ยุ่งยากขึ้น หวังว่าจะแก้ปัญหาได้ นะ

ทำเหมือนเล่นขายของ วุ่นวายไปหมด

ทีนี้ข้อมูลว่าเบอร์ไหนชื่ออะไรผูกกับเลขบัญชีไหนก็จะไปอยู่กับหน่วยงานราชการ อีกหลายหน่วยงานทั้ง ปปง. กสทช. รวมถึงเครือข่ายมือถือ

แทนที่จะให้ธนาคารส่งเบอร์ แล้วให้ทางค่ายมือถือส่งชื่อกับเบอร์กลับมาแล้วธนาคารตรวจให้ตรงกัน ข้อมูลที่ส่งก็จะมีแค่ชื่อกับเบอร์โทร

วิธีการดูจะสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาเพิ่ม... แถมฝั่งบัญชีม้าก็รับซื้อขายในราคาแพงขึ้นไปอีก มันจะกลายเป็นดาบสองคมทั้งส่งเสริม/ทั้งทำให้คนถูกหลอกชะล่าใจได้เหมือนกันนะ

ใครเข้าใจนโยบายนี้อธิบายให้ผมทีครับ
ว่าถ้าคนจ้างมันจ้างคนเปิด บช ม้าได้ มันก็แค่จ้างเปิดเบอร์พร้อมกันไปด้วยเลย แล้วมันแก้ยังไงเหรอครับ

ถ้าเปิดเบอร์ให้เมียใช้ (มันพ่วงโปรกัน) แต่ไม่ได้จนทะเบียนสมรส นามสกุลก็ไม่ได้เปลี่ยน ลูกไม่มีเลยไม่มีพยานรัก จะยืนยันยังไงดีหว่า

จะทำอะไรให้มันวุ่นวาย บังคับคนซื้อ Sim ซื้อแล้วลงทันเบียนทันทีไปเลย ไม่ต้องรอ 30 วัน แค่นี้ก็ปิดวงจรม้ากับมิจได้แล้ว ไล่จับให้หมด

นี่มีระยะเวลารอ 30 วัน มิจมันซื้อชิมทุกๆ 30 วันได้อยู่แล้ว

ผมว่าปัญหาของกรณีนี้คือคิดไม่ครบ คือไม่คิดว่ามันมีกรณีไหนบ้าง มาถึงก็ทำเลย ผลกระทบมัยเลยเยอะ
สังเกตจากที่มีคนทักก็จะมีข้อยกเว้น เช่นครอบครัว หรืออะไรก็ว่าไป ปัญหาคือจะรู้ได้ยังไง บางทีไม่ใช้นามสกุลเดียวกัน ต้องมานั่งยืนยันหลักฐานอีก
ง่ายสุดคือใช้กับพวกเปิดบัญชีใหม่ แต่พวกบัญชีที่เปิดเกิน 3 ปีก็ยกเว้นไปเลย (พวกนี้โอกาสเป็นม้าน้อยมาก) มันก็จะง่าย เข้าใจง่าย สื่อสารง่าย คนไม่เดือดร้อนมาก

ไม่ไปทำการเชื่อมข้อมูลทะเบียนราษกับธนาคารแล้วตอนเปิดบัญชีก็ตรวจรายนิ้วเมือแกสนหน้าถ่ายรูปเพื่อยืนยันตัวตนไปล่ะ ปัญหามันคือการเปิดบัญชีแล้วโดนอ้างว่าสวมสิทธิ์นิ ไม่ควรเกี่ยวกับเบอร์มือถือด้วยซ้ำ

ถ้าผมจะทำนะ ...

บัญชีที่เปิดมานานกว่า 1 ปี เอาไว้ทีหลัง
1 ปีขึ้นไป ถึง 5 ปี 10 ปี หรือ ใช้มา 20 ปีแล้ว % มันน้อย จริงๆ ไม่ต้อง check ก็ได้

ดอกแรก .. ห้ามกดเงินที่ชายแดน กับ ข้ามประเทศ โดยเฉพาะตรงบ่อนอ่ะ ไม่ต้องเลย ระงับ ใครจะโอน ตัวจริงเท่านั้น ไปขอเอกสารที่ บ. โทรศัพท์ แล้วทำเรื่องที่ ธนาคารเท่านั้น จำกัดไป เดือนละ 20,000 พอแล้ว มากกว่านั้น สอบสวนกับตำรวจ โอนทำไมเยอะแยะ

ดอกสอง .. ปัจจุบัน ซื้อของเริ่มไม่ใช้เงินสดแล้ว กด ATM 50,000 เหลือวันละ 20,000 พอ ซื้อของ-ใช้มากกว่านี้ ไปบัตรเครดิตทั้งหมด

สองดอกนี้ก็ลดไปเยอะแล้ว ที่ทำได้ก็ซื้อทองแล้วแบกใส่กระป๋าข้ามประเทศไปนั่นแหละ เหอะ ๆ

บังคับให้ 1 คน 1 เบอร์ แบบเดียวกับบัตรปชช. เลย ตัดได้หลายปัญหา ถ้าเสียชีวิตก็ให้เบอร์ตายไปด้วย :P

ไม่พูดถึงวิธีการละกัน แต่การปล่อยให้ประชาชนเข้าใจผิดตอนช่วงสุดสัปดาห์แล้วค่อยมาแก้ข่าวตอนถึงเดดไลน์มันดูเร่งรีบ และขาดการวางแผนมากเลยครับ

หรือว่าเป็นวิธีสร้างไวรัลเหรอ?

เผาบ้านไล่หนู สุดท้ายก็แก้ไม่ได้เหมือนเดิม

แบบนี้พนักงานธนาคารสามารถเข้าถึงข้อมูลเจ้าของซิมได้ทั่วประเทศทุกเครือข่ายไหมครับ

ทำไมไม่กำหนดให้มีโฆษกคนเดียวเพื่อพูดประชาสัมพันธ์ นี่แย่งกันออกสื่อ พูดกันคนละทีสองทีข้อมูลเพี้ยนไปหมด

เค้า​เคย​ต้อง​โอน​เงิน​ตอน​ไม่ได้​อยู่​ใน​ประเทศ​มั้ย​นะ

เคยเห็นข่าว ที่มีการตรวจสอบชื่อบัญชีธนาคาร และซิมที่ใช้ระบบ Internet Banking มานานแล้ว เพราะทางธนาคาร และค่ายมือถือต้องพัฒนาระบบตรวจสอบให้ได้รวดเร็ว จากเดิมที่มีปัญหา เพราะข้อมูลมีปริมาณมาก จนกระทั่งมีข่าวว่าพัฒนาจนทำให้น่าจะตรวจสอบครบในเวลาไม่กี่เดือน และในข่าวก็ยังบอกว่าจะมีการแจ้งเตือน เพื่อให้แก้ไขชื่อ และให้เวลามาชี้เแจ้งหากมีความจำเป็น ไม่ใช่อยู่ดีๆไประงับการใช้งาน

ก็ยังสงสัยว่าข่าวที่จะระงับบัญชีวันที่ 27 พ.ค. มาได้ไง พาดหัวข่าวได้เกินจริงมาก

ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องดีที่เริ่มทำนะครับ
การทำอะไรใหม่ ๆ มันก็ต้องมีปัญหา หรือ ตะกุกตะกัก กันบ้างแหละ
ก็ปรับกันไปเรื่อย ๆ

อยากเห็นพวกคนเลว มันโดนเล่นซะบ้าง
ชิลกันเกินไปละ ตัวเองจะลำบากนิด ๆ หน่อย ๆ ยอมม

ดีครับ เอาให้เด็ดขาด พวกจีนเทาที่จ้างเปิดบัญชีละ 5000 จะได้หมดไป