ถ้าจะมีใครสักคนบอกว่า Instagram เปลี่ยนไปมากแค่ไหน นับจากวันแรกที่เป็นแอปแชร์รูปถ่าย มีให้ใช้เฉพาะ iPhone ในตอนนั้น ก็คงต้องเป็น Kevin Systrom หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Instagram ซึ่งเขาพูดถึงประเด็นนี้ ในการให้สัมภาษณ์ในพอดคาสต์รายการตอนล่าสุดของ Kara Swisher ซึ่งบันทึกจากการสนทนาบนเวทีในงาน SXSW 2023
Kevin บอกว่าตอนนี้ Instagram สูญเสียจิตวิญญาณที่ทำให้ Instagram เป็น Instagram เนื่องจาก Meta พยายามสร้างโมเดลทำเงินบนแพลตฟอร์มากเกินไป ทำให้แอปไม่มีคุณค่าในการติดต่อกับเพื่อนและครอบครัวผ่านโพสต์ต่าง ๆ แล้ว สิ่งที่เขาเสียใจที่สุดคือแอปตอนนี้เป็นเรื่องการตลาด-โฆษณามากไป
เขาอธิบายเพิ่มเติมว่าผลประโยชน์ที่มีมากขึ้น ทำให้แพลตฟอร์มเน้นการสร้างรายได้ ภาพที่ออกมาในโซเชียลนี้จึงเป็นความสวยงาม ความหรูหรา และต้องมีการใส่แฮชแท็ก ที่ล้วนเป็น #ads จึงทำให้เกิดโซเชียลทางเลือกเช่น BeReal ที่ให้ผู้ใช้งานแชร์ภาพที่เป็นอยู่จริงในตอนนั้น
Kevin Systrom ลาออกจาก Instagram ในปี 2018 หลังขายกิจการให้ Meta ซึ่งตอนนั้นยังชื่อบริษัท Facebook เมื่อปี 2012 ด้วยมูลค่าถึง 715 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบันเขาและ Mike Krieger ผู้ก่อตั้ง Instagram อีกคน มาพัฒนาแอปอ่านข่าว Artifact
สามารถฟังพอดคาสต์ On with Kara Swisher ตอนนี้ได้ทาง Apple Podcasts และ Spotify
ที่มา: Business Insider ภาพ @Kevin
Comments
บริษัทแม่ยังเปลี่ยน บริษัทลูกจะเหลืออะไร
สมัยก่อนอ้างเชื่อมต่อสังคม เดี๋ยวนี้เน้นชมโฆษณาทุก 3 ช่อง
มีแต่โพสต์ที่ไม่ได้ติดตาม โฆษณาก็น่าเกลียด จนต้องยอมลบบัญชีเลิกใช้ไป เหลือแค่ทวิตเตอร์อย่างเดียวละ โฆษณาน้อยกว่า แถมก็เป็นโฆษณาที่เกี่ยวข้องจากบัญชีที่ติดตาม
โมเดลเก่าก็ไม่น่าอยู่รอดมั้งครับ
เอาเข้าจริงแค่พอเหมาะมันก็อยู่รอดนะ แต่มันไม่รวย โลกทุนนิยมก็แบบนี้แหละ รวยธรรมดาไม่ได้ต้องรวยสุด
โฆษณาเยอะจนน่าเกลียด
คนเมกันถึงเลิกเล่นเยอะ
เล่นแป๊บๆ เลิกเลย เนื้อในก็ไม่ได้มีอะไรมากกว่าไปถ่ายรูปมาขิงกัน. พออัด ads มารัวก็จบเลย
ยัดเยียด post จากคนที่เราไม่ได้ติดตามเยอะเกินไป น่ารำคาญ
แต่นี่ชอบเข้า IG มากกว่า TT นะ หรือเพราะฟีดมีแต่หมาแมวก็ไม่รู้เลยสนุกมากแต่ใน TT มีแต่คนมาอ่านข่าวลือโน่นนี่ให้ หรือมาสรุปข่าวเม้ามอยสังคม มันคนละแนว แต่ใด ๆ ก็คือโฆษณาเยอะนี่ยอม IG มารัวมากแม้แต่ใน Story
TT ถ้าปัดให้ถูกก็จะเจอแบบเดียวกันกับ IG นี่แหละครับ 😅
ผมอ่านแล้วสงสัยต่อว่า ถ้าคุณ Kevin ค่อนข้าง Concern เกี่ยวกับจิตวิญญาณของตัว App ที่หวังเงินมากเกินไป
ทำไมตอนนั้นถึงขายให้ Facebook ล่ะครับ แล้วเงินที่เขาได้จากการซื้อขายครั้งนั้นก็ไม่ใช่น้อย ๆเลย
ไม่ใช่แอพตัวเองแล้วจะพูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่นยังไงก็ได้ โลกเรามันก็ยังเงี้ย
เศษฐีหลายๆคนก็ชอบมาประโคมข่าวว่าตัวเองใจบุญประหยัดสมถะไม่หวังผลกำไรเพื่อสร้างภาพทางการค้า
แต่ลับหลัง10คนจะมีสักกี่คนที่ทำบุญเพื่อสังคมจริงๆโดยไม่หวังผลตอบแทน
เห็นด้วยเลยครับ
ตัวเองเป็นคนขายไปเองไม่ใช่หรือ แล้วการขายออกไปก็แสดงว่าจริงๆ แล้วคุณก็ต้องหวังเงินมากกว่าจิตวิญญาณของสิ่งที่คุณสร้างมา
จะตัวคุณหรือเมต้าก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่