Carl Pei ซีอีโอของ Nothing ให้สัมภาษณ์กับสื่ออินเดีย IndiaToday เนื่องในโอกาสเปิดตัว Nothing Phone (2) โดยเขาได้รับคำถามว่า Nothing มีแผนทำมือถือจอพับด้วยหรือไม่
คำตอบของ Pei คือทุกวันนี้มือถือจอพับของทุกบริษัทหน้าตาเหมือนๆ กันไปหมด ถ้าไม่เห็นโลโก้ไม่มีทางแยกแยะได้เลยว่าเป็นสินค้าของบริษัทไหน เขายังบอกว่าลูกค้าไม่ได้เดินๆ อยู่แล้วพูดว่าอยากให้มือถือของตัวเองพับได้ ซึ่งนวัตกรรมจอพับเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตดันให้ลูกค้าใช้งาน แต่ไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ
เขายืนยันว่า Nothing ไม่มีแผนทำมือถือจอพับในเร็วๆ นี้แน่นอน
ที่มา - Android Authority
Watch the biggest interview of 2023: Carl Pei exclusive #TechToday #ITLivestream @aayush_a6 | @getpeid https://t.co/lHvTqM8x5r
— IndiaToday (@IndiaToday) July 8, 2023
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- สงคราม AI 2024: OpenAI ชิงปาดหน้า Google วันเดียว | Cloudnone EP.17
- Microsoft, Amazon, Google ประกาศตั้ง Data Center ในไทย แล้วไงต่อ | Cloudnone EP 16
- Deleted video
- สงคราม GenAI บนคลาวด์ในปี 2024 ไปถึงไหนกันแล้ว | Cloudnone x AWS
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
Comments
ก็ลองให้จอพับมันรคาไม่เกินหมื่นสิ คนเดินๆกันนี่ซื้อจะใช้กันเต็ม ที่ตอนนี้ไม่มีคนใช้เพราะมันแพงนะ
ผมอยากให้มือถือตัวเองพับกางได้ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วแล้ว (มี Sony กับ NEC มั้งที่ทำออกมาตอนนั้น) แต่ผมไม่ยักกะเคยเดินๆอยู่แล้วอยากให้มือถือตัวเองไฟกระพริบทั้งแผงหลังแฮะ
ใดๆก็ตามแต่ ถ้าต้องรอให้ลูกค้าพูดออกมาเองก่อนว่าต้องการอะไรก็ไม่มีทางเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมได้หรอก
อันที่อยากได้น่ะมี แต่ทำได้หรือเปล่าน่ะสิ
อยากได้แบบชาร์จแบตเดือนละครั้งอะไรแบบนั้น หรือไม่ต้องมากังวลเรื่องแบตอีกต่อไป
ผมว่า feature phone น่าจะทำได้นะครับ
ถึงจะไม่ถึงเดือนแต่ก็เป็นสัปดาห์อยู่ครับ
นี่ระดับยังไม่ถึงสัปดาห์ยังเจ๊งเลยครับ https://www.blognone.com/node/108347
ส่วนตัวผมมองว่าลูกค้ามันเป็นคนละกลุ่มกันครับ
ผมมองว่าลูกค้าที่รู้สึกว่า 1 วันไม่พอแต่ 3-4 วันพอ กับลูกค้าที่รู้สึกว่า 1 วันไม่พอแต่ 1 เดือนพอ เป็นลูกค้าคนละกลุ่มกัน และผมคิดว่าลูกค้ากลุ่มแรก (1 วันไม่พอ 3-4 วันพอ) น่าจะมีค่อนข้างน้อยพอสมควร ก็เลยเป็นเหตุให้มันเจ๊งครับ
ส่วนตัวผมเองก็ไม่แล smartwatch ที่แบตอึดน้อยกว่า 1 สัปดาห์เหมือนกัน เพราะงั้นต่อให้พัฒนาให้แบตอึดจาก 1 วันเป็น 3-4 วันผมก็ไม่สนใจอยู่ดี
ผมหมายถึงความหนาน่ะครับ ถ้าอยู่ได้เดือนนึงน่าจะหนาประมาณ 1 ฟุต ซึ่งน่าจะเรียกว่าโทรศัพท์ไม่ได้แล้ว orz
แต่ถ้าตัดฟีเจอร์เยอะๆ ก็คงได้อยู่ครับ Sony เองก็เคยทำโหมดประหยัดแบตมากๆ ที่ตัดฟีเจอร์เหี้ยนอยู่และอยู่ได้นานมาก ตอนนี้ไม่รู้ยังอยู่มั้ย
จริงๆก็ไม่แน่เสมอไปนะครับ
ใจความที่ผมอยากจะสื่อก็คือ... เราเอาความล้มเหลวของมือถือแบตอึด 3 วัน มาเทียบกับ 1 เดือนโดยตรงไม่ได้ซะทีเดียว เพราะกลุ่มลูกค้าต่างกันครับ
คือลูกค้าที่มองว่ามือถือแบตอึด 1 วันไม่พอเนี่ย เขาก็มีโจทย์ของเขาอยู่ครับว่าต้องการแบตอึดแค่ไหน ซึ่งถ้าไม่ถึงโจทย์ที่เขาตั้งไว้มันก็ไม่มีค่าอะไรครับ เช่น ถ้าเขาตั้งโจทย์ไว้ว่า 1 สัปดาห์ จะแบตอึด 1 วันหรือ 3 วันมันก็เหมือนๆกันนั่นแหละ
ซึ่งผมมองว่ากลุ่มลูกค้าที่ตั้งโจทย์ว่าต้องการมือถือแบตอึด 3 วัน กับต้องการมือถือแบตอึด 1 เดือน มันแตกต่างกันพอสมควรเลย และกลุ่ม 1 เดือนอาจจะรับได้ที่ความหนา 1 ฟุตก็เป็นได้ครับ
ขอบคุณครับ
คือจะว่าแง่นั้นก็ใช่ แต่ผมไม่คิดว่ามันจะ practical เท่าทำระบบรับพลังงานจากภายนอกเข้าไปน่ะนะครับ
แทนที่จะเป็นแบตอึดเดือนนึง ผมอยากให้มันชาร์จไร้สายได้ทุกที่มากกว่า (อย่างน้อยก็ในบ้านกับที่ทำงาน) จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตจริงๆ 55+
แต่ก็ไม่แน่ใจว่าระหว่างพัฒนาแบตให้อยู่ได้เดือนนึงโดยไม่เสียประสบการณ์ใช้งาน กับพัฒนาระบบชาร์จไร้สายให้มันครอบคลุมบริเวณกว้าง อันไหนจะง่ายกว่ากัน?
เทคโนโลยีแบตเตอรี่ยังพอเห็นข่าววิจัยแบตเตอรรี่ชนิดใหม่ออกมาอยู่บ้าง แต่เทคโนโลยีชาร์จไร้สายไม่ค่อยเห็นข่าวเลยแฮะ
ผมเขียนประโยคเค้าน่ะครับ
“ ซึ่งนวัตกรรมจอพับเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตดันให้ลูกค้าใช้งาน แต่ไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ”
อันที่ลูกค้าต้องการจริงๆน่ะมันจะทำได้หรือเปล่า
ฟังสัมเรื่องจอพับแล้วแบบอิหยังวะกับความคิดceoมาก
ตอบแบบคนปกติไม่เป็นเหรอต้องมาแพล่มอีโก้ตัวเองให้คนอื่นฟัง
ยัดเยียดอะไรคนซื้อมันก็มีปัญญาเลือกรุ่นเองได้มั้ยว่าจะเอาพับไม่พับ
ทำพับแนวแทยงเลย ต้องแหวก