เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2023 ทาง Guerrilla Games ได้ปล่อย DLC ใหม่ของเกม Horizon Forbidden West ในชื่อ Burning Shores ซึ่งเป็นการขยายเรื่องราวเพื่อพา Aloy ตัวเอกของเกมไปผจญภัยในดินแดนใหม่ ๆ โดย DLC ตัวนี้ลงให้กับ PS5 เท่านั้น (ตัวเกมหลักลงทั้ง PS5 และ PS4)
ข่าวนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเกม Horizon Forbidden West : Burning Shores
เหมือนโลกจะสงบสุขดีแต่เรื่องราวกลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อมีผู้เล่นบางส่วนได้เล่นเกมนี้ไปจนถึงฉากหนึ่งของเกมที่มีตัวเลือกให้ Aloy ตัวเอกของเกมสามารถจูบกับ Seyka ซึ่งเป็นตัวละครหญิงคนใหม่ของ DLC นี้ได้ ซึ่งมีผู้เล่นบางส่วนไม่พอใจกับฉากนี้ในเกมอย่างมาก
ซึ่งนั่นนำมาสู่การถล่มรีวิวใส่ตัวเกมผ่านเว็บไซต์ที่รวบรวมคะแนนรีวิวชื่อดังอย่าง Metacritic ซึ่งล่าสุดตัว DLC ตัวนี้ มีคะแนนจากฝั่งผู้เล่นอยู่เพียง 3.6/10 คะแนน ในขณะที่คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์เฉลี่ยอยู่ที่ 82/100 คะแนน โดยคำวิจารณ์ฝั่งผู้เล่นจำนวนมากที่วิจารณ์แง่ลบโวยว่าเกมแฝงนัยทางการเมืองและสนับสนุน LGBT
ที่มา - Kotaku, Metacritic
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
eewwww
ก็เลือกได้นินา ไม่ได้บังคับว่าเป็นแบบนั้น
ตัวละครหญิงเลือกได้ แต่พอเป็นตัวละครชายจะไม่มีให้ตอบรับ ไง
อันนี้ผมไม่แน่ใจนะว่าถ้าเลือกไม่รับจะเป็นยังไง
แต่ถ้าตัวเกมทำฉากจบแบบไม่รับออกมาได้ด้อยกว่าหรือดูเป็น bad end มากกว่าฉากจบแบบรับ หรือทำให้รู้สึกเหมือนกับว่ายังเล่นเกมไม่จบ มันก็เหมือนบอกกลายๆว่าคำตอบที่ถูกคือต้องเลือกรับนั่นแหละครับ
ยัดเข้าไป เอาให้สุด
ไฟนอล XVI บอกจะมีตัวละคร LGBT+ ถ้าเป็น Clive ขึ้นมาคนจะมาบอมบ์รีวิวมั้ยเนี่ย
ก็ต้องดูก่อนครับว่ามันสมเหตุสมผลมั้ย ไม่ปูมาให้ตั้งแรกมั้ย ถ้าบทไม่ได้ยัดเยียดผมว่ามันไม่น่าจะโดนหนักขนาดเกมอื่นๆ
The Dream hacker..
เอาจริงๆ มันขัดกับบุคลิคของ aloy ด้วยแหละ
จากสาวแกร่ง ไม่แคร์ใคร อยู่ๆ มี dlc มาเจอตัวละครใหม่ เจอกันไม่นาน กลายเป็นคู่เลสเบี้ยนเฉยเลย
นี่มันแปลกๆ ดูยัดเยียดเกินไปนะ
คนไม่แคร์ใครอยู่ๆ ตกหลุมรักแบบค่อนข้างกระทันหันนี่ผมว่ามันก็ไม่ได้หายากขนาดนั้นนะครับ 🤔
จะเอาใจเพศทางเลือกแต่โดนเอง
ผมรอสไปดี้ที่กำลังจะออกเป็นเกย์ กับ วูลฟเวอรีนเป็นเพศเฮลิคอปเตอร์จู่โจม
ผมคงไม่ได้คิดไปคนเดียว ว่าการยัดฝืนๆ แบบนี้มันจะถูกจารึกไปในปวศ.ให้คนรุ่นหลังได้รู้ว่า...อย่าหาทำแบบนี้
โคตรฝืน โคตรยัด มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
ถ้าเปิดให้เลือกว่าจะโรแมนซ์ตัวละครชายได้ด้วย คงไม่เป็นแบบนี้ นี่คือยัดมาเลย
That is the way things are.
ผมไม่ได้เล่น เนื้อเรื่องมันดูยัดเยียดจนถูกรีวิวบอมบ์ หรือเพราะโดนรีวิวบอมบ์เพราะคนไม่ชอบที่เป็นเลสเบี้ยนครับ
+1
อย่าเพิ่ง +1 สิ ข้างบนนั่นคำถามนะครับ แหะ แหะ
+1 เพราะคิดสงสัยเหมือนกันไงครับ แหะ แหะ
ไม่ได้เล่นนะครับ แต่เท่าที่ตาม ถ้าพูดถึงสาเหตุของรีวิวบอมบ์เรียกว่าเป็นเพราะทั้งสองอย่างรวมกันมากกว่าครับ
ถ้าแค่เนื้อเรื่องยัดเยียดเฉยๆ อย่างมากมันก็จะจบแค่ว่าเป็น DLC ตัวนึงที่ทำออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่เท่านั้นเอง หรือถ้าแค่ใส่ LGBT เข้ามาเฉยๆไม่ได้ยัดเยียดให้ (เช่น ตอนจบเลือกตัวละครไหนก็ได้) ผู้เล่นส่วนใหญ่ก็คงไม่ได้คิดมากอะไร
แต่พอรวมกันเป็นยัดเยียด LGBT ให้ มันทำให้รู้สึกเหมือนว่าที่เกมมันออกมาแบบนี้เป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากกลุ่ม Woke แรงต้านมันก็เลยระเบิดออกมามากเป็นพิเศษครับ
สรุปก็คือ บอมบ์เพราะรู้สึกว่า Woke มายุ่มย่ามกับเกมที่ตัวเองชอบนั่นแหละครับ
จริงๆ อันนึงที่ผมค่อนข้างสงสัยคือมันยัดเยียดยังไงน่ะครับ 🤔
คือแบบ ถ้า DLC นี้มันจบที่ตัวละครอีกฝั่งเป็นอีกเพศนึงแล้วมันจะไม่ยัดเยียดอะไรแบบนี้เหรอครับ?
เท่าที่ฟังมาคือยัดเยียดเพราะมีตัวเลือกเดียวและบทไม่ดีพอนะครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
ต่อให้เปลี่ยนเป็นเพศอื่น ถ้าบทไม่ดียังไงมันก็คือยัดเยียดเหมือนกัน แต่ก็อย่างที่บอกว่ามันก็จะจบแค่เป็นแค่ DLC ตัวหนึ่งที่คนไม่ชอบเท่านั้น ไม่ได้มีประเด็นเรื่อง woke ต่อจนเลยเถิดมาเป็นรีวิวบอมบ์ครับ
เพราะงั้นผมเลยมองว่าจุดเริ่มต้นของรีวิวบอมบ์มันจึงเกิดจากทั้ง 2 สาเหตุร่วมกันมากกว่าแค่อันใดอันหนึ่งครับ
ขอบคุณครับ
อ่าฮะ เห็นมีเม้นของ BigKung บอกว่าดันมีแต่ตัวเลือกของเพศทางเลือก ดันไม่มี่ตัวเลือกของเพศทางตรง อันนี้ก็เข้าเค้านะ มันดูบังคับจริงๆ คือถ้ามาก่อนหน้านี้สัก 5 ปีคนคงไม่คิดอะไร แต่มาตอนนี้คนเลยตีไปว่าเล่นกระแส woke แน่นอน
ผมไปอ่านทางต่างประเทศ หลายคนโมโหว่าไม่มี safe space ให้ผ่อนคลาย เจอยัดเยียดไปหมด ทั้งหนังกระแสหลัก ทั้งออนไลน์สตรีม ทั้งอนิเมชัน พอมาเจอในเกมที่กลายเป็นเลสไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยตบะแตก
อ่านคอมเม้นเข้าใจแล้ว ประเด็นคือเรื่องแบบเพศปกติไม่มีให้เลือกแต่พอเป็น เพศทางเลือกนี่ดันมีให้เลือก มันเลยดูไม่เท่าเทียมไปในตัวเลย
คือก่อนหน้านี้มันก็ไม่มีตัวละครรองมาก่อนไหม
ไม่ต้องอ้างถึง คนที่อยู่ในศูนย์ฯ ในนั้นไม่ว่าชายหรือ หญิงก็เลือกไม่ได้เหมือนกัน
ตอนแรกก็เหมือนจะปูบทให้ Varl
ภาค 2 จู่ๆยัด Zo มาแล้วก็แบบเห้ยยยย
อ้าาาาาาาาาาาาาาา
ผมยังยืนยันนะครับ
ภาคนี้ผู้ชายเป็นไอ้งั่ง แม้แต่ไซเลนท์
มันยังโดนเนิร์ฟเลย แต่ดูทรงค่ายเอาตายในภาค 3 แน่ๆ
และส่งเสริม female superiority
อย่างชัดแจ้ง ถ้าไม่ติดว่าภาคแรกมันดีงาม
ผมไม่กัดฟันทนเล่นจนจบ
ซื้อ PS5 มาเล่น DLC ละกัน
สำหรับเหล่า gamer อะไรที่ไม่ใช่ชายแท้กับหญิงแท้ถือว่าการเมืองทั้งหมด 😌
ใส่เข้ามา x
ยัดเยียด o
ลองมองกลับไปที่เกมฝั่งญี่ปุ่น ฝั่งนี้ใส่เข้ามาไม่ยัดเยียดก็ไม่มีใครบ่นนะ
ถ้าเคยเล่นภาคหลัก (ทั้งภาคแรกและภาคสอง) ตามเนื้อเรื่องจะบอกว่า Aloy เป็นโคลนนิ่งของนักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อว่า Elizabeth
ซึ่งประเด็นคือ Elizabeth มีเฉลยตั้งแต่ภาคหลักแล้วว่าเป็นเลสเบี้ยน
แต่ก็จะมีคำถามต่อว่า ร่างโคลนนิ่งจำเป็นจะต้องมีความชอบทางเพศเหมือนกันร่างต้นแบบมั้ย อันนี้ตอบไม่ได้เหมือนกันครับ
ส่วนตัวไม่ได้มองว่ายัดเยียดอะไรขนาดนั้น แต่มองว่ามันดูแปลกๆนิดหน่อย เพราะบุคลิคของ Aloy ดูเป็นแนวๆไม่สนใจเรื่องรักๆใคร่ๆเลยมากกว่า
เพราะภาคที่ผ่านๆมา มีคนพยายามเข้าหาทั้ง ผญ ผช แต่ดูเหมือน Aloy ไม่ค่อยสนใจ (มุ่งแต่จะกู้โลกอย่างเดียว)
แต่เกมอื่นที่ตัวละครชายฉกรรจ์มีฉากอัศจรรย์กันเป็นปกติ มีมานาน ไม่โดนประเด็นแบบนี้แหะ