กสทช. ออกมาตรการกำหนดให้ผู้ถือครองซิมจำนวนมาก (6 เลขหมายขึ้นไป) ต้องยืนยันตัวตนและให้ข้อมูลการใช้บริการกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2567 เป็นต้นไป รายละเอียดสำคัญระบุว่า
- ผู้ที่ถือครองซิมการ์ด ตั้งแต่ 6-100 หมายเลข ให้ยืนยันตัวตนภายใน 180 วัน
- ผู้ที่ถือครองซิมการ์ด 101 หมายเลข ขึ้นไป ให้ยืนยันตัวตนภายใน 30 วัน
หากไม่ยืนยันตัวตนในระยะเวลาที่กำหนด จะถูกพักใช้งานทั้งโทรออกและอินเทอร์เน็ต (ยกเว้นโทรเบอร์ฉุกเฉิน) หลังจากนั้น 30 วัน ถ้าไม่มีการยืนยันตัวตน จะถูกเพิกถอนการใช้เบอร์ของซิมการ์ดในครอบครองทั้งหมด
กสทช. บอกว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกับผู้ใช้งานส่วนใหญ่ โดยมีผู้ใช้งานที่เข้าข่ายต้องยืนยันตัวตนประมาณ 3 แสนราย หรือร้อยละ 0.5 มาตรการนี้เป็นการออกมาเพิ่มเติมเพื่อป้องกันปัญหามิจฉาชีพ จากที่มีอยู่แล้วหลายมาตรการ
ทั้งนี้ AIS ได้ประกาศว่าจะส่ง SMS แจ้งลูกค้าที่ถือครองหมายเลขตั้งแต่ 6 เบอร์ขึ้นไปให้ยืนยันตัวตน ในวันที่ 16 มกราคม 2567 นี้
ที่มา: กสทช.
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
รวมผู้ใช้รายเดือนด้วยไหมครับเนี่ย
อิงตาม 3 ชั้นผมมี 6 เบอร์ แล้วผมยังต้องไปลงทะเบียนอีกมั้ย ในเมื่อผมมี 3 ชั้นอยู่แล้ว
ไหนๆ แล้ว บังคับใช้แอพ3 ชั้น กับเบอร์เปิดใหม่ด้วยไปเลยสิ
จริงๆ อยากให้มี3 ชั้นของแบ้งด้วยจะดีมากเลย จะได้รู้ตัวหากมีใครแอบเอาข้อมูลเราไปเปิดบัญชี
ต้องมี smartphone สินะ ไม่งั้นมีซิมไม่ได้
ผมมองว่า 3 ใน 10 คน ได้ใช้ก็คุ้มละครับ คือทำช่องทางของบัญชีม้า ให้แคบลงได้ 30% ถือว่าดีมากละ แต่ถ้า(กึ่ง)บังคับลงตอนเปิดเบอร์ใหม่ หรือเปิดบัญชีแบ้งใหม่ไป จำนวนมันก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น ช่องทางของพวก scammer ก็น้อยลงไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรแก้ได้สมบูรณ์อยู่แล้ว แต่เราต้องทำให้พวกนี้ทำงานยากขึ้นเรื่อยๆ ค่าใช้จ่ายมากขึ้น จุดสูงสุดที่หวังคือให้มันไม่คุ้มทุน และเปลี่ยนเป้าหมายไปประเทศอื่น หรือเหลือคนทำน้อยมากๆ
ถ้าแบบนี้น่าจะมีวิธียกเลิกเบอร์ง่ายๆด้วยเลยนะ ผมมีเบอร์เติมเงินที่ไม่ได้ใช้นานมากแล้ว มันก็ยังโชว์ในแอพว่าเราเป็นเจ้าของอยู่เลย ขี้เกียจโทรไปอธิบาย
ยืนยันตัวตนด้วยการกดเบอร์บัตรปชช.เนี่ยนะ ยังกับมิจมันไม่รู้แน่ะ
ยิง USSD รัวๆ
อาจจะส่ง link ยืนยันตัวตนกลับมาหรือเปล่าครับ
พวก identity verification นี่ขายเป็นตามจำนวนเคส ถ้าสร้าอเคสไว้ก่อนน่าจะอ้วก
ทำไมถึงรู้สึกว่า อะไรแบบนี้มัน "ควร" จะทำให้ยากนิดนึง
เช่นให้เหลือแค่ยืนยันด้วยตัวเองที่ศูนย์บริการเท่านั้น เพราะส่วนตัวเชื่อว่า คนที่เขาจะเป็นต้องมีหลายเบอร์จริงๆ การเดินทางไปศูนย์บริการก็ไม่น่าจะลำบากอะไร
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
เห็นด้วยครับ ควรทำให้ยากหน่อย อันนี้รัน USSD จบมันมักง่ายเกินไป
เห็นด้วยมากๆ ไหนๆก็จะจัดระเบียบแล้ว ควรทำแบบที่เข้มงวดไปเลย การมีซิมหลายอัน หมายถึงนำมาทำงานอย่างใดอย่างนึง ไม่ใช่แค่โทรส่วนตัว มันก็ต้องมีขั้นตอนที่ยืนยันตัวตนได้จริงๆ
..: เรื่อยไป
ร้อยเบอร์นี่ต้องงานอะไรถึงมีขนาดนั้น กล้อง CCTV 4G ตามป่าเขาสวนงี้ GPS ติดรถ ซื้อแจกพนัก ญาติงี้เปล่าเนี่ย
งานแลปในมหาลัยผมเคยใช้ซิมหลาย10 หรือ 100 เบอร์เนี่ยแหล่ะจำไม่ผิดเหมือนกัน แบบต้องติดในป่าด้วยสัญญาณ 2G ดีสุด 555
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
หลักร้อยนี่ใช้โปรไรครับเนี่ยเยอะมาก จะบริหารจัดกันยังไงเนี่ย
ถ้าเป้นเดี่ยวนี้ 2G ไม่มีแล้วเปล่าครับ
ค่ายมือถือเขาบริจาคช่วยเหลือมาครับ ^^
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
งง ปกติก็ลงทะเบียนซิมไปแล้วนี่ จะให้ยืนยันอะไรอีก
iPAtS
มันมีคนซื้อโดยไม่ยืนยันด้วยเหรอครับ เห็นถามหาบัตรประชาชนตลอดนะ หรือมันคือขั้นตอนไหน
ตอนซื้อไม่ใช้บัตร ใช้แต่ตอนลงทะเบียนซิมครับ
เข้าใจว่าต้องการทราบคนใช้ “ปัจจุบัน” น่ะครับ
อย่างน้อยพวก บช ม้า ถ้าไม่อยากให้สงสัย ก็ต้องไปตามคนเปิดมายืนยัน
เห็นด้วย จัดการที่ต้นทางไปเลย คือ ซิม
แต่อ่านในคอมเม้นท์ facebook มีแต่คนดราม่า
น่าจะ มีให้คนเดียว ต่อ หนึ่งบัตร แล้วคุมเข้มๆไป
Use-case บางอย่างเช่น iot มัน 1 คน 1 เบอร์ไม่พออ่ะครับ