ASUS ยืนยันว่าเครื่องเล่นเกมพกพา ROG Ally ที่เปิดตัวเมื่อวันที่ 1 เมษายน ไม่ใช่มุกแต่เป็นเครื่องเล่นเกมจริงๆ และตอนนี้มีหน้าผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์ Best Buy แล้ว เพียงแต่ยังไม่เผยข้อมูลสเปกละเอียด วันวางจำหน่าย และราคา
ข้อมูลของ ROG Ally ที่ประกาศไว้ในวัน April Fool's คือใช้ซีพียู AMD Ryzen แบบคัสตอม, หน้าจอ 7" Full HD, รองรับการต่อจีพียูภายนอก, รัน Windows 11 และรองรับ Game Pass
ตลาดเครื่องเล่นเกมพีซีขนาดพกพามีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ นอกจาก Steam Deck ที่เปิดตัวในราคาเริ่มต้น 399 ดอลลาร์ ยังมี Logitech G Cloud ราคา 349 ดอลลาร์, Ayn Loki ราคา 299 ดอลลาร์ และ Aya Neo Air ราคา 599 ดอลลาร์
It’s real!Stay tuned for more 👀Want to know when pre-orders start?👉https://t.co/ljc2GNN0UU#ROG #ROGALLY #PlayALLYourGames pic.twitter.com/IG6vDtgTag
— ROG Global (@ASUS_ROG) April 3, 2023
คลิปเปิดตัววัน April Fool's
ที่มา - Engadget
Comments
กะไว้แล้วว่าทำจริง
ตลาดนี้กำลังฮอตเลย ของมาขายหมดตลอด
ตอนนี้ดูเหมือน Steam Deck จะเป็นเพียงตัวเลือกเพียงหนึ่งเดียวสำหรับคนไม่ชอบ Windows 11
เข้าใจว่าเครื่องเล่นพวกนี้ส่วนใหญ่จะลง OS อื่นได้นะครับ เพราะงั้นถ้าไม่ชอบ Windows ก็สามารถลง SteamOS แบบ Steam deck ได้เช่นกัน
แต่ก็นะ ไม่ใช่อะไรที่ผู้ใช้ทั่วไปจะทำได้ง่ายๆนั่นแหละ
ผมคิดว่าเครื่องที่มาพร้อมกับวินโด้ ยังไงก็ต้องโดนคิดค่าซอฟท์แวร์รวมไปด้วยแล้วน่ะครับ แล้วมันก็ไม่ใช่ถูก ๆ ด้วย อย่างน้อย ๆ ก็ต้อง 4800 บาท
ถ้าซื้อเครื่องมา แต่ตัดวินโด้แล้วไปติดตั้งลีนุกซ์ ผมว่ามันเหมือนเอาเงินจำนวนไม่น้อยไปทิ้งน่ะครับ
มันคือเครื่องเล่นเกมครับ ต่อให้ไม่ใส่ Windows ยังไงก็ต้องใส่ OS อะไรมาซักอย่างให้เกือบพร้อมเล่นเกมได้ตั้งแต่ออกจากกล่องมากที่สุดครับ เพราะงั้นตราบเท่าที่ตั้งใจจะขายให้เกมเมอร์ทั่วไป จะขายเครื่องเปล่าแล้วให้ผู้ใช้ไปหา OS มาลงเองไม่ได้แน่นอน
ซึ่ง OS ที่จะเอามาลงนั้น... ต่อให้ใช้ open source OS สำเร็จรูปที่พร้อมเล่นเกม (อย่างพวก ChimeraOS หรือ HoloISO) ยังไงก็ต้องคอยปรับแต่งและซัพพอร์ตอยู่ดีครับ เมื่อรวมต้นทุนพัฒนาและซัพพอร์ท OS แล้ว สู้จ่ายให้ commercial OS อย่าง Microsoft (แน่นอนว่า Windows OEM ราคาไม่ถึง 4800 อยู่แล้ว) หรือ Steam (ถ้าจะขายเครื่องที่ลง SteamOS ยังไงก็ต้องเสียตังให้ Steam) จากนั้นก็ซัพพอร์ทแค่พวก Driver ต่างๆ อาจจะต้นทุนน้อยกว่าด้วยซ้ำครับ
พูดง่ายๆก็คือ ต่อให้ไม่ใส่ Windows ยังไงก็ไม่น่าจะกดราคาถูกกว่านี้ได้อยู่ดีครับ ซึ่งระหว่างเครื่องที่เป็น Windows กับเป็น OS อะไรไม่รู้ที่ราคาเท่ากัน ผมคิดว่าหลายคนน่าจะรู้สึกว่าเครื่องที่เป็น Windows คุ้มกว่านะครับ
ปล. แต่ถ้ามีขาย Developer Edition ที่เป็นเครื่องเปล่าราคาถูกกว่าผมก็ซื้อนะ 55+
ผมเคยหวังว่าการมาของ Steam Deck น่าจะช่วยคลายเชือกเกมผูกขาดของไมโครซอฟท์ได้ครับ (แล้วผมก็เชียร์ด้วย แต่ในไทยซื้อยากจริง ๆ ยังไม่เห็นร้านไหนขาย เห็นแต่พวกร้านออนไลน์)
ทีนี้อ่านไปอ่านมา ชักไม่แน่ใจแล้วเหมือนกันครับ ... ปีก่อนมี AYA Ayn Anbernic GPD ฯลฯ ปีนี้มี ROG Ally เอซุสเอากะเขาด้วย แล้วอนาคตอีก แบบนี้ท่าจะยาก
การพัฒนา OS มันไม่ใช่เรื่องง่ายครับ การคาดหวังให้บริษัทที่ทำแต่ Hardware ซะส่วนใหญ่มาพัฒนา OS ตัวเองมันเป็นไปได้น้อยมากที่จะสำเร็จอยู่แล้วครับ
ถ้าจะหวังก็คงต้องหวังให้บริษัท Software ทำนั่นแหละ และไม่ใช่แค่บริษัททั่วๆไปด้วย Steam เองที่สามารถดัน Steam Deck ขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะ Steam มีร้านค้าเกมด้วย จึงสามารถกดราคาเครื่องให้ถูกลงได้ ซึ่งไม่ใช่อะไรที่บริษัทอื่นๆจะทำตามได้ง่ายๆครับ
แต่ไม่ต้องมาลุ้นว่าจะเล่นเกมได้ไม่ได้เพราะมี anticheat นะครับ
"ไม่ชอบ Windows 11"
ตอนนี้มีเครื่องเล่นตัวไหน ที่มี Dock ไว้ต่อออก TV แบบ Nintendo switch ไหมครับ ถ้ามีก็น่าสนใจหน่อย
ต่อได้เกือบทุกตัวครับ Steam Deck, Aya Neo ต่อได้แต่ Performance อาจจะตกลงหน่อย
อ้าวไหงงั้นล่ะครับ
ปกติต่อ Dock ต้องมี Performance ดีขึ้นนี้นา
กลายป็นตกลงเฉยเลย
Resulution มันสูงขึ้นก็ต้องใช้พลังประมวลผลเพิ่มขึ้นแหล่ะครับ ปรกติเครื่องพกพาพวกนี้ส่วนใหญ่ resoltion เขาออกแบบมาให้เหมาะกับพลังประมวลผลมันจะเล่นได้ดีในแบบพกพา แต่พอต่อจอนอกเจอจอความละเอียดสูงขึ้นก็จะมี frame rate drop ลงหน่อยเพราะมันก็ยังใช้ GPU ตัวเดียวกันกับตอนเล่นพกพานั่นแหล่ะ
เอาง่ายๆ ลองหยิบ Notebook Gaming ใกล้ๆ ตัวมาลองดู ปรกติมันจะทำงานที่ FHD ลองเอาไปต่อจอ 4K ดูจะเห็นว่ากระตุกกระจาย เครื่องพกพาก็อารมณ์นี้แหล่ะครับ
ปกติแล้วเครื่องเล่นพวกนี้เสปคมันไม่ได้แรงมากแต่เล่นเกมได้ลื่นเพราะความละเอียดจอของเครื่องเล่นมันไม่สูง (ส่วนใหญ่แค่ 720p) พอต่อออกจอมันก็ปรับความละเอียดสูงขึ้นประสิทธิภาพก็เลยตกครับ
ส่วนที่ต่อ Dock (หรือเสียบสายชาร์จ) แล้วประสิทธิภาพดีขึ้นนั้น เป็นเพราะมันสามารถใช้ไฟได้เต็มที่โดยไม่ห่วงเรื่องแบต ก็เลยทำงานได้เต็มประสิทธิภาพต่างจากตอนไม่ต่อครับ ทำนองเดียวกับ Laptop Gaming เสียบสายชาร์จเล่นเกมได้ดีกว่าไม่เสียบนั่นแหละครับ (แม้เราจะตั้งค่าให้มันทำงานเต็มที่ก็ตาม แต่เบื้องหลังส่วนใหญ่มันก็แอบลดอยู่ดี)
เข้าใจว่า Switch ตอนไม่ได้ต่อ Dock มันลดประสิทธิภาพลงพอสมควรเพื่อให้ประหยัดแบตมากขึ้น เพราะงั้นตอนต่อก็เลยประสิทธิภาพดีขึ้นแบบรู้สึกได้ (แม้ความละเอียดจอจะเพิ่มขึ้นก็ตาม) ส่วนเครื่องอื่นๆผมไม่แน่ใจ แต่ถ้าเครื่องอื่นมันสามารถทำงานได้เกือบเต็มประสิทธิภาพแบบไม่แคร์แบตแม้ไม่ได้ต่อสาย การต่อ Dock หรือเสียบสายชาร์จก็เลยไม่ได้ช่วยเรื่องประสิทธิภาพมากนัก และอาจจะตกลงนิดหน่อยจากความละเอียดจอที่มากขึ้นครับ
ซ้ำ
FYI Steam Deck ต่อ dock แล้ว performance ไม่ดรอปนะครับ เนื่องจาก SteamOS จะ fix resolution ของเกมไว้ที่ 800p เหมือนที่เล่นบนจอของเครื่องครับ แล้วอาศัยการ upscale resolution ให้เท่ากับขนาดหน้าจอที่ต่อ ดังนั้นต่อ TV 4K ก็เล่นเกมได้ไม่มีปัญหาครับ
ตัวนี้ต่อ external GPU ได้ครับ เสียบแล้วแรงขึ้น
ผมคนนึงที่ซื้อละ ลุ้นเข้าไทยมาก นั่งทำงานแล้วนั่งเล่นเกมต่อมันปวดหลัง
ตอนนี้ Steam Deck หาซื้อง่าย ขายกันเพียบ ราคาไม่ hype แบบช่วงแรกๆแล้วครับ ใน commu ส่วนใหญ่บอกว่าหนักไป พกพาไม่สะดวก เล่นเกม triple A ไม่ค่อยได้ ตัว analog ก็ไม่ทน จอก็สีซีด เลยขายทิ้งไปฝั่ง windows กันซะเยอะ โดยรวมชอบบางเบา จอ 6" กัน