Joko Widodo ประธานาธิบดีอินโดนีเซียประกาศสั่งห้ามหน่วยงานรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นทำแอปเพิ่ม หลังหน่วยงานต่างๆ ทำแอปแยกกันอิสระจนตอนนี้มีแอปรวมเกิน 27,000 แอป
Widodo ระบุว่าปัญหาของแอปเหล่านี้คือมันไม่ได้ทำงานร่วมกันนัก และแอปจำนวนมากก็ทำงานทับซ้อนกันไปมาก แถมยังใช้งบประมาณแต่ละปีมากถึง 6.2 ล้านล้านรูปีย์ (ประมาณ 14,000 ล้านบาท) และหลังจากนี้การพัฒนาแอปควรเน้นวัดผลที่ความพอใจของประชาชนและความง่ายในการทำธุรกรรม
นโยบายห้ามทำแอปใหม่ออกมาพร้อมกับการตั้ง GovTech INA Digital เป็นหน่วยงานกลางสำหรับการเชื่อมต่อบริการสาธารณะเข้าด้วยกัน โดยจะเริ่มจากบริการทางการศึกษา, สาธารณสุข, การขอใบอนุญาตธุรกิจ, และภาษีก่อน ส่วนบริการอื่นๆ จะค่อยๆ ตามมา
Comments
มันจริงมากเหมือนแอพยืนยันบ้านเราใช้ Thai ID ตัวเดียวจบเลย จะไปราชการที่ไหนก็๋ล็อกอินแอพตัวนี้ครบจบที่เดียวไม่ต้องมาเสียเวลาสมัครใหม่ทุกครั้งไป นึกสภาพว่าเข้าเว็บราชการพันเว็บ สมัครพันครั้งเสียเวลาชีวิตมาก
การ authen จากตรงกลางนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีล่ะครับ แต่หลังจากนี้น่าจะต้องไปต่อด้วยการรวบ app ในกลุ่มเดียวกันเข้าด้วยกัน แอปบริการภาครัฐ ก็ควรรวมกันให้หมด ออกใบขับขี่ ออกบัตรประชาชน ฯลฯ ก็ควรเป็นทางเดียว ในอนาคตอาจจะจองคิวโรงพยาบาลรัฐ เป็นช่องทางเดียวกันแบบ QueQ ในเอกชน ฯลฯ
ระหว่างทางจะทำอย่างไร จะเปิด API ให้หน่วยงานกลาง (DGA?) มาทำแอปที่เท่าเทียมกับแอปเฉพาะทางของแต่ละหน่วยงานได้อย่างไร ก็เป็นสิ่งที่ต้องเตรียมต่อไป
lewcpe.com, @wasonliw
คุ้นๆ
WE ARE THE 99%
ไทยเราควรทำ ERP ตั้งนานแล้วครับ ผมอยู่ศธ. Big Data นี่ไม่รู้ทำมาทำไม เวลากรอกข้อมูลก็กรอกซ้ำซ้อน ข้อมูลแ*งไม่ sync กันเลย emis ก็อย่างนึง schoolmis ก็อีกแบบ กสศ.นี่เอายันเวลาเรียนด้วย(สุด) หน่วยงานอื่นเอา Web Service คุยกัน เหนื่อยครับ
ERP ที่ผมรู้จักมันออกไปทางการค้าขาย (พวกจัดการ stock, sale (eCom, B2B, pointofsale), invoice, tax, customer) มันเอาไปใช้กับหน่วยงานรัฐยังไงครับ
รูปีย์ (INR) นี่คือเงินอินเดียไหมครับ
ถ้าเงินอินโดนีเซียจะเป็น รูเปีย หรือ รูปียะฮ์ (IDR)
ถ้าไม่คุมก็จะแบบนี้ บ้านใกล้เรือนเคียง ช่างคล้ายกันจริงๆ
..: เรื่อยไป
ควรเอานโยบายนี้มาใช้ในไทยอย่างยิ่ง
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ตำบลละแอพเลยมั้งเนี่ย