Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

ในโลกของการทำงาน เราต้องยอมรับว่าทักษะและประสบการณ์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะส่งผลกับ ประสิทธิภาพในการทำงานของเราแน่นอน แต่ทักษะกลับไม่ใช่สิ่งจำเป็นเพียงอย่างเดียว นั่นก็เพราะส่วนใหญ่แล้วเราไม่ได้ทำงานคนเดียว เราต้องร่วมมือและประสานงานกับคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ความสามารถทางด้านสติปัญญาหรือ IQ จึงต้องมาพร้อมกับความฉลาดทางอารมณ์หรือ EQ นั่นเอง

EQ คืออะไร?

EQ คือความสามารถในการเข้าใจและจัดการกับอารมณ์ ความรู้สึก ทั้งของตัวเองและเพื่อนร่วมงานของเรา และเมื่อเรามีความเข้าใจก็จะสามารถสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนและบรรยากาศในที่ทำงานในเชิงบวกที่สนับสนุนซึ่งกันและกัน

อยากมี EQ จำเป็นต้องมีทักษะอะไรบ้าง?

Peter Salovey และ John Mayer นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัย Yale กำหนดทฤษฎีภาวะความฉลาดทางอารมณ์ไว้ตั้งแต่ปี 1990 ในภายหลังนักจิตวิทยาที่มีชื่อว่า Daniel Goleman ก็ได้แบ่งเซ็ตทักษะเป็น 4 อย่าง ได้แก่ self-awareness, self-regulation, social awareness และ relationship management

ทักษะ 2 อย่างแรก เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเราเอง self-awareness คือความสามารถในการเข้าใจและจัดการอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง อย่างเช่น เวลาที่มีประชุมหลายอย่างพร้อม ๆ กัน เราก็รับรู้ว่าตัวเองรู้สึกไม่สบายใจและเครียด

ส่วน self-regulate คือความสามารถในการควบคุมตัวเองเมื่อเรามีความรู้สึกในแง่ลบ โดยไม่แสดงความไม่พอใจที่จะทำให้คนอื่นไม่สบายใจที่จะร่วมงานด้วย หรือแม้แต่ทำให้ตัวเองถูกเอาไปพูดในทางที่ไม่ดี เช่น เมื่อเรารู้ว่าเราเครียดเพราะต้องประชุม ก็ไม่ไประเบิดความเครียดของเรากับเพื่อนร่วมงาน

ส่วน 2 อย่างหลังเป็นการเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น social awareness คือ การเข้าใจว่าเพื่อนร่วมงานกำลังรู้สึกอย่างไรอยู่ ส่วน relationship management คือการช่วยให้เพื่อนร่วมงานของเรารู้สึกดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นการให้กำลังใจหรือการช่วยงานให้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

No Description

เราจะพัฒนา EQ ของตัวเองยังไงดี?

Mark Craemer ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาองค์กรเสนอว่า อย่างแรกคือเราควรจะเข้าใจตัวเองก่อน ว่าเรากำลังคิดอะไร รู้สึกอย่างไร หรือเราต้องการอะไร เขาเสนอว่าถ้าอารมณ์ของเรากำลังรุนแรง อย่าเพิ่งโต้ตอบกับใครในทันที แต่ควรตั้งสติและจัดการตัวเองให้ได้ก่อน

ส่วน Amy Bradley ศาสตราจารย์ด้านการจัดการและความเป็นผู้นำของ Hult International Business School ในสหรัฐฯ เสนอว่า เราควรให้เพื่อนร่วมงานที่เชื่อถือได้ร่วมประเมินด้วยว่าเราสามารถจัดการอารมณ์ได้ในระดับไหนและทักษะในการสื่อสารอะไรที่เรายังต้องฝึกอีก ส่วนตัวเราก็สามารถร่วมประเมินเพื่อนได้เช่นกันจะได้ช่วยกันพัฒนาให้ดีขึ้น

ข้อสำคัญของวิธีนี้ก็คือ เราต้องเปิดรับความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน อย่าฟังความเห็นแค่เพื่อแก้ต่างให้ตัวเอง แต่ฟังและปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น เพราะฉะนั้นเราเลยควรจะเตรียมพร้อมที่จะเปิดใจรับฟังก่อน

EQ สำคัญอย่างไร

แน่นอนว่า EQ มีความสำคัญมาก ๆ อยู่แล้วตราบใดที่เราต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น แต่ความสำคัญ EQ ชัดเจนมากขึ้นเมื่อเกิดไวรัสโควิด-19 จากที่เราเจอหน้าเพื่อนร่วมงานทุกวันก็เปลี่ยนมาเป็นการทำงานที่บ้านกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันแทน รวมทั้งเราไม่สามารถเห็นภาษากายหรือได้ยินน้ำเสียงของเพื่อร่วมงานได้ ซึ่งก็อาจจะทำให้การสื่อสารผิดพลาดและมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึก EQ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้งานดำเนินไปได้

ช่วงต้นปี 2022 บริษัทที่ปรึกษาด้านการทำงาน Gallup ออกผลสำรวจเผยว่า พนักงานรู้สึกว่าหัวหน้ามีความเข้าอกเข้าใจตัวเองน้อยลง และการที่พนักงานและหัวหน้ารู้สึกไม่เข้าใจกัน ทำให้ผู้ที่รู้สึกแบบนี้มีแนวโน้มที่จะหางานใหม่หรือไม่ก็หมดไฟในการทำงานมากกว่า 69% ดังนั้นการที่พนักงานไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้ก็ทำให้ภาพรวมการทำงานมีประสิทธิภาพน้อยลง

นอกจากนี้ EQ ยังช่วยให้เราสามารถหลีกเลี่ยงอาการหมดไฟในการทำงานด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือ คนที่มี EQ ก็จะรู้ว่าตอนไหนตัวเองควรออกห่างหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองรู้สึกเครียดเกินไปจนหมดไฟ

หากต้องการหางานดี ๆ เข้ามาหาได้ที่ Blognone Jobs

ที่มา: BBC

Get latest news from Blognone