Twitter ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ขึ้นชื่อเรื่องการเปิดเสรีทางเพศให้ผู้ใช้งานมาตลอด ก่อนหน้านี้ในนโยบายของ Twitter ระบุไว้ชัดเจนว่า “ห้ามโจมตีผู้อื่นด้วยคำหยาบคาย เหยียดหยามหรือเนื้อหาที่ลดทอนความเป็นมนุษย์, ลดตัวหรือสร้างภาพลักษณ์ผู้อื่นในเชิงลบหรือเป็นอันตราย รวมไปถึงการเปลี่ยนเพศเป้าหมายหรือการใช้ชื่อเก่าของบุคคลข้ามเพศ (การใช้ชื่อเก่า หมายถึง เรียกคนข้ามเพศด้วยชื่อเดิม)” แต่ในวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา เนื้อหาของนโยบายดังกล่าวได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยถูกตัดข้อความบรรทัดสุดท้าย ในส่วนที่เป็นความคุ้มครองบุคคลข้ามเพศโดยเฉพาะออกไป
Sarah Kate Ellis ประธานเจ้าหน้าที่ CEO of the Gay & Lesbian Alliance Against Defamation (GLAAD) ได้บอกว่าการปรับปรุงนโยบายนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เนื่องจากการเผยแพร่ข้อมูลข้อมูลที่ผิดและสร้างความเกลียดชังกับบุคคลข้ามเพศจากสื่อ นักการเมือง และกลุ่มหัวรุนแรง” ยังกล่าวอีกว่าการตัดสินใจทำเช่นนี้ของ Twitter เป็นการลดความไว้วางใจให้ผู้ใช้และคนที่จะลงโฆษณา โดยก่อนหน้านี้ยอดการลงโฆษณาบน Twitter น้อยลง
ถึงแม้ว่า Elon Musk บอกว่าแผนคือ การให้ความสำคัญกับ ตรงกลางที่เหมาะสม โดยที่ Twitter ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่ให้คุณค่าสำหรับแบรนด์ โดยจำกัดการเข้าถึงคำพูดที่แสดงความเกลียดชังแทนที่จะลบออก ซึ่ง Elon Musk ยังกล่าวอีกว่า “หากมีคนพูดแสดงความเกลียดชัง ไม่ได้หมายความว่าคุณควรส่งโทรโข่งให้ประกาศ” แต่เราจะไม่แนะนำเนื้อหาที่แสดงความเกลียดชังให้กับผู้อื่น
การเปลี่ยนแปลงของนโยบายคุ้มครอง LGBTQ เป็นแค่ส่วนหนึ่งหลังจาก Elon Musk เข้ามาเป็น CEO ของ Twitter เพราะก่อนหน้านี้ก็มีกระแสเรื่อง Twitter ที่ต่างประเทศมีการปิดกันแสดงพรีวิวลิงก์เว็บที่มีคำว่า “trans, transgender, gay, lesbian, queer, bisexual, และ intersex”
ที่มา: arstechnica
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
ก็เฮียแกเขา Pro Free Speech นี่ครับ
ไม่ได้โปร Safe Speech
Free Speech ที่คิดเงิน ค่าสมัคร เดือนละ $8 บริการดุจญาติมิตรแต่คิดเงิน จริง ๆ
ก็ยัง Free speech อยู่นะครับ แต่ถ้าจ่าย $8 จะเป็น Premium speech 🤣
*Freemium speech
ผมนี่รอพัฒนาไปเป็นกาชาเลย
แบบซื้อเครดิตสำหรับโพสอิสระ ผิดกฎยังไงก็ได้
แต่จะ random ว่าโพสติดหรือเปล่า
ถ้าไม่ติด = เสียเครดิตฟรี
ผู้ใช้ก็พยายามโพสใหม่จนกว่าจะติด หรือเครดิตจะหมดก่อน 🤣
มันเคยมีกฎแบบนั้นด้วยเหรอครับ เห็นใส่โจมตีกันระรัวในนั้นมาตอดลเลยนะ 😂
เคยมี แต่บังคับใช้ไม่ทั่วถึง แต่ตอนนี้คือไม่มีครับ
ถ้าของไทย ใช่ครับ แทบไม่เคยเห็น tweet ไหนโดนลบ เหมือนไม่มี mod
แต่ของอเมริกา หรือพวกประเทศภาษาอังกฤษจะเป็นอีกแบบนึง ก่อนหน้านี้ เห็นโดนลบกันบ่อยๆ
ของไทยมี "ชายแท้" งอกมาเพื่อการนี้ใช่ไหม ?
อย่าไปประสาทตามนะครับ ผมเคยประสาทตามพวกนี้ไปรอบนึงสรุปคือยังไงมันก็จะด่าครับ ไม่ฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น จะเยาะเย้ยเราอีกที่ไปดิ้น ทั้งที่กุต้องดิ้นเพราะว่ากุโดนด่าเต็มๆทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย แล้วพวกนี้ทุกคนโปรไฟล์ปลอมทั้งนั้น มันสืบเสาะประวัติเราทุกอย่างแต่จะไม่กล้าโผล่หน้ามาที่โลกความจริงหรือโลกของ Facebook โคตรเสียเวลาประสาทแดกด้วยครับ ไม่น่าเข้าไปส่องในทวิตเลย
ขอบคุณสำหรับแนวคิดดีๆ ครับ ช่วงนี้หงุดหงิดประเด็นนี้มาก
อนาคตของชาติสุดท้ายคงจะวนลูปเดิมๆ มีแต่ศูนย์กลางจักรวาลเต็มบ้านเมืองไปหมด
ยังไม่นับรวมพวกอยากมาปั่นอย่างเดียวด้วย พวกนี้ไม่เจาะจงเลือกฝั่งนะ อยากปั่นเอาสนุกเฉย ๆ นี่แหละ ต่อให้คุณแค่สงสัยแต่ถ้าคุณเสวนาต่อคุณอาจจะได้อาการหัวร้อนเพิ่มเข้ามาด้วย มีหลายเพจเลยที่ผมสิงสถิตอยู่ ส่วนมากเข้ามาปั่นล้วน ๆ 555
อย่า Woke Fem แล้วจะสบายใจฮะ
คำนี้ใช้ในหมู่ "กะเทย" (not degeneracy, but life style) ไว้เรียกกลุ่มเกย์ที่ทำตัวเหมือนผู้ชายน่ะ หรือเอาไว้ล้อเลียนกันเองเหมือนกับคำว่าคำว่า "รุกแท้" มันใช้กันมานานมากจนผมลืมไปละว่าจุดเริ่มต้นมันมาจากไหน แต่ดราม่าเหมือนจะมาจากกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเอาคำนี้มา "ปั่น" จนมันแพร่หลาย พอคนทั่วไปเข้ามาเห็นมาก ๆ เริ่มสงสัยก็เข้ามาถาม แต่กลายเป็นว่าโดนปั่นเข้าไปด้วยเลยหัวร้อนกัน จริง ๆ มันมีคนอธิบายไปละแต่สู้กระแสปั่น และ "พวกหิวแสง" (aka, พวก LGBT ที่โดนด่ากะเทยเกย์มาก่อนแล้วเก็บกด พอได้ทีแล้วเอาใหญ่) ไม่ได้ ดราม่าเลยไม่จบสิ้นนี่แล
ผมเองเป็น LGBT ยังงงเลยว่ามันกลายมาเป็นดราม่าได้ยังไงกัน ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด
ปล. ref มาจากเพจ "น้องง" ถ้าลองย้อนอ่านโพสต์เก่า ๆ จะเข้าใจได้ทันที
อันนี้แอบเห็นด้วยอยู่ การเรียกร้องความเท่าเทียบ มันไม่ควรจะเริ่มจากกฏพิเศษเฉพาะกลุ่ม
แล้วเรื่องสีผิวนี้มีการห้ามด้วยปะครับ ?
อยากจะบอกว่ามีปัญหาใหญ่กว่าเรื่องพวกนี้รออยู่ หาคนทำข่าวให้
Ref: https://twitter.com/gen_stamps/status/1649011191497342976?s=20
https://intellectual-property-helpdesk.ec.europa.eu/news-events/news/intellectual-property-and-social-media-2020-01-23_en
กำลังจะออกมาเม้นเลยว่าตัวผมเองก็พึ่งรู้ตัวว่าโดน buzz word ไป 55555 🙏
ปิดกันแสดง ?
ก็จริงนะ บางครั้งการให้สิทธิพิเศษเฉพาะกลุ่มเกินไปก็ยิ่งทำให้คนกลุ่มนั้นโดนมองไม่ดี ผมกลับมองว่าการข้อตกลงที่เป้นกลางและเท่าเทียมกันทุกคนมันเหมาะสมกว่า จริงๆ แล้วจุดที่หายไปมันก็อยู่ในข้อความที่เหลืออยู่อยู่แล้ว ที่ตัดไปเป็นแค่ส่วนขยายความเท่านั้น
The Dream hacker..