รัฐสภาสหภาพยุโรปผ่านแนวทางกฎหมาย (directive) บังคับใช้ USB Type-C ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ขนาดเล็กและขนาดกลาง ต้องมีพอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จไฟ ภายในสิ้นปี 2024 ส่วนอุปกรณ์ขนาดใหญ่เช่นโน้ตบุ๊กจะมีเวลาให้ถึงปี 2026
แนวทางกฎหมายของสหภาพยุโรปนี้ครอบคลุมอุปกรณ์เป็นวงกว้าง เช่น โทรศัพท์, แท็บเล็ต, หูฟัง, เกมคอนโซลเคลื่อนที่, เครื่องอ่านอีบุ๊ก, คีย์บอร์ด, เมาส์, GPS, กล้องถ่ายภาพ ไปจนถึงโน้ตบุ๊ก แต่จะบังคับเฉพาะอุปกรณ์ที่ชาร์จไฟด้วยสายเท่านั้น สำหรับอุปกรณ์ที่ชาร์จไร้สายเท่านั้นยังไม่บังคับในข้อบังคับนี้ แต่การแถลงข่าวครั้งนี้ก็ระบุว่าสหภาพยุโรปควรกำหนดมาตรฐานให้ใช้งานร่วมกันได้ต่อไป
แนวทางกฎหมายที่ผ่านครั้งนี้ไม่ใช่กฎหมายโดยตรง แต่ European Council กลุ่มผู้นำชาติสมาชิกต้องให้การรับรองแนวทางนี้และประกาศใช้งานก่อน จากนั้นชาติสมาชิกของสหภาพยุโรปจะมีเวลาอีก 12 เดือนในการประกาศกฎหมายในแต่ละชาติให้เป็นไปตามแนวทางฉบับนี้
ที่มา - European Parliament
ภาพโดย tomekwalecki
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
จากที่การเอาถาดซิมออกเฉพาะเครื่องเมกายังทำได้ ผมล่ะกลัวว่าจะใช้ USB-C เฉพาะเครื่องยุโรปจริงๆ เลย
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
วัดใจแฟนคลับว่าจะไปซื้อเครื่อง import กันไหม
lewcpe.com, @wasonliw
คิดว่ามีแน่ครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ร้านหิ้วกลับมาเฟื่องฟูกันเลยทีเดียว
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
แต่ผมกลัวว่า จากการที่พี่แกเอาถาดซิมออกเฉพาะเครื่องเมกายังทำได้ ลุงคุกแกจะเอาพอร์ตชาร์จออกไปเลยมากกว่าแล้วขายทั้งโลก ประมาณว่า USB-C อยากได้กันนักใช่ไหม? สุดท้ายจะไม่มีใครได้อะไรทั้งนั้น!! 🤣🤣🤣🤣🤣 แบบนี้สนุกสนานเลยนะครับ ร้องกันทั้งโลก...
โดยส่วนตัวผมอยากให้เกิดแนวทางนี้ขึ้นจริงนะครับ เครื่องไร้พอร์ตไปเลยน่าจะสร้างแนวทางการใช้งานใหม่ เช่น กันน้ำ 50 เมตร เป็นมาตรฐานกันได้ เราอาจสร้างนิสัยล้างมือถือก่อนเข้าบ้าน
lewcpe.com, @wasonliw
แต่ดูเหมือนว่า พวกเทคโนโลยีแนว Qi และ MacSafe ก็ยังมีค่า Energy Loss ระหว่างการชาร์จไร้สายสูงอยู่นะครับ สูงจนใน Reddit ตั้งคำถามเลยว่า คุ้มไหม?
ถ้านับ 75% ตาม Reddit ที่ว่ามา (แหล่งอื่นให้ 80%)
iPhone 13 ขนาดแบต 12.41 Wh ชาร์จแต่ละครั้งใช้พลังงานจริง 16.5 Wh ชาร์จ 1,000 ครั้ง ค่าไฟประมาณ 82 บาท (คิดหน่วยละ 5 บาท) สามปีแพงขึ้น 20 บาท แต่ล้างมือถือก่อนเข้าบ้านได้ทุกวัน
ส่วนตัวไม่ถามแฮะว่าคุ้มไหม
lewcpe.com, @wasonliw
ตอบผิดอันครับ
ตั้งแต่สมัย iPhone XS รุ่นที่ขายในจีนเป็น Dual SIM cards ถาดใส่ได้สองซิม ไม่มี e-SIM ฉะนั้น ที่ว่าอาจจะมีเวอร์ชั่น USB-C สำหรับยุโรปนี่ เป็นไปได้เลยครับ
ผมว่าไอโฟนรุ่นที่ขายนอก EU มีพอร์ท Lightning ตามปกติส่วนรุ่นที่ขายใน EU ตัด Lightning ออกไปเลย ชาร์จไร้สายเท่านั้น
อียูเปิดแล้ว อาเซี่ยนเราจะตามมั้ย
ไหนๆ ก็มีโมเดลสำหรับอียูแล้วถ้าเราตาม แอปเปิลก็ไม่น่างอแง
จะอะไรก็ตามแต่ พี่เปิ้ลช่วยโฟกัสเรื่องชาร์จไวด้วยนะ
อุปกรณ์พี่แต่ละอันชาร์จแค่ 20 - 27 วัตต์ ยุคนี้มันเต่าไปแล้ว🤣
ชาร์จไอแพด 20 วัตต์รอเข้าไปสิแต่แอนดรอยด์ไป 70% 80% แล้ว😮💨
สรุป ไม่มีพอร์ทอะไรเลย เปลี่ยนเป็นไร้สาย อิอิ
สงสัยกว่า iPhone ที่ใช้ USB-C มาก็ปาไป iPhone 16 ล่ะมั้งงานนี้
Coder | Designer | Thinker | Blogger
มีใครใช้ port lightning ในไอโฟนทำกิจกรรมอื่นบ้างนอกจากเสียบชาร์จเนี้ยะ ผมว่าถ้า EU มาแนวนี้ แล้วผมเป็น Apple ผมหักดิบตัดรูชาร์จทิ้งเลยนะ เหลือแค่ wireless charging ก็พอ ยิ่งดูเทรนแล้ว apple ไม่สน fast charge แถมยังใช้แบต lithium ion มาตลอด ทั้งๆที่คู่แข่งขยับไป lithium polymer กันแล้ว หูฟังยังกล้าตัดเลย ตัดรูชาร์จทิ้งไปอีกจะเป็นไร
ผมว่าเริ่มที่เครื่องรูดบัตรเครดิตที่ใช้ใน Apple Store ก่อนเลยครับ เพราะมันเป็นเครื่องมัดติดกับ iPhone ใส่ในกล่องแพ็คเกจเดียวกัน คงไม่ได้ติดต่อกันด้วย bluetooth แน่ อันต่อมาก็สาย livestream ที่อาจมีต่อไมค์เพิ่ม และก็สายกล้องที่จะเอารูปจาก sd card เข้าโทรศัพท์ผ่านเครื่องอ่าน
เครื่องรูดที่ใช้ผ่าน Bluetooth มีครับ อย่างของ Square ถ้าแอปเปิ้ลจะใช้ระบบนี้จริงก็เป็นไปได้ครับ แต่ข่าวเก่าตั้งแต่ปี 2020 ก็มีว่าแอปเปิลพัฒนาระบบรับจ่ายเงินผ่าน NFC บนไอโฟนเลย ใช้บัตรแตะเอา
Livestream อาจใช้ Airpods แทน
สายถ่ายรูปจริงจังคงใช้คอม แต่สาย Casual กล้องสมัยใหม่ มี Wifi ในตัวอยู่แล้วครับ สายจริงจังก็ใช้ได้เหมือนกัน
airpods ได้แต่เสียง ภาพเอาเข้าคอมไม่ได้ หรือจะเล่น wireless 100% ดูจะโหดไป
NFC น่าจะใช้จ่ายในร้านแอปเปิ้ลสโตร์ไม่ได้ครับ เพราะว่า การใช้จ่าย NFC สำหรับบางธนาคารอนุญาตให้จ่ายผ่านได้โดยไม่ต้องกด PIN 50-100 ดอลล่าร์ และไม่อนุญาตใช้จ่ายไม่เกิน 100-200 ดอลล่าร์สำหรับการกด PIN ครับ แล้วสินค้าท็อปฮิตของแอปเปิ้ลก็ขายราคาเกิน 100-200 ซะด้วย ดังนั้นน่าจะเกินลิมิตครับ แอปเปิ้ลจึงน่าจะใช้เคสนั้นไปอีกสักพักใหญ่ ๆ
แล้วเคสอันนั้นถ้าจำไม่มีผิด มันมีเครื่องอ่านบาร์โค้ดด้านบนด้วยครับ ดังนั้นน่าจะใช้ไปพักใหญ่ หรือนอกจากแอปเปิ้ลอัพเกรดให้เคสนั้นสื่อสารผ่าน Bluetooth หรือ NFC อีกอันนั้นก็ทำได้ครับ
หรือทางออกอีกทางที่แอปเปิ้ลน่าจะทำได้คือ ทำเหมือนกับตู้ True Wallet คือ ให้ซอฟต์แวร์ในตัว device มันต่อกับ Payment Gateway ไปเลย แต่ทำแบบนั้นก็เสี่ยงข้องมูลตกค้างที่เครื่องพนักงานอีก...
เป็นไปได้ไหมที่ USB-C มาตั้งแต่ iP15 เพราะกลัวสาวกที่ไม่ได้เปลี่ยนทุกปีอั้นรอ iP16
ถ้าไม่ได้หักดิบไม่มีสายชาร์จไปเลย (ซึ่งผมมองว่าเป็นไปได้เหมือนกัน คิดว่า 50-50 เลย) ปีหน้าก็เป็นไปได้นะครับ ไม่มีเหตุผลที่จะรอจนนาทีสุดท้าย สุดท้ายต้องทำ โดนนักการเมืองด่าว่าไม่รักโลกต้องแก้ตัวพัลวัน
lewcpe.com, @wasonliw
ผลิกโผ ออก lightning เหมือนเดิมแต่เครื่องยุโรปชาร์จผ่าน lightning ไม่ได้ 😂
ปักหมุดไว้ตรงนี้ เดาว่า iphone15 มี usb-c ไว้ก่อน ดีไม่ดีเป็นมีให้อึ้ง thunderbolt 3 ในรุ่น pro
เราผู้รอ ip15 มาพร้อม usb-c 😒
สักพัก Apple ประกาศ
IPhone 15 เครื่องยุโรปไม่มีพอร์ตชาร์จ ส่วนทวีปอื่น Lightning เหมือนเดิม 5555
USB C กับ iPhone คงเป็นทางคู่ขนาน อย่าไปนับ iPad ละกัน
ไม่มีรูชาร์จไปเลยก็เก๋ดีนะ ออกไปข้างนอกก็พกแผ่นไปหารูเสียบเอา สะด๊วก สะดวก หรือจะไปขอคนอื่น Reverse Charging แบตไอโฟนก็ใช่จะเยอะ คงจะมีคนให้หรอกนะ
เหตุผลเดียวที่ผมคิดว่าแอปเปิลไม่น่าไป Full wireless เพราะไม่อยากแถม Magsafe cable มาให้อยากขายแยกมากกว่า
บังคับใช้สายusb C
…..
แก้ปัญหา โดยการแถมหัวแปลงusb c to lightningให้
จากที่อ่านมา กฎหมายรอบนี้ แอปเปิลไม่สามารถแถมหัวแปลงได้ครับ ช่องชาร์จต้องเป็น USB-C
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ตัวกฎหมายระบุว่าอุปกรณ์ "ที่ชาร์จด้วยสายได้" ต้องชาร์จด้วย USB-C ได้ เพราะงั้นถ้านึกในมุมมอง Apple ว่าทำยังไงถึงจะ Cost น้อยที่สุด...
1. อัพเดท Software เฉพาะของยุโรปให้ Lightning ใช้โอนถ่ายข้อมูลได้อย่างเดียว ชาร์จไม่ได้ (เพราะงั้นพวกอุปกรณ์เสริมต่างๆกันยังขายได้อยู่)
2. ตัววงจรข้างในก็มีพอร์ท Lightning เหมือนเดิม แต่กรอบเครื่องข้างนอกปิดเอาไว้ มองจากภายนอกคือไม่มีพอร์ทใดๆเลย
เป็นไปได้ไหมว่าแถมแผ่น Magsafe Adapter ที่ใช้กับสายเก่าได้แทน อวสานธุรกิจอุปกรณ์เสริมเลยนะ
1.ตัดพอร์ททุกอันออก เป็นwireless 100%
2.ให้ชาร์จผ่านmagsafeเท่านั้น
3.แน่นอนว่าไม่แถมmagsafe charger 🤣
สมมุติว่าในอนาคตมีเทคโนโลยีใหม่ที่ดีกว่า USB-C กฎหมายฉบับนี้จะเป็นตัวถ่วงหรือเปล่า
MacBook Air ตอนนี้มีทั้ง MacSafe และ USB-C ครับ กฎหมายบังคับรองรับ ไม่ได้บังคับห้ามใช้อย่างอื่น
lewcpe.com, @wasonliw
แสบสุดที่เกิดขึ้นได้คือ ทิ้งช่อง lightning ไว้เหมือนเดิม เอาไว้เชื่อมกับ iTune ใน PC หรืออุปกรณ์อื่น ๆ แต่ปิดไม่ให้ชาร์จ ชาร์จไร้สายเท่านั้น
ทำแบบที่คุณว่า ต้นทุนเครื่องจะแพงขึ้นครับ
ปล. จะใช้ USB-C แล้วก็ขอให้เป็น USB 10Gbps เป็นอย่างน้อย ไม่ใช่เอา USB 2.0 แต่วิ่งเหมือน USB 1.1 ครับ
คิดว่าเค้าไม่ได้บังคับมาตรฐานการส่งข้อมูลครับ บังคับแต่คอนเนคเตอร์
แม้ iPhone รุ่นถัดจะเป็น wireless charging เพื่อหนี EU บังคับ USB-C
แต่ EU เค้าก็กำลังออกมาตรฐาน wireless charging เช่นกัน
ฝั่งลูกค้าที่เฮโลเอาใจช่วย Apple ก็จ่ายเงินเพิ่มซื้อ wireless charging เพิ่มแทน Apple รวยส์
แต่ wireless charge ตอนนี้ iPhone ก็ใช้ร่วมกับคนอื่นไม่มีปัญหาอะไร ถ้าบังคับจริงก็ไม่น่ามีประเด็นครับ อาจจะชาร์จช้าหน่อยแต่ทำงานร่วมกันได้แน่ๆ
lewcpe.com, @wasonliw
MagSafe เป็นมาตรฐานที่ on top มาจาก Qi นะครับ ฉะนั้นผมว่าไม่ติดอะไร (อารมณ์คล้าย ๆ กับพวกมาตรฐาน fast charging ทั้งหลาย ที่ยังรองรับ USB-PD อยู่)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เห็น The Verge บอกว่าอาจออกช้าสุดเป็น iPhone 17 เพราะกฏหมายไม่มีผลกับผลิตภัณฑ์ที่วางขายก่อนหน้า แต่นักวิเคราะห์อย่าง Ming-Chi Kuo เองก็บอกว่าอาจเปลี่ยนไวสุดตั้งแต่ iPhone 15 เลย (บางรุ่น)