พบกันอีกครั้งกับกับนิทรรศการเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น Tokyo Game Show 2023 งานปีนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21-24 กันยายนที่ผ่านมา ณ ศูนย์แสดงสินค้า Makuhari Messe เช่นเคย

ที่พิเศษสำหรับปีนี้คือเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่หลัง COVID เป็นต้นมา ใช้พื้นที่ Messe อย่างคุ้มค่า ครบทั้ง 11 ฮอลล์ แน่นอนว่าผมมีโอกาสได้ไปร่วมงาน และเก็บบรรยากาศมาฝากกันเช่นเคยครับ

คำเตือน: ภาพประกอบเยอะมาก

หน้างาน

บรรยากาศหน้างาน

Bethesda ขึ้นป้ายโฆษณาอลังการเป็นประจำ (แต่กลับไม่มีบูทของตัวเองในงานซะงั้น) ปีนี้ติดป้าย Starfield ยิ่งใหญ่มาก ถึงขนาดที่ป้ายงาน TGS เอง ต้องหลบไปอยู่ข้าง ๆ เลยทีเดียว ที่แอบแปลกใจคือยังมีป้าย Fallout 76 อยู่ด้วย

Square Enix

เป้าหมายหลักของผมในปีนี้คือไปลองเล่น Final Fantasy VII Rebirth ครับ ซึ่งน่าจะเป็นเกมที่คิวยาวที่สุดในงานแล้ว

ในงานมีเดโม 2 พาร์ทให้ลองเล่น คือพาร์ทเนื้อเรื่องส่วนที่ Sephiroth ร่วมทีมกับ Cloud และพาร์ท Open World ซึ่งผมเลือกเล่นพาร์ทแรกครับ

สำหรับ Gameplay ในส่วนของ Combat นอกจากสามารถเล่นเป็น Sephiroth ได้แล้ว ระบบเกมไม่ต่างจากภาค Remake มากนัก แต่ในส่วนการสำรวจโลก (exploration) มีความ interactive มากขึ้น เช่น มีการปีนป่ายตามจุดไฮไลท์สีเหลือง (แบบ Uncharted หรือ Tome Raider) และ Puzzle เล็ก ๆ น้อย ๆ (ในเดโม ผมต้องเข็นเครื่องดูดฝุ่น!)

ความเห็นโดยรวมหลังจากได้ลองเล่นแล้ว แล้วไม่ถึงขั้นประทับใจสุด ๆ แต่ก็ไม่แย่ครับ

เกมเด่นอีกเกมในบูทคือ Foamstars เกมยิงโฟมที่ลอกได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Splatoon เต็ม ๆ

ตอนแรกผมว่าจะไปลองเล่นอยู่เหมือนกัน แต่คิวค่อนข้างยาว และเกมเวอร์ชัน Open Beta ก็กำลังจะมาอยู่แล้ว เลยตัดสินใจข้ามไปครับ

เกมอื่น ๆ ที่นำมาจัดแสดงก็มี Infinity Strash (เกมจาก Dragon Quest ภาค The Adventure of Dai), Star Ocean The Second Story R (Remake เกมภาค 2), และ Final Fantasy XIV แต่ไม่ได้รับความสนใจเท่ากับ 2 เกมแรกครับ

Capcom

ในปีนี้ เกมที่เด่นที่สุดหน้าบูทเป็น Street Fighter VI และ Dragon’s Dogma II ครับ

ผู้ที่สนใจ Street Fighter VI สามารถลองเล่นตัวละครใหม่ A.K.I. ได้ก่อนออกให้เล่นในอาทิตย์หน้า และส่วนตัวผู้เขียนไม่ได้สนใจซีรีส์ Dragon’s Dogma สักเท่าไหร่ เลยไม่ได้ไปต่อคิวเล่นทั้งคู่ครับ

ที่คิวยาวที่สุดในบูท คงหนีไม่พ้นโซนทดลองเล่น Resident Evil 4 VR Mode บน PlayStation VR2 ครับ แต่ที่ผมคิดว่าน่าสนใจคือ Resident Evil Village เวอร์ชั่น iPad ที่เอามาให้ทดลองเล่นได้ในงานด้วย

นอกจากนี้ก็มี Resident Evil 4 DLC Separate Ways ที่เพิ่งออกสด ๆ ร้อน ๆ แต่เนื่องจากเกมออกแล้ว ในบูทก็จะเหงา ๆ หน่อยเพราะเล่นเองที่บ้านได้อยู่แล้ว

Koei Tecmo

ที่เด่นที่สุดหน้าบูทรอบนี้คือเกม Fate/Samurai Remnant

แต่เกมที่ส่วนตัวผมสนใจมากที่สุดเป็นเกมสาวปรุงยาภาคล่าสุด Atelier Resleriana (ที่ดันกลายเป็นเกมกาฉะมือถือไปซะแล้ว) ที่บูทมีฉาก มีสแตนด์ มีคอสเพลย์ให้ถ่ายอย่างจุใจ แต่ผมไม่เห็นมีเกมมาให้ลองเล่นซะอย่างนั้น

Bandai Namco

ทั้งบูทเห็นแต่ TEKKEN 8 เด่นสุดเลยครับ ขนาดที่ไม่เห็นป้ายบูท Bandai Namco เองด้วยซ้ำ และคิวทดลองเล่นก็ยาวมหาศาลมาก จนผมต้องขอยอมแพ้ไปอีกแล้ว ฮา

SEGA Atlus

ทางฝั่ง SEGA แม้มี Sonic ตัวใหญ่อยู่หน้าบูท แต่ Sonic Superstars กลับเงียบสนิท เมื่อเทียบกับ Like a Dragon (Yakuza) ภาคใหม่คือ The Man Who Erased His Name และ Like a Dragon 8 Infinite Wealth ช่วงที่ผมไปถึงบูทนั้น ตรงกับช่วงที่มีการเปิดตัวสาว Hostess จากในเกมพอดี ได้เจอคุณ kson ตัวจริงด้วยครับ

ส่วนทางฝั่ง Atlus แน่นอนว่าหากินกับ Persona ครับ ปีนี้เกมที่น่าสนใจที่สุดคือ Persona 3 Reload ตอนแรกผมเข้าใจว่าเป็น Remake ดาด ๆ แต่พอได้เห็นของจริงแล้วพบว่ามันคือเกมที่ใช้ระบบที่พัฒนาต่อจาก Persona 5 น่าเล่นมาก ๆ ครับ

อีกเกมหนึ่งที่น่าสนใจคือ Persona 5 Tactica ซึ่งเป็น spinoff จาก Persona 5 (อีกแล้ว)

คราวนี้มาเป็นเกม Tactical Turn-based Strategy (ที่บ้านเรานิยมเรียกว่าแนว Final Fantasy Tactics) ในกราฟฟิกแบบ SD สุดน่ารัก

Konami

Konami ปีนี้ถึงออกบูทใหญ่ แต่ไม่มีเกมใหม่ที่น่าสนใจเป็นพิเศษเลยครับ ที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็น Metal Gear Solid Master Collection ที่เป็นแพ็กเกจรวมเกมเก่า ๆ แต่คิวลองเล่นแน่นมาก เนื่องจากแจกเสื้อยืดครับ

ที่หลังบูทมีเกมจากค่าย Falcom มาออกบูทพ่วงเช่นเคย ปีนี้มีเกม Ys ภาคใหม่ Ys X Nordics มาให้ลองเล่นครับ

เกมจากบูทอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Honkai: Star Rail ที่บูท Hoyoverse

เกมที่ว่ากันว่าจะเป็น Armored Core Killer นั่นคือ Custom Mech Wars ที่บูท D3 Publisher

Needy Streamer Overload ที่บูท Happinet

Kyrie & Terra เกมกาฉะของคนไทยจาก Center To Seconds ที่ปีนี้มาเปิดบูทด้วยครับ

ส่งท้าย

โดยรวม แม้ปีนี้เป็นงานใหญ่ แต่ส่วนตัวแล้วแอบผิดหวังเล็กน้อย เพราะปีนี้มีเกมดี ๆ ออกมาเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่นั้นถ้าไม่ออกขายไปแล้ว ก็เป็นเกมจากค่ายฝั่งตะวันตก ที่ไม่ค่อยมาร่วมงานกันสักเท่าไร

ส่วนเกมใหญ่ ๆ จากฝั่งญี่ปุ่น นอกจาก FFVII Rebirth แล้ว กระแสเกมอื่นยังไม่ค่อยแรงนัก หลายเกมก็ออกไปแล้ว หรือใกล้ออกมาก ๆ แล้วแล้ว เลยไม่มีความรู้สึกกระตือรือล้นที่จะต่อคิวเป็นชั่วโมง เพื่อรอเล่นก่อนชาวบ้านเพียงไม่กี่วันสักเท่าไหร่ครับ

สุดท้ายนี้ผมต้องขอขอบคุณ Blognone ที่ให้โอกาสผม (และทีมงาน) ได้เป็นตัวแทนไปร่วมงานและเก็บประสบการณ์มาแบ่งปันครับ ก่อนจากกัน ผมขอส่งท้ายด้วยสิ่งที่น่าสนใจเช่นเคย แล้วพบกันใหม่ปีหน้าครับ