เว็บข่าว Platformer รายงานว่าเมื่อวันพุธที่ผ่านมา บริษัท Twitter ปิดระบบ Slack และ Jira ภายในที่ให้พนักงานใช้ ให้เหตุผลว่าเป็นการ "บำรุงรักษาตามรอบ" (routine maintenance) โดยระบบ Jira เปิดกลับมาในวันพฤหัส แต่ Slack ยังปิดต่อไป
พนักงานของ Slack ยืนยันว่าไม่ได้มีการปิดระบบเพื่อบำรุงรักษา รวมถึงไม่ได้ปิดบัญชีใช้งานของ Twitter แต่อย่างใด
เหล่าพนักงานของ Twitter ที่ไม่มีเครื่องมือสื่อสารภายในใช้งาน จำเป็นต้องหาวิธีอื่นในการคุยกันแทน (เช่น อีเมล) พนักงานบางรายคาดกันว่าการปิด Slack น่าจะเป็นเพราะบริษัทไม่ยอมจ่ายบิลค่าใช้งาน ตามแนวทางการลดค่าใช้จ่ายของ Elon Musk ที่มีทั้งการไม่จ่ายค่าเช่าตึกสำนักงาน ปิดศูนย์ข้อมูล ปลดภารโรง ฯลฯ
Platformer ยังคาดเดาว่า Elon Musk น่าจะลองปิด Slack ดูว่ามีผลกระทบต่องานแค่ไหน และอาจย้ายไปใช้แอพสื่อสารตัวอื่นๆ เช่น Mattermost แบบที่บริษัท Tesla ใช้
พนักงาน Twitter บอกว่า Slack ไม่ได้เป็นแค่การสื่อสาร แต่ยังเป็น "ความจำ" ขององค์กรด้วย เมื่อพนักงานจำนวนมากโดนปลดออก วิธีการแก้ปัญหาทางเทคนิคที่เหลืออยู่คือการไล่ดูข้อความ error เก่าๆ ใน Slack และดูว่าพนักงานรุ่นก่อนๆ แก้ปัญหากันอย่างไร
ส่วนพนักงานอีกจำนวนหนึ่งเลือกลาหยุดไปเลย เพราะยังไงซะก็แทบทำงานไม่ได้อยู่ดีเมื่อไม่มี Slack
ที่มา - Platformer
Comments
ลองใช้ไลน์มั้ย 5555
มาใช้ไลน์แบบบ้าเราไหมครับ
"เพราะยังไงซะก็แทบทำงานไม่ได้อยู่ดีเมื่อไม่มี Slack"
ลมหายใจตัวแหน่งตัวเองขึ้นอยู่กับเว็บแชทภายนอก
ให้เหตุผลแบบนี้ เอาจริงดิ....
ผมว่าเข้าใจความคิด CEO ที่เคยลองให้เลขาพักร้อนเดือนนึงละ
If your presence doesn't make an impact, your absence won't make a difference.
มันมีบริษัทไหนใช้ระบบแชทภายในด้วยเหรอครับ
MS, google, Amazon(AWS), slack ไงครับ :D
5555555555555555 บล็อค 7 วัน
เอาจริงผมก็สงสัยอยู่ว่า MS นี่เค้าใช้ Teams กันจริงรึเปล่าเนี่ย
เคยต้องใช้ ipmsg อ้างอะไรไม่ได้เลย -____-'
ประเด็นผมไม่ได้หมายถึงต้องใช้แชทภายในครับ
ประเด็นอยู่ที่ว่า แชทภายนอกใช้งานไม่ได้>ทำงานไม่ได้ ต่างหาก
มันดูไม่มี Plan B เกินไปประมาณนั้นครับ ที่ทุก know how จะอยู่ในแชท third party
ผมอ่านแล้วก็เข้าใจสิ่งที่คุณต้องการสื่อตั้งแต่แรกครับ
ลองเปลี่ยนคำว่า "แชท" เป็นอย่างอื่นแทนดูครับ เช่น อีเมล, ระบบเอกสาร, CRM, ERP
เกือบทุกอย่างน่าจะรันจาก third party หมดแล้วในยุคนี้ เช่น Microsoft 365, Sharepoint, Salesforce, Oracle
ดังนั้นประโยคนี้ถูกทุกกรณีเลยครับ
มันไม่ใช่ทุกคนที่ขาดslackจะทำงานไม่ได้
แต่พนักงานคนนั้นอาจจะต้องทำงานที่ใช้slackเป็นหลัก
แล้วระบบถ้ามันล่มใช้ไม่ได้ก็ต้องรอกู้หรือดูสถานการณ์ก่อนครับ
ไม่มีใครที่ไหนเค้ามีแผนสำรองเป็นรื้อระบบเริ่มใหม่ทันที
หรือมีโปรแกรมสำรองทั้งๆที่ไม่เคยได้รับแจ้งมาก่อนว่าslackจะยกเลิกหรอก
ผมเดาว่าปรกติก็มี plan B นะครับ
แต่เคสนี้ถึงมี plan B อันนี้ก็คงไม่รอดมั้ง เพราะเป็นการจงใจ ดังนั้นต่อให้มี plan B,C,D ก็คงจะใช้ไม่ได้เหมือนกัน เพราะอาจจะโดน shutdown ไปด้วย (หรือ plan B อาจจะพังไปแล้วเพราะ engineer ที่ดูแลถูกไล่ออกแล้ว)
นอกเรื่องนิด นึกถึงเคส Azure ล่มไปเมื่อเร็วๆนี้ ถ้าไม่นับ MS เอง บ. ลูกค้าต่างๆ เค้าจะมี plan B เพื่อให้ระบบทำงานต่อได้มั๊ยนะ ถ้ามี บ. ไหนทำได้นี่ผมว่าเค้าเก่งมากเลยเพราะ cloud ทั้งก้อนหายไปเลย
เพราะเมนเทน know how server เองมันอาจแพงกว่าครับ และอาจมีค่าใช้จ่ายซ่อนที่แพงกว่า 3rd party ด้วย
ทำไมผมถึงพูดเรื่องค่าใช้จ่าย? เพราะอีลอนมัสก์สนใจแต่ลดค่าใช้จ่ายครับ ต่อให้เป็น kb ที่เมนเทนเองก็ไม่น่ารอดถูกปิดแบบไม่บอกกล่าว
+1 ครับ
ต่อให้มี plan b มันก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพื่อบำรุงมันเอาไว้ ไม่ว่าจะเทคโนโลยีหรือคน
ถ้าใช้ระบบที่ high availability อยู่แล้ว ความจำเป็นของ plan b ก็ยิ่งน้อยลงไปอีก
สำหรับบริษัทที่ตัดทุกอย่างให้มากที่สุด... ต่อให้มี plan b ก็คงจะถูกตัดไปแล้วล่ะครับ
จริงๆ quote ไม่ค่อยตรงประเด็นเท่าไรนะครับ ในกรณีนี้ ช่องทาง presence เค้าไม่มีต่างหากครับ มันก็เหมือนบังคับให้ absence น่ะครับ
ผมคิดว่า ในสภาวะปกติ
แต่ละคนทำงานส่วนของตัวเอง
ขาด Slack ไป ก้ไม่มีปัญหา
แต่สภาวะสมองไหล เข้าขั้นโคม่าแบบนี้
การที่ต้องตามงานของคนที่ไม่อยู่แล้ว
โดยไม่สามารถติดตามบันทึกการแก้ปัญหาในอดึต
มันทำให้งานยากกว่าเดิมมากอ่ะครับ
ใช้ ms team สิครับ
ประชดนะ แต่จริงๆใช้tool ไหนก็ไม่ต่างกัน แต่ถ้าบอกว่าข้อมูลประสบการณ์สำคัญไปdependentกับtoolแบบตายตัวมากเกินไป ก็น่ากลัวนะ ไม่มีระบบissue tracking อะไรอื่นๆตามมาตรฐานเลยหรือ?
และจริงๆควรจะคุยในemail กันมากกว่าด้วยเช่นการแก้issue/defectมันก็ควรจะมี emailยืนยันอีกทีไหม? พวกที่ชอบยืนยันหรืออนุญาตอะไรผ่าน chat tool แล้วไม่ลงemailทั้งหลายนี่ถือว่าประมาทสุดๆ
ผมเข้าใจว่า มันน่าจะมีการทำระบบ automation ไว้กับ slack ครับ
แล้ววันนึงมันหายไปเฉยๆ มันก็เลยทำงานไม่ได้
ก็คล้ายๆ กับ jenkins หาย คุณก็ไป circle ci ก็ได้ แต่ก็ cnfig บานเบอะกว่าจะใช้ได้
แล้วในกรณี twitter คน config อาจไม่อยู่แล้วก็ได้
issue tracking ที่ว่าก็คือ jira ที่โดนปิดไปชั่วคราวไงครับ
หรือจริงๆ มันไล่ตามดูใน jira ได้แหละ แต่ jira ก็โดนปิดไปก่อนแล้ว
สงสัยว่า Tesla กับ SpaceX ใช้อะไรกัน แบบฟรี?
ผมอาจจะหัวเก่านะ แต่ผมเกลียดพวก instant messaging แบบใช้ในองค์กรมากเลย รู้สึกแบบคนส่งเค้าไม่ค่อยคิดถึงว่ามันเสียเวลาคนรับมากแค่ไหน ผมว่าเครื่องมือแบบนี้มันให้อำนาจกับคนส่งเยอะไปหน่อย
ใช้ Twitter Circle คุยกันไปเลย ไม่ต้องแชท