Joe Belfiore รองประธานบริษัทฝ่ายผลิตภัณฑ์ Office ของ Microsoft ผู้ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าทีมพัฒนา Windows Phone ประกาศเตรียมเกษียณ หลังจากทำงานกับ Microsoft มานาน 32 ปี
Belfiore และคณะจัดการภายใน Microsoft ได้ส่งอีเมลภายในบริษัทเพื่อแจ้งข่าวเรื่องนี้แก่พนักงาน และในเวลาต่อมาเขาได้ทวีตข้อความในบัญชี Twitter ของตนเองเพื่อแจ้งข่าวเรื่องนี้อีกครั้ง
เจ้าตัวยืนยันว่าการตัดสินใจในครั้งนี้เป็นความต้องการของตนเอง ไม่ได้ถูกบีบบังคับจากองค์กรแต่อย่างใด โดยหลังจากนี้เขาจะยังคงอยู่ช่วยให้คำแนะนำและถ่ายโอนงานให้คนที่มาดูแลงานต่อจนถึงช่วงกลางปี แต่ในระหว่างนั้นงานของเขาคือเป็นเพียงที่ปรึกษาเท่านั้น หลังจากนั้นเขาต้องการใช้เวลากับครอบครัวเพื่อดูแลลูกๆ ทั้ง 3 คน
Belfiore เริ่มงานกับ Microsoft เมื่อปี 1990 โดยเข้าร่วมทีมพัฒนา Windows 95 ก่อนที่ต่อมาจะได้ร่วมพัฒนา Internet Explorer, Windows XP แล้วมาทำงานกับฝ่าย Microsoft eHome ตามด้วยงานฝ่าย Entertainment & Devices ก่อนจะมาดูแลงานพัฒนา Windows Phone และก้าวขึ้นดูแลงานด้านบริหารในตอนที่บริษัทพัฒนา Windows 10
จากนี้ไปคนที่จะดูแลงานต่อจาก Belfiore ก็คือ Ales Holecek รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ Office อีกคนที่รับผิดชอบงานร่วมกันอยู่ก่อนแล้ว โดยมี Sumit Chauhan ที่รับผิดชอบงานปัญญาประดิษฐ์เพื่อสนับสนุนการทำงานของผลิตภัณฑ์ Office มาช่วย Holecek อีกคน
ที่มา - ZDNet
Today I shared with my team that after 32 fantastic years (!) I'll be retiring from @Microsoft! What's next? 1) I'm staying on until summer to help with the transition (SO MUCH GOODNESS COMING), then 2) focus on the two kids still at home & the 1 who just started college. :)
— Joe Belfiore (@joebelfiore) October 27, 2022
Comments
ผมว่า Windows Phone ดีนะ ดีกว่ายุค Windows Mobile เยอะเลย เขียนแอปทั่วไปก็ง่าย ตอนใช้ไม่รู้สึกถึงเครื่องช้าเลย แต่แอปน้อยไปหน่อย
+1 เสียดาย Windows Phone ที่ไม่พัฒนาต่อ แทนที่จะเอา Windows 10, Windows 11 มาพัฒนาต่อก็ได้
ทำงานอะไรต่อหว่า เพราะยังมีลูกสองคนต้องดูแล หรือการทำงานที่ Microsoft มานี่ สามารถดูแลตัวเองและครอบครัวยาง ๆ ไปได้แล้ว
ระดับบริหารที่สำคัญในบริษัท ส่วนใหญ่เขาจะแบ่งหุ้นบริษัทใดบริษัทหนึ่ง หรือบริษัทที่บริหารให้เพื่อเป็นแรงจูงใจในการทำกำไร แต่อาจไม่ได้ประกาศเป็นทางการอะไร ดีไม่ดีพนักงานระดับหัวกะทิ บางคนก็อาจได้รับด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีข้อตกลงไม่เผยแพร่ ซึ่งถ้าบริษัทระดับทำกำไรอยู่แล้วมูลค่าหุ้นที่เปลี่ยนแปลงก็ทำให้ดำเนินชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องทำอะไร นอนอยู่บ้านเฉยๆ ก็ได้
สังเกตุไม่ยากหรอกว่าใครได้รับหุ้นบ้าง คนไหนที่บริษัทมีปัญหาอย่างหนัก ถึงระดับลดเงินเดือน หรือระงับจ่ายเงินเดือน แต่ยังสู้ตาย ไม่หนีไปไหน ไม่ลาออก สู้ไปกับผู้บริหาร ผู้ลงทุน ส่วนใหญ่เขาก็มี something นั่นแหล่ะ แต่ถ้าเป็นพนักงานทั่วไป ก็ไปนานแล้ว ซึ่งพนักงานเหล่านี้ ถ้าผ่านวิกฤติได้ เขาก็จะขึ้นมาเป็นผู้บริหารในอนาคตนั่นแหล่ะ
หน้าแกอ่อนวัยมากไม่นึกใกล้60