เพียง 1 สัปดาห์ หลังจาก Elon Musk ซื้อกิจการ Twitter เขาก็เปิดเผยข้อมูล ว่าตอนนี้รายได้ของ Twitter ลดลงอย่างรุนแรง เนื่องจากมีกลุ่มเคลื่อนไหว พยายามกดดันผู้ซื้อโฆษณาให้หยุดซื้อโฆษณาบน Twitter โดยเขาบอกว่าตอนนี้ Twitter ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงวิธีกำกับดูแลเนื้อหา พร้อมบอกคนเหล่านั้นกำลังทำลายเสรีภาพในการพูดของคนอเมริกา
ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่าหลายผลิตภัณฑ์สินค้า ได้ระงับการลงโฆษณาบน Twitter ชั่วคราว แต่มีเหตุผลต่างกันไป เช่นกรณีของ GM ก็บอกว่าเพราะ Elon Musk เป็นเจ้าของ Tesla ที่ถือเป็นคู่แข่ง
Elon Musk เคยให้ความเห็นก่อนหน้านี้ ว่าเขาต้องการให้ Twitter พึ่งพารายได้จากโฆษณาน้อยลง จากปัจจุบันถือเป็นรายได้หลักเกือบทั้งหมด โดยมองโมเดลการขาย subscription อย่าง Twitter Blue ว่าเป็นโอกาสที่จะลดการพึ่งโฆษณา
ที่มา: The Verge
Twitter has had a massive drop in revenue, due to activist groups pressuring advertisers, even though nothing has changed with content moderation and we did everything we could to appease the activists.Extremely messed up! They’re trying to destroy free speech in America.
— Elon Musk (@elonmusk) November 4, 2022
Comments
พอพึ่งโฆษณามากเข้า เสรีภาพบางอย่างก็ต้องยอมนายทุนอีกต่อ
สินค้าต่างๆพากันหยุดซื้อโฆษณาก็ถือว่าเป็นเสรีภาพอย่างนึง ไม่ใช่การทำลายเสรีภาพ
แต่ แต่ แต่... ลูกพีชแช่แข็งของฉันหล่ะ
ปล. ลูกพีชแช่แข็ง = Freeze Peach ที่ออกเสียงคล้ายๆ Free Speech ครับ
WHEEZE
เพราะพี่มาเป็นเจ้าของ ใครๆ ก็รอทีท่าก่อนละว่าจะยังไงต่อ
นึกถึงสมัยก่อน เวลามีข่าวฉาวกับบ.ใหญ่ๆ จะกดดันไม่ให้ทำข่าว/ทำข่าวให้เป็นคุณด้วยการซื้อหรือไม่ซื้อโฆษณาในนสพ.เจ้าใหญ่ บางทีนี่ซื้อแบบเต็มหน้าหน้าหลังสุดเลย เวลามีข่าวลือมาแล้วเจ้าใหญ่จะออกข่าวเชิงแก้ให้
คือบ.ก็มีสิทธิ์ในการเลือกซื้อหรือไม่ซื้อโฆษณา แต่ถ้าตัวสื่อเอง ต้องพึ่งพารายได้จากค่าโฆษณาเป็นหลักจนเกิดภาวะพึ่งพาอาศัยกันก็อย่าหวังถามหาความเป็นกลางอย่างที่พยายามบอก ในแง่นึงก็จริงอย่างที่แกพูดนะ
หยุดซื้อ Ads ในทวิตเพราะอันนี้คาดการณ์นะ
เพราะ overvalue
ทวิตเตอร์เสียฐานผู้ใช้ที่มีความสนใจ การเมือง คนดัง esport บันเทิง นั้นก็ไป tikok เยอะ
ซึ่งทำให้มีความน่าสนใจน้อยลงสำหรับผู้ลงโฆษณา
แต่ก็ได้กลุ่มผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ใช้ภาษา English นั้นจำนวนมากไปสนใจเรื่องของ คริปโต 18+ nsfw เยอะมากที่สุด
ผู้ใช้ทวิตที่มีความสนใจ การเมือง คนดัง esport บันเทิง กลับน้อยลง
ไม่ต้องมีใครกดดันจังหวะนี้ก็ยังไม่น่ามีกล้าลงโฆษณาหรอกครับ เปลี่ยนชุดบริหาร ลดพนักงาน 50% ทิศทางในอนาคตยังไม่มีชัดเจน ผู้ใช้งานลดลงเยอะจนน่าตกใจ และสำคัญสุดคือภาพลักษณ์แบรนด์จะเป็นยังไงในสถานการสุ่มเสี่ยงเสียงแตกแบบนี้ ตอนนี้มันยังอยู่ในช่วงดูเชิงนั่นแหละครับว่าจะเอาไงดี