รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ประกาศว่าจะยกระดับมาตรการห้ามส่งออกเครื่องจักรผลิตชิป ตรงตามที่เคยมีข่าวลือตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเงื่อนไขใหม่จะเพิ่มข้อกำหนดกับเทคโนโลยี DUV ซึ่งเป็นเทคโนโลยีผลิตชิปกระแสหลักที่ใช้งานเป็นวงกว้าง ใช้ผลิตชิปที่เทคโนโลยี 220nm จนถึง 38nm
ก่อนหน้านี้เนเธอร์แลนด์ห้ามส่งออกเครื่องจักรเทคโนโลยี EUV ที่เป็นเทคโนโลยีสูงสุดไปยังประเทศจีนมาก่อนแล้ว ส่งผลให้ ASML ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องจักรกลุ่มนี้รายเดียวไม่สามารถส่งมอบเครื่องกลุ่มนี้ให้กับลูกค้าในจีนได้ แต่ก็ยังส่งมอบเครื่อง DUV อยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนกฎระเบียบใหม่จะมีผลจริงก่อนช่วงหน้าร้อนปีนี้ แสดงว่าน่าจะอีกไม่นานนัก
ตอนนี้ระเบียบจริงยังไม่ออกมาทำให้ยังมีข้อสงสัยอีกมาก เช่น ตัวกฎน่าจะไม่ได้ห้ามส่งออกเครื่องจักรไปยังจีนโดยตรง แต่ต้องขออนุญาตเป็นรอบๆ ไป ซึ่งก็อาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยว่ากรณีไหนได้หรือไม่ได้บ้าง โดยเฉพาะบริษัทผลิตชิปเกาหลีใต้อย่างซัมซุง หรือ SK Hynix ก็มีโรงงานในจีนจำนวนมาก ตลอดจนการซ่อมบำรุงเครื่องจักรที่ขายไปแล้วจะทำได้หรือไม่
ที่มา - IT News
Comments
แล้วญี่ปุ่นที่ยังผลิตเครื่องจักรในกลุ่ม DUV ได้ก็ต้องตามไปด้วยสินะ
ถ้าผมเป็นเนเธอร์แลนด์ก็ต้องรอประกาศพร้อมกันล่ะครับ ญี่ปุ่นไม่ประกาศผมก็ไม่ประกาศ
lewcpe.com, @wasonliw
คงต้องหาวิธีจารกรรมเครื่อง EUV หรือ DUV กันอย่างแน่นอน คิดเป็นหนัง MIx สักภาคได้เลย
สหรัฐเป็นเจ้าของเทคโนโลยี photolithography ชั้นสูง บรรดาอุปกรณ์/ซอฟท์แวร์ที่จำเป็นในการผลิตระดับอุตสาหกรรมไม่มากก็น้อยถ้าสาวไปลึกๆ ต้องอาศัยสิทธิบัตรจากสหรัฐทั้งสิ้น
ขโมยแต่เครื่องไป แต่ operate จนผลิตออกมาให้ใช้งานไม่ได้ ไม่ได้ก็เสียแรง และเสียหน้าเปล่าๆ
วิศวกรรมย้อนกลับไงครับ ไม่เสียแรงเปล่าหรอก ถ้ามันจำเป็นมันก็ต้องทำ เพื่อให้สามารถสร้างเทคโนโลยีระดับนี้ได้ ไม่งั้นก็ไม่สามารถยึดครองโลกได้
ระหว่างที่กำลังง่วนอยู่กับการ revser engineer ของเก่าอยู่เทคโนโลยีมันก็เดินหน้าไปเรื่อยๆนะครับ
---เพิ่มเติม---
ถ้ารื้อเส้นสาย supplier ในการผลิตชิพลึกๆจะเจอว่าเป็นเครือของ American และพวกพ้องทั้งหมดเลยนะครับถ้าจีนจะทำเองทุกอย่างมันคือการ Reinvent the wheel ดีๆนี่เอง
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
ถ้าหงายการ์ดทั้งหมดพร้อมกัน จะทำให้จีนถอยหลัง 10-20 ปี เป็นอย่างน้อย ทั้งด้านอุตสาหกรรม การสื่อสาร และการทหาร (ชิปที่ใช้งานรอบตัวเรา ในเครื่องซักผ้า ตู้เย็น เครื่องปิ้งขนมปัง รถยนต์ จรวด เล็กกว่า 220 nm แน่ๆ)
แล้วสหรัฐก็ไม่หยุดพัฒนาต่อ อีก 10 ปีก็มีเทคโนโลยีรุ่นถัดใช้งานอย่างแพร่หลายแล้ว (EUV พัฒนามา 10-20 ปี) แล้วยิ่งถ้าโดนตัดขาด การพัฒนาทั้ง supply-chain ในเพื่อผลิตและใช้งานในประเทศน่าจะไม่มีประสิทธิภาพและไม่คุ้มในเชิงพาณิชย์เลย สหรัฐเองก็ทราบดี ว่ารวบทั้งสายจากญี่ปุ่น,เกาหลีใต้และไต้หวันกลับมาไม่คุ้ม แต่เอาแค่สกัดดาวรุ่งอย่างจีนน่ะได้
คือถ้าคิดจะยึดครองโลก มันก็ต้องทำอยู่ดีครับ ทำไปพร้อมๆกับทำเทคโนโลยีที่มันเดินหน้าไปนี่แหละ
คนจีนคิดไม่เหมือนคนไทยเพราะเขาคิดจะยึดครองโลก ส่วนคนไทยแค่เอาตัวรอดให้ได้ก็ดีมากแล้ว
(คติประจำใจของคนไทยคือรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี ส่วนของคนจีนคือหนทางหมื่นลี้ เริ่มต้นที่ก้าวแรก)
นี้ละเราควร Boycot อเมริกา บ้างว่า
อย่ามั่วแต่เล่นการเมืองเตะตัดแข่งตัดขาคนอื่นเขา
แน่ใจนะครับ สหรัฐเสียดุลการค้าไทยตลอด แต่ไทยขาดดุลจีนทุกปีนะครับ
เราจะไปคว่ำบาตรคนที่ซื้อของเรา เอาเงินมาให้เรา แต่กลับไปคลั่งไคล้พ่อค้าที่ไม่ซื้อของเรา แล้วแถมคิดจะกินรวบเรา อันนี้ดีแล้วจริงๆรึ?!?
ลองได้ครับ มีหลายประเทศอยากลอง แต่คำถามคือใครจะทำสำเร็จ
แค่สหรัฐก็ GDP 1/4 ของโลกแล้ว รวมกับประเทศที่ขึ้นตรงเป็น G7 ก็เศรษฐกิจเกือบครึ่งของโลก
แล้วทำไมเราไม่บอยคอตจีนบ้างล่ะ คนจีนมาลงทุนในประเทศแทนที่จะจ้างคนพื้นที่ แต่เปล่าให้คนจีนทำเอง ลงทุนเอง แถมให้นะกท่องเที่ยวจีนอีก สามารถใช้เงินของจีนได้ แทนที่จะเป็นเงินของประเทศนั้นๆ
เริ่มจากเลิกใช้ Windows, Mac, iOS, Android ก่อนเลยครับ
เราบอยคอตใครไม่ได้อยู่แล้วครับ ทำอะไรเองไม่ได้ซักอย่าง ต้องพึ่งปลาใหญ่ ขนาดญี่ปุ่นยังต้องคำนับอเมริกา ทั้งที่ก็มีความสามารถมากพอตัว แต่ก็ยังไม่เก่งพอที่จะสร้างระบบโลกขึ้นมาได้ แต่ถ้าเป็นจีนก็ไม่แน่
เริ่มที่ตัวเองได้เลยครับ Computer นี่ก็เทคโนโลยีของเมกา เลิกใช้ PC, Mac, Smartphone ก่อนเลยครับ
ประเทศเราไม่ได้แข็งแกร่งพอจะเอาตัวรอดด้วยคนเดียวครับ
และมันไม่มีประเทศไหนหรอกที่เห็นผลประโยชน์ของประเทศอื่นสำคัญกว่าประเทศตัวเอง ประเทศใหญ่ที่เข้ามาหาเราก็หวังจะกลืนเราทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าจีนหรืออเมริกา วลีที่ว่าบ้านพี่เมืองน้องมันไม่มีจริงหรอกครับ
เพราะงั้นสิ่งที่เราทำได้... ถ้าไม่หักดิบไม่เข้าข้างใครและพยายามยืนด้วยตัวเองไปเลย.. ก็ต้องเป็นนกหลายหัวเข้าหลายข้าง และให้ประเทศเหล่านั้นคานกันเองนั่นแหละครับ (แต่ระหว่างนั้นก็ต้องทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นด้วยเผื่อถึงวันที่ต้องตัดด้วย ไม่งั้นประเทศเราอาจกลายเป็นสนามจำลองสงครามแทน)
ด้วยเหตุนั้น ผมจึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับนโยบายแบนอเมริกาแต่ปล่อยจีนหรือกลับกันก็ตามครับ
+1
+THIS
ไม่เข้าใจคนที่อวยเฉพาะฝั่งแบบสุดลิ่มทิ่มประตูจริงๆ
มันจะทำให้จีนเป็นแบบโซเวียตเมื่อ 50 กว่าปีก่อนเอาน่ะสิครับ วิ่งตามยังไงถ้าไม่เร็วพอก็ตามให้ทันยากครับ
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
จริงๆเมกาต้องการให้แบนทั้งหมด ตามรอยบริษัทเมกาทั้ง AMAT LAM
จุดแยกเทคโนโลยี ตามทฤษฎีวิวัฒนาการไม่ออกทางใดก็ออกทางหนึ่ง เทคโนโลยีพัฒนาตามกันได้หรืออาจจะพัฒนาไปอีกแนวทางหนึ่งเลยก็ได้
ง่ายๆ ก็คว่ำบาตรสินค้าเนเธอแลนด์ กดดันกลับ
แบบนี้ ต่อให้จีนผลิตเครื่องเลียนแบบได้ ก็จะโดนข้อหาละเมิดสิทธิบัตร แล้วหาเรื่องจีนเพิ่มได้อยู่ดี
ทางรอดอาจต้องโดดไป Photonic Chip หรือ Quantum ที่ไม่พึ่งสิทธิบัตร ตต. เลย
แต่น่าจะเจอด่านสิทธิบัตร instruction code อีก อาจต้องสร้างใหม่ที่ไม่ใช่ x86 x64 ARM ฯลฯ
แล้วก็ไปเจอด่านไม่มี Software/App ยอดนิยมอีกชั้น ซึ่งขนาด IA64 ของ Intel ยังไม่รอดตรงนี้
มี RISC-V ที่เป็น open standard อยู่ ซึ่งบริษัทจีนเข้าไปเป็นสมาชิกและพัฒนาชิปโดยใช้สถาปัตยกรรมนี้อยู่
แต่ถ้าโดนจะสกัดไม่ให้ซื้อเครื่องสร้างชิประดับ 220 nm หรือเล็กกว่านั้น ก็ต้องหาทางผลิตเองโดยไม่พึ่งเทคโนโลยีสหรัฐ หรือไม่ให้สหรัฐสกัดขาได้ ก็ยากอยู่ครับ
ตอนนี้จีนลองวัดพลังกับเมกาดู แต่ ณ จุดนี้ ยังไงก็ต้องยอม อยู่ที่ว่าจีนจะถอยยังไงให้ได้เปรียบในการบุกครั้งหน้า
ก็เรื่องของชาติมหาอำนาจอ่ะจะ อยากจะสู้กันก็สู้ไป ขออย่าให้เป็นสงครามจริงๆเหมือนที่รัสเซียกับยูเครน(และกองหนุน) ก็พอ
..: เรื่อยไป
จุดอ่อนของเมกาก็ตรงที่เป็นประชาธิปไตยนี่แหละ ถ้าจะแข็งกับจีนก็ต้องแข็งให้ตลอด ไม่ใช่ได้ประธานาธิบดีใหม่มาแล้วอ่อนให้จีนนิดนึง หรือกลับลำมาจูบกับจีนอีก แบบนี้ก็หยุดจีนไม่ได้หรอก
ไบเดนนี่คนละฝั่งกับทรัมป์เลยนะครับ เพิ่งย้ายข้างกันมาปีกว่า
lewcpe.com, @wasonliw
ทำกับโซเวียตมาได้แล้วนะครับ
มีแต่แข็งมากกับแข็งน้อยแล้วล่ะสำหรับจีนตอนนี้ กลายเป็นศัตรูหลักของเมกาไปละ
ลองไปค้นประวัติการก่อตั้งเมืองชื่อ Zelenograd สมัยครั้งยังเป็น Soviet ได้ครับ แป๊กสนิท
ปัญหาที่เหมือนจะโดนมองข้ามมาโดยตลอดคือการโดนลอกเลียนแบบเทคโนโลยีและกีดกันทางการค้าหรือการเข้าถึงเนื้อหาผ่านทางระบบต่างๆ โดยไม่สามารถฟ้องร้องหรือเรียกร้องอะไรได้เลยแถมหลังๆเอาเงินฟาดไล่ซื้อแล้วเคลมไปเลยมันก็เทาๆแหละ ยอมรับนะถ้าคิดระบบเทคโนโลยีต่างๆขึ้นมาเองตั้งแต่ศูนย์ก็น่าจะมีคนยกย่องแต่ใช้ทางลัดก็สะดวกอยู่ดี
แบน กีดกัน ลดการแข่งกัน ผู้ขาด ไม่มีคู่แข๋ง สุดท้ายผลร้ายก็ตกทีผู้บริโภค ของราคาขึ้น
คู่แข่งก็ยังเหลือนิ แค่ตัดบางส่วนจากจีนออกไป
กลับกันการมีจีนเข้ามาตลาด นี้ทำบ.ที่พยายามออกเทคใหม่ๆตายไปเยอะเลยนะ
สินค้าบางตัวมันมีปัจจัยทางเศรษฐศาสตร์อื่นๆที่ต้องเอามาคิดถึงผลได้เสียมากกว่าแค่ของราคาขึ้น บางอย่างถ้าไม่แบนอาจเป็นผลดีในระยะสั้นแต่เป็นผลร้ายแรงในระยะยาว
อันนเห็นด้วยครับ อย่าให้จีนได้สินค้าหรือทำอะไรได้ ไม่งั้นมนุษยชาติล่มสลายแน่ ใกล้ๆนี่ก็โควิด หรือการจ้างคน การลงทุนในประเทศนั้น การท่องเที่ยวที่ทำกับประเทศอื่นแบบแย่ๆ
จีนนี่ยึดแอฟริกาจนสิ้นชาติกันเลยรึเปล่าครับ
เคยดูหนังช่วงนึง ที่รายได้อันดับ 1 ในจีนถล่มทลาย
เป็นหนัง Propaganda ชาติจีน ในทวีปแอฟริกา
อยากให้ดูเรือดำน้ำก่อนค่อยแบนเมกา 😂