink อาจจับคู่กับ Dtac น่าจะ Win-Win มากกว่า
และถ้า Starlink ส่งดาวเทียมครบเมื่อไหร่ ความเร็วเพิ่มขึ้น มือถือรุ่นใหม่รองรับใช้งาน Starlink ได้โดยตรง ผมก็มองว่าน่าจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ AIS ได้ (ส่วน internet ในอาคารคงไม่ใช่เรื่องใหญ่ถ้า Starlink จะทำ)
ไม่ใหญ่นี่คือยังไงนะครับ?
ผมแค่มองในเชิงธุรกิจนะครับ คือ Starlink ลงทุนเยอะมาก และยังมี coverage ครอบคลุมทั้งโลก ส่วนตัวไม่คิดว่า Starlink จะทำตลาดแค่ระดับ niche market ถ้าเค้าจะทำธุรกิจการให้บริการ internet ก็น่าครอบคลุมทั้งในอาคารด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับ Starlink ที่ทุนหนามาก
ลองให้ลองนึกถึงรถไฟฟ้า Tesla ตอนแรกมีแค่รถซีดาน ต่อมามี SUV และกำลังจะมี กระบะ ทรัค และอื่นๆ
ตอนนี้เราคงมองขอบเขตการทำตลาดของ Starlink ไม่หมดเพราะเทคโนโลยีบางอย่างยังไม่พร้อมเช่น การติดต่อดาวเทียม Starlink โดยตรงผ่านทางมือถือ จำนวนดาวเทียมที่มีผลต่อความเร็ว internet ถ้าเทคโนโลยีพร้อมแล้วเราก็อาจจะเห็น disruption ก็ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นแค่ความเห็นของผมนะครับ
ถ้าในแง่นั้นผมก็ยังมองว่าเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับ Starlink อยู่ดีครับ 😅
ระหว่าง Starlink กับโชว์รูม Tesla แห่งแรกในไทย อะไรจะมาก่อนกัน
ส่วนตัวผมว่าบ้านเราเจาะยากและยากที่จะเป็น Mass เพราะเน็ตเราแรงและค่อนข้างทั่วถึงและราคาอย่างถูก คงได้เฉพาะกลุ่มที่อยู่ตามป่าเขาและห่างไกลจริง ๆ..
+1 แล้วถึงเวลานั้น คนที่แบบมีปัญญาจ่ายให้ Starlink จริง ๆ ก็น้อยมาก จน SpaceX คิดว่าไม่น่าคุ้มทุนอะไรขนาดนั้นในการบุกตลาดไทย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
จริงๆผมเข้าใจว่า starlink ก็มาตอบโจทย์ตรงนั้นนะครับ
ต้นทุนมันสู้แบบสายไม่ได้อยู่แล้ว
ผมว่าน่าจะมีหน่วยงานด้านความมั่นคงสนใจเช่าใช้อยู่พอสมควรเลยนะครับ
ของไทยคงรอเช่าจากของจีนมากกว่า ฮ่าๆ
ยังมีตลาดตามแท่นขุดเจาะน้ำมัน เรือเดินสมุทร ในอ่าวไทยอยู่พอสมควรครับ
มันไม่ได้ใช้ได้ง่าย ๆ ต้องมีเครื่องรับเฉพาะ แล้วก็ไม่เสถียร น่าจะใช้เฉพาะท้องที่ที่ Internet เข้าไม่ถึงจริง ๆ เพราะเน็ตบ้านดีกว่า ถูกกว่าแน่นอน
บ้านเราป่าเขาเดี่ยวนี้ 4G ถึงกันเยอะละ สถานที่ท่องเทียวนี่ มียัน Wi-Fi จาก operator กันเลย คนเอา starlink มาขายจะคุ้มไหมนะ
รัฐไทยจะยอมเร้อ ยิ่งต้องทำตาม พรบ. คอม ฯลฯ ไรงี้อีก
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P