หนังสือชีวประวัติ Elon Musk ที่เขียนโดย Walter Isaacson เล่าถึงช่วงที่ Musk เริ่มเข้าทำงานที่ Twitter (ตอนนี้เปลี่ยนเป็น X) เขาได้สั่งให้พนักงานไปค้นหาประวัติการคุยใน Slack ของพนักงานคนอื่น เพื่อดูว่ามีพนักงานคนไหนบ้าง ที่มีแนวโน้มพูดลับหลังไม่ดีต่อ Musk ซึ่ง Keyword ที่ใช้ในการค้นหาคือ “Elon” ต่อมาพนักงานเหล่านั้นก็โดนไล่ออก
Musk เคยประกาศว่าเขาสนับสนุน “Free Speech Absolutist” และการเข้าซื้อ X ก็เพื่อสร้างพื้นที่ให้คนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่หลากหลายได้
เดือนกรกฎาคม X ยื่นฟ้อง Center for Countering Digital Hate (CCDH) องค์กรไม่แสวงหากำไรที่คอยควบคุมคำพูด Hate Speech ทางออนไลน์ เนื่องจาก CCDH รายงานว่าแพลตฟอร์ม X เต็มไปด้วยเนื้อหาที่เป็นอันตราย ทาง X โต้ตอบว่า CCDH คัดเลือกโพสต์ที่ไม่เหมาะสมทำให้ผู้ที่จะมาลงโฆษณาไม่กล้าลง
Musk ยังโทษสาเหตุที่ยอดขายโฆษณาลดลง 60% เพราะกลุ่ม Anti-Defamation League (ADL) กลุ่มสิทธิพลเมืองที่ออกมาคัดค้านลงโฆษณาในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังจากที่ Musk เรียกคืนบัญชีของโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อมา Musk เลยออกนโยบายใหม่กับพนักงานว่า การคัดค้านลงโฆษณาจะเท่ากับแบล็กเมล์ เมื่อเห็นโพสต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับแบล็กเมล์สามารถแบนได้ทันที
ที่มา: Bloomberg
Comments
Free speech ที่ไม่ Free
"สร้างพื้นที่ให้คนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่หลากหลายได้" แต่ใครด่าตูโดนไล่ออกนะเอ้อ
Free Speech เฉพาะตัวเองไง ตัวเองมีสิทธิ์คนเดียว พอคนอื่นเรียกร้องสิทธิ์คือฝ่ายตรงข้ามทันที จะยัดเป็นสีอะไรก็ว่าไป
มีอิสระในการพูดไม่ใช่แปลว่าไม่ได้รับผลกระทำในการพูดครับ
อิสระในการด่าคนก็ไม่ถูกนะครับ
ถูกแล้ว ก็เขาซื้อมาแพง จะทำอะไรก็ได้
ผู้นำในการสร้างพื้นที่เสรี แต่ถ้าใครพูดไม่เข้าหูผู้นำโดนเก็บ
คุ้นๆเนาะๆ
เสรีภาพของเขา != เสรีภาพของเรา มันขึ้นอยู่ที่ใครเป็นผู้มีอำนาจในการนิยามคำว่า เสรีภาพใน domain นั้น
คุมทุกอย่างแล้วบอกอิสระ ใช่แหละอิสระของelonคนเดียว
Rule for thee; not for me!
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
แม้แต่กฎหมายไทยถ้าเขียนด่าเจ้านาย ผู้บังคับบัญชาในบริษัทตัวเอง กฎหมายแรงงานก็มีช่องให้ไล่ออกโดยไม่จ่ายค่าชดเชย แถมฟ้องแพ่งไล่หลังได้อีกได้อยู่นะ
แต่จะว่าไป ไปเขียนด่านินทาคนอื่นในเครือข่ายระบบของบริษัท มันก็หมิ่นเหม่ตั้งแต่แรกแล้ว แม้ว่าตอนแรกจะยังไม่ใช่เจ้านายตัวเองก็ตาม? อีกอย่างที่โดนให้ออก ก็อาจจะเป็นlot layoff พอดี ซึ่งปกติเวลาคัดรายชื่อเขาก็ไล่ลำดับจากพฤติกรรมส่วนตัวด้วยเช่นกัน(ถ้าของไทยก็ impactต่องาน,ระดับค่าจ้าง,การทำผิดกฎบริษัทเช่น มาสาย เล่นเนทเล่นเกมมือถือในเวลาทำงาน อันหลังสุดบางอันเขาmonitorไว้มีรายงานหมด คือใช้เนทผ่านเครือข่ายบ.ไปใช้ส่วนตัวจนเปลืองbandwidth หรือบางที่ห้ามเล่นเกมมีในกฎด้วย แต่บางทีไม่ได้ลงโทษทันทีแต่จะเก็บมาเป็นคะแนนตอน listรายชื่อนี่แหละ)
ถ้ายุคก่อนเคยเห็นมีคนใช้email บริษัทส่ง fwd mailพวกคำคม บทความที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงาน (สมัยนั้นfree emailให้พื้นที่น้อย)แล้วโดนเตือนโดนไล่ออกเช่นกัน
ให้อิสระย่อมหมายถึงโดยส่วนตัวแต่ต้องไม่ใช่ผ่านทรัพยากรของบริษัทไม่ว่าทางใดๆ
ถ้าด่าบนทวิต/X ก็รอดแล้ว
ความรู้ใหม่เลยครับ
Slack นี้เจ้าของ workspace สามารถอ่านการสนทนา/ประวัติแชทของทุกคนได้หรอครับ?
ที่ลบไปแล้ว << หาข้อมูลไม่เจอแล้ว, private channel, direct message ก็ export มาได้ครับ มีเขียนไว้ในหน้าเว็บของ Slack
ก็พูดได้เสรีครับ แต่ทำงานบริษัทที่ด่าไม่ได้
Narcissistic personality disorder - Wikipedia
จริงๆแล้วการด่า/นินทาคนอื่นมันก็ผิดอยู่แล้ว ยิ่งมาใช้ระบบขององค์กรอีกนะ
ถามว่าคนที่โดน (ถ้าโดนเฉพาะ"ด่า"ไม่ใช่การวิเคราะห์วิจารณ์) ต้องถูกลงโทษก็ไม่แปลก แต่ขนาดไล่ออกก็ดูโหดจริงละ
ส่วนที่น่าจะตะหงิดใจกันทุกคน คือพึ่งซื้อมา ปัญหาเยอะแยะ ดันเอาเวลา/ทรัพยากรไปหาคนด่าตัวเองก่อนเป็นอย่างแรกนี่ก็....นะ