บริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์หลายแห่ง ได้แก่ Boston Dynamics, Agility Robotics, ANYbotics, Clearpath Robotics, Open Robotics, Unitree Robotics ร่วมให้คำมั่นในประกาศชื่อ “General Purpose Robots Should Not Be Weaponized” ว่าบริษัทจะไม่นำหุ่นยนต์อเนกประสงค์มาติดอาวุธหรือใช้เป็นอาวุธ พร้อมทั้งแสดงความกังวลว่าการนำหุ่นยนต์เอนกประสงค์มาทำเป็นอาวุธเป็นเรื่องผิดศีลธรรมและทำให้คนสูญเสียความเชื่อมั่นในเทคโนโลยี
ประกาศยังเน้นว่าบริษัทไม่สนับสนุนให้นำหุ่นยนต์อเนกประสงค์ที่เคลื่อนที่ได้ขั้นสูงที่สามารถซื้อได้ทั่ว ๆ ไปในสหรัฐอเมริกาไปใช้ในทางที่ผิดโดยเฉพาะการทำเป็นอาวุธ โดยบริษัทจะดูแลเรื่องการซื้อหุ่นยนต์ให้มากขึ้นและพัฒนาฟีเจอร์เพื่อป้องกันการนำหุ่นยนต์ไปใช้ในทางที่ไม่ดี
ในช่วงสงครามยูเครน-รัสเซียก็มีรายงานว่ามีการนำโดรนมาติดอาวุธเพื่อดัดแปลงให้เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิด รวมถึงนำอาวุธมาติดบนด้านหลังหุ่นยนต์
ทั้งนี้ ประกาศไม่ได้ครอบคลุมถึงหุ่นยนต์ที่พัฒนาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการทหารและการทำสงครามอยู่แล้ว และไม่รวมกับกรณีที่ Boston Robotics ได้ขายหุ่นยนต์ให้กับตำรวจโดยทำสัญญาว่าให้ใช้เพื่อป้องกันตัวและเพื่อการบังคับใช้กฎหมายเท่านั้น
ที่มา: Boston Dynamics via Ars Technica
Comments
นอกจากคำพูดคำมั่นจากลมปาก มันมีข้อผูกมัดอื่นหรือสนธิสัญญาที่บังคับบริษัทเหล่านี้ในทางกฏหมายมั้ยครับ
มีตัวอย่างของการมีสนธิสัญญาให้ดูครับ
สงครามยูเครน ที่รัสเซียทำมันขัดสนธิสัญญาอะไรบ้างลองหาๆ ดู
ประกาศไม่สนับสนุน
v
ขายให้ประเทศ…
v
ประเทศนั้นเอาไปทำอาวุธ
ยุคของ UAV มาแล้ว ยุคของ UGV คงหนีไม่พ้นเช่นกัน
แม่มดดาวพุธเรอะ
สรุปคือแค่ประกาศปากเปลาไม่สนับสนุนให้ลูกค้าทั่วไปนำไปดัดแปลงเป็นอาวุธแค่นั้นเอง
ปากว่าตาขยิบดีนะ
อันนี้ถามเป็นความรู้นะครับ อยากรู้ว่าบริษัทเอกชนเหล่านี้สามารถทำอะไรได้อีกบ้างครับเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกนำไปใช้เป็นอาวุธจริงๆ
ผมตอบแบบคิดว่าถ้า บ. จะเอาจริงเอาจังเรื่องนี้นะ แต่คิดว่าไม่หรอก
เพราะเอาแบบทำเพื่อป้องกันเลยนะ ก็ทำเหมือนระบบมือถือ CPU บนคอม ที่เจาะเข้า firmware ไม่ได้และมีระบบตรวจเช็คเซนเซอร์ทุกตัวทำงานได้ปรกติเหมือนออกจากโรงงาน มีระบบวัดการทรงตัวและน้ำหนักว่าอยู่ในเกณฑ์ปรกติ มีระบบตรวจเช็คการเคลื่อนไหว ทุกองศายังได้เหมือนเดิม
เข้าใจพอติดตั้งอะไรเพิ่มพวก น้ำหนัก balance เปลี่ยนแน่ การเคลื่อนไหววางท่าทางอาจทำไม่ได้เหมือนเดิม ส่วนจะมีการติดตั้งขั้น advance หรือไม่นั่นก็คงมี แต่คงลดจำนวนไปได้เยอะละ
หรือง่ายกว่านั้นประกาศมาเลยว่าจะ black list ถ้าซื้อไปผิดวัตถุประสงค์ ส่วนการ black list ก็ใช้ระบบ AI ช่วยจะได้ไปอวตารเป็นลูกค้าคน(บริษัท)อื่นได้ยากหน่อย
มันแค่ไม่ได้ขายเทคโนโลยีให้ทหารโดยตรงอยู่แล้ว พอผ่าน sub-contract ของ sub-contract มันก็ไม่รู้แล้ว
ไม่เชื่อ จนกว่าจะเป็นรูปแบบสนธิสัญญา
ข้าขอทรยศต่อคนทั้งโลก ดีกว่าให้ใครมาทรยศข้า
นึกถึง Don't be evil ของ Google
น่าจะยากนะ ธรรมชาติของคน อยู่ในมือคนที่ดีก็เอาไปใช้ในทางที่ดี
อยู่ในมือคนไม่ดี ก็คงแอบทำในที่ลับ เจออีกทีก็ตอนเป็นข่าว
ถ้ามีกำหนดใน Term and Condition ตอนทำสัญญาซื้อขาย ก็มีสิทธิ์โดนแบนห้ามซื้อขายอยู่นะหากพบว่านำไปใช้งานผิดจากข้อตดลง
แต่ต้องมาจากทางบริษัทเป็นผู้บังคับใช้กฎนั้นแทนนะ หากไม่มีกฎหมายหรือมีมติคว่ำบาตรที่ห้ามขายหรือทำธุรกิจอยู่แล้วด้วย
แต่ก็ยังมีช่องโหว่ที่หากซื้อจากมือที่สามหรือใช้บริษัทบังหน้าซื้อมาเพื่อการทหารด้วย กันยากอยู่พอสมควร
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
คงจะเหมือนกะบะติดจรวด
ตอนซื้อคงไม่บอกว่าจะเอาไปทำอะไร
ย่อหน้าสุดท้าย 😏😏😏
ถ้าเป็นจีน การทหารคงเป็นลูกค้าหลักเลยีเดียว