บริษัทวิจัยตลาด Omdia รายงานว่า ในปี 2023 Samsung ครองส่วนแบ่งตลาด 30.1% ของตลาดทีวีทั่วโลกติดต่อกัน 18 ปี นับตั้งแต่ปี 2006 ความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลมาจากกลยุทธ์ของ Samsung ที่เน้นทีวีในกลุ่มพรีเมียมและจอขนาดใหญ่ ที่ประกอบไปด้วย QLED TV และ OLED TV
นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2017 ไลน์อัพ QLED TV ที่รวมถึง Neo QLED รุ่นล่าสุด มียอดขายสะสมกว่า 40 ล้านเครื่องเฉพาะปี 2023 ปีเดียว หากนับแค่ QLED จะมียอดขายทั้งหมด 8.31 ล้านเครื่อง
ในขณะที่กลุ่มทีวีพรีเมียมที่มีขนาดหน้าจอ 75 นิ้วขึ้นไป และมีราคาสูงกว่า 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ มีส่วนแบ่งตลาด 60.5% เมื่อคิดจากยอดขายทีวีที่มีราคาสูงกว่า 2,500 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป และมีส่วนแบ่ง 33.9% สำหรับทีวีขนาด 75 นิ้วขึ้นไป ส่วนทีวีรุ่น 98 นิ้ว Samsung ยังรักษาตำแหน่งผู้นำในกลุ่มทีวีขนาด 90 นิ้วขึ้นไปได้ด้วยส่วนแบ่งตลาด 30.4%
ด้านไลน์อัพ OLED มียอดขาย 1.01 ล้านเครื่อง ในปี 2023 ครองส่วนแบ่งตลาด 22.7% โดย Samsung คาดการณ์ว่าไลน์อัพของ OLED TV ในปี 2024 ส่วนแบ่งตลาดในกลุ่ม OLED จะเพิ่มขึ้น
ในงาน CES 2024 ทาง Samsung ได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์ NQ8 AI Gen3 ที่เปิดทางสู่ยุคหน้าจอ AI ทั้งในด้านชิปเซ็ตและความสามารถต่าง ๆ ผสานรวมกับ AI ที่มี Tizen OS เป็นตัวขับเคลื่อนเพื่อทำให้หน้าจอ AI เป็นศูนย์กลางของสมาร์ทโฮม
ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์
Comments
ถ้าแอปเปิ้ลทำจะแซงได้มั้ยนะ
เมื่อไหร่จะใส่ Dolby Vision มา อยากซื้อแต่ติดอย่างเดียวนี่แหละ
น่าจะเป็นเรื่องลิขสิทธิ์มั้งครับ และ Samsung ก็อยู่ฝั่งที่เป็นคู่แข่ง ดันเทคโนโลยีของตัวเอง
WE ARE THE 99%
ฝั่ง samsung สนับสนุน HDR 10+ อยู่ไม่น่าเอา Dolby Vision เหมือนเห็นพยามสนับสนุนเสียงระบบอะไรสักอย่างที่จะแข่งกับ Dolby Atmos /DTSX ด้วย
สงครามรูปแบบแสงสีของวิดีโอ ใครจะชนะ Dolby Vision/HDR10+/IMAX Enhanced เห็น Toshiba ใส่มาทุกอันเลย
SONY ไม่น่าปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้จริง ๆ
That is the way things are.