Ong Ye Kung รัฐมนตรีสาธารณสุขสิงคโปร์ออกมาขอให้ประชาชนไปรับวัคซีน COVID-19 เวอร์ชั่นอัพเดต หลังจากตัวเลขผู้นอนโรงพยาบาลจาก COVID-19 ในสิงคโปร์เริ่มเพิ่มขึ้น จนถึง 280 คนในสัปดาห์ที่ผ่านมา
รัฐบาลสิงคโปร์แนะนำให้ประชาชนไปรับวัคซีนเพิ่มเติม โดยห่างจากเข็มล่าสุดไม่ต่ำกว่า 5 เดือน และควรไปรับหากเข็มล่าสุดได้รับมาประมาณหนึ่งปีแล้ว โดยมีตัวเลือก 4 ตัวเลือก ได้แก่ Pfizer/BioNTech, Moderna, Novavax, และ Sinovac ก่อนหน้านี้ Novavax เคยถอนออกจากตลาดไปเนื่องจากยังไม่ได้อัพเดตสายพันธุ์ แต่ตอนนี้ Novavax/Nuvaxovid XBB.1.5 ก็กลับมาใช้งานในสิงคโปร์อีกรอบแล้ว โดยแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่สามารถฉีดวัคซีน mRNA
คาดว่า COVID-19 เวฟใหม่ในสิงคโปร์ยังจะเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุดในปลายเดือนมิถุนายนนี้
ที่มา - The Strait Times, Ministry of Health
Comments
กลุ่มไหนหรอที่ไม่สามารถฉีด mRNA?
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
แฟนเราต้อง admit หลังฉีด mRNA ทั้งสองเข็มเลยฮะ
ส่วนตอนฉีดแอสตร้าเป็นเข็มแรกคือเข้า ER ใน 15 นาทีเลย 🥲
อิงจากช่วงระบาดหนัก คนที่มีภูมิแพ้ กับคนที่โดนเข็มแรกแล้วแพ้ เขาจะมาร์กไว้ว่าไม่ให้ฉีดครับ รอบที่แล้วเขาให้คนแพ้ไปฉีด Sinovac แทน
ผมนี่แหละ
วัคซีนเทวดา แต่สร้างปัญหามากกว่าโรคโควิดด้วยซ้ำ
ช่วงหลังๆนี้มีแต่ข่าวน่ากลัวเกี่ยวกับวัคซีนโควิด พออ่านแล้วใจสั่นไม่กล้าฉีด 555
โควิดก็ไม่ค่อยน่ากลัวแล้วด้วยแหละ รอวันนึงให้มันผนวกเข้ากับวัคซีนไข้หวัดใหญ่เอาก็น่าจะได้มั้ง
คิดว่ายังไม่ได้คับ เพราะไข้หวัดใหญ่ รอบกลายพันธุ์ ไม่ตรงกับโควิดครับ
โควิดมันรุนแรงน้อยลงเพราะวัคซีนด้วยนะครับ
I need healing.
ไม่น่าจะใช่นะครับเรื่องนี้ชีววิทยาเบื้องต้นสอนเอาไว้เรื่องของการคัดเลือกตามธรรมชาติมีนักวิทยาศาสตร์หลายคนออกมาพูดตลอดเวลาที่โควิดระบาด
ว่าโรคระบาดโดยทั่วๆไปถ้าเชื้อตัวไหนรุนแรง เป็นแล้วคนตายเร็วเชื่อพวกนั้นจะระบาดน้อยและระบาดในวงจำกัดเพราะคนไม่สามารถแพร่เชื้อได้คุณลองดูพวกอีโบล่าหรือมาร์เบิร์ก ติดแล้วตาย ยังไม่ทันแพร่เชื้อ
ส่วนเชื้อที่ระบาดในวงกว้างคือเชื้อที่สามารถปรับตัวอยู่ได้กับ host โดยที่ host ไม่ตาย เช่นโควิดสายพันธุ์ที่รุนแรงและทำให้คนตายได้เยอะๆในช่วงแรกก็สูญพันธุ์ไป ส่วนสายพันธุ์ที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบันก็เป็นสายพันธุ์ที่มีอาการเบาบางลงจึงทำให้ยังหลงเหลือคนที่ติดเชื้อนำไปแพร่เชื้อได้
วัคซีนไม่ได้เป็นต้นเหตุของการที่เชื้อมีฤทธิ์อ่อนลงครับ
ความเป็นจริงอีกอย่างหนึ่งก็คือคนไทยเลิกฉีดวัคซีนกันไปหลายปีแล้วครับภูมิที่เกิดจากวัคซีนไม่เหลือแล้วดังนั้นทุกวันนี้ที่คนมีอาการน้อยลงก็เกิดจากตัวเชื้อโดยตรงวัคซีนตอนนี้ไม่ได้มีความหมายอะไร
วัคซีนไม่ได้เป็นต้นเหตุของการที่เชื้อมีฤทธิ์อ่อนลงตามวิวัฒนาการก็จริงครับ
แต่เทียบระหว่างคนที่ฉีดกับไม่ฉีด อาการตอนติดเชื้อต่างกันชัดเจนครับ (ถึงแม้ว่าสุดท้ายก็ไม่ตายเหมือนกัน)
ที่อ้างว่าภูมิจากวัคซีนไม่เหลือนี่น่าจะเกินจริงนะครับ แม้ระดับภูมิแบบวัดตรงๆ อาจจะลดลงตามเวลาแต่การตอบสนองต่อโรคก็ยังมีรายงานว่าลดความเสี่ยงได้อยู่ต่อให้ฉีดแค่เข็มเดียวก็ตาม (สองเข็มกับสามเข็มดีกว่า เขาถึงให้ไปฉีดกัน) ไปสรุปเอาเองว่าอาการน้อยลงเพราะตัวโรคนี่ผมเชื่อว่าเป็นการคิดเอาเอง หรือมีหลักฐานอื่นหรือเปล่าครับ
lewcpe.com, @wasonliw
น่าจะมีผลทั้ง 2ปัจจัยนะครับ
เลาๆว่า ช่วง Omicron
คนที่ไม่เคยติด+ไม่เคยฉีดวัคซีน
มีอาการไม่มากเท่า covid ตัวแรก
เทียบกับคนที่เคยเป็น/เคยฉีด จะยิ่งมีอาการน้อยลงไปอีก
แต่หลัง omicron คือหาเคสยากแล้ว
ที่จะมีคนไม่เคยติด ไม่เคยฉีดวัคซีน
"น่าจะ" + "เลาๆ" นี่ไม่ใช่ข้อมูลครับ
lewcpe.com, @wasonliw
มันนานแล้ว ตก 2ปีได้นะครับ
กด google ดูเจออันนี้
https://thestandard.co/why-omicron-is-not-live-vaccine/
จะเห็นได้ว่าผู้เชี่ยวชาญมองว่า omicron อ่อนลงจนแทบจะเป็นวัคซีนเชื้อเป็น แล้ว
ตอนนี้ น่าจะยิ่งอ่อนกว่าสมัย omicron ไปอีก
Paper คุณเอง ว่าวันที่เขาทำวิจัยเป็นวันหลังจากรับวัคซีนมากี่วัน
ข้อความผมก็เขียนไว้ชัดเจนว่าคนไทยไม่ได้ฉีดวัคซีนกันมากี่ปีแล้ว
ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนก็ไม่ได้เป็นอมตะมันย่อมมีการลดลงยิ่งเวลานาน มันก็ยิ่งลดลงไปเรื่อยๆ ไม่อย่างนั้นวัคซีนไม่จำเป็นต้องมีการฉีดบูสเตอร์ซ้ำกระตุ้นไปเรื่อยๆ
ดังนั้นในวันนี้ปัจจัยหลักไม่ได้เกิดจากวัคซีนที่ฉีดไปเมื่อนานมาแล้วปัจจัยหลักมันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสที่ปรับตัวให้อยู่กับมนุษย์ได้โดยไม่ทำลายชีวิต host ทำให้เชื้อแพร่พันธุ์ได้ง่ายขึ้น สายพันธุ์ไหนที่ host ตายเยอะมันก็เหลือ host ไว้แพร่พันธุ์น้อยสุดท้ายมันก็สูญพันธุ์ไป สายพันธุ์ที่อ่อนฤทธิ์กว่ามีโฮสเหลือรอดชีวิตไว้แพร่พันธุ์มากกว่าก็ขึ้นมาเป็นสายพันธุ์หลักแทน เราก็เลยจะเห็นว่าไวรัสมันเปลี่ยนแปลงตัวไปเรื่อยๆ แต่ความรุนแรงมันลดลง
ข้อ 2 เรื่องของการกลายพันธุ์ทำให้การติดเชื้อน้อยลง นี่คือเรื่องพื้นฐานมากๆของระบาดวิทยา หาอ่านได้ทั่วๆไปเลยในตำราเบื้องต้น อีโบลา เป็นตัวอย่างที่ดีหาอ่านได้ทั่วๆไป ว่าทำไมอีโบล่ามันถึงไม่เคยระบาดเป็นวงกว้างในโลก แต่เชื้อที่มีอัตราตายน้อยกว่าถึงระบาดเป็นวงกว้างได้ในโลก
เรื่องพวกนี้มีนักวิชาการออกมาให้คำทำนายไว้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ก่อนจะมีวัคซีนโควิดตัวแรกในโลกด้วยซ้ำไป ว่าในอนาคตเชื้อมันจะกลายพันธุ์มีความรุนแรงลดลงทำให้อัตราตายน้อยลงกว่าในช่วงแรกๆ และสุดท้ายมันจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น
แต่สรุปสุดท้ายวัคซีนลดอัตราการป่วยหนักและตายลงได้จริง ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หลังจากที่คุณฉีดวัคซีน แต่หลังจากนั้นระดับของภูมิคุ้มกันคุณก็จะลดลงคุณจะต้องคอยฉีดวัคซีนบูสซ้ำอยู่เรื่อยๆ แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นไม่ได้เกี่ยวกับการที่เชื้อมีฤทธิ์อ่อนลงแต่ประการใด
ตกลงคุณไม่มีข้อมูลใช่ไหมครับ ว่า "ภูมิที่เกิดจากวัคซีนไม่เหลือแล้ว" มาจากไหน
lewcpe.com, @wasonliw
ถ้ามีความเข้าใจสักนิดนึงคุณจะเข้าใจว่าคุณไม่สามารถแยกระหว่างภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นเองกับภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นจากวัคซีนได้
ดังนั้นคำถามนี้คงจะตอบได้ด้วยตัวเองนะครับ
คุณลืมพูดถึงภูมิคุ้มกันหมู่ที่เกิดจากการที่"คนส่วนใหญ่"ฉีดวัคซีน แล้วคนที่ไม่ได้ฉีดก็ได้รับผลดีตามไปด้วยนะครับ...
นักวิชาการทำนายได้ครับว่ามันจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ แต่กว่ามันจะอ่อนแอถ้าไม่ทำอะไรเลย คนที่ต้องตายเพื่อสังเวยไปก่อนหน้าเพื่อให้มันอ่อนแอลงก็มหาศาล ไอ้ชั่วระยะเวลาหนึ่งกว่ามันจะอ่อนแอลง วัคซีนมันช่วยลด"ผู้เสียชีวิต"ลงได้ไงครับ ถ้าคุณไม่คิดว่าคนที่ตายไม่ใช่ญาติพี่น้องก็อาจจะไม่สนใจ เห็นแค่ตัวเลข เหมือนทุกวันนี้ที่ยังมีคนตายเพราะติดโควิท แต่สื่อไม่สนใจแล้ว ทั้งๆที่อัตราการตายก็ยังสูงกว่าไข้หวัดใหญ่อยู่นะ(รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้่อด้วยทำให้จำนวนรวมก็สูงกว่า)
ผ่านไปเป็นปีๆแล้ว พวกไม่ได้ฉีดต่อน่าจะเยอะ
แต่เลิกตื่นตูมเลิกเห่อกันหมดล่ะ
เมืองไทยระบาดหนักแบบเงียบๆ คนแข็งแรงก็ไม่เป็นไร คนอ่อนแอก็เสียชีวิตกันเรื่อยๆ(ผู้สูงอายุ,คนมีโรคประจำตัว)
ส่วนตัวรอบๆตัวเห็นชัดเจนคนฉีดกับไม่ฉีดวัคซีน อาการหนักเบาต่างกันเยอะทั้งๆที่อายุ/ความเสี่ยงใกล้ๆกัน(หมายถึงคนฉีดวัคซีนแล้วอาการเบากว่าเยอะ) ส่วนเรื่องside effect คนแวดล้อมรอบๆตัวฉีดสัก 90% อาจจะโชคดีไม่มีอาการอะไรร้ายแรงนอกจากไข้ขึ้นหลังฉีด(ส่วนบางคนก็ไม่มีอาการอะไรเลย)
อีกอย่างสุขอนามัยส่วนตัวก็มีผลเยอะนะครับ คนที่ไม่ค่อยระวังก็ติดหลายรอบ คนที่ระวัง ล้างมือบ่อยๆใส่หน้ากากเวลาเข้าที่แออัดเช่นในรถไฟฟ้า ก็รอดปลอดภัยดี มีเพื่อนคนนึงไปเที่ยว...กับทัวร์ กลับมาคนในทัวร์ติดเกือบครึ่ง แต่เพื่อนไม่เป็นไร สุขอนามัยมีผลเยอะมาก แทบจะคาดเดาได้เลยว่าใครจะติดไม่ติดถ้าไปด้วยกัน
ส่วนตัวอยากฉีดวัคซีนโควิทประจำปีนะ แต่หาไม่ได้แล้ว รพ.เอกชนที่เคยไปฉีดถามแล้วก็ไม่มี(แต่ถ้าต้องจ่ายแพงแบบหลายๆพันก็ไม่เอานะ)
ส่วนข่าวแย่ๆของวัคซีนกลุ่ม anti-vax ก็แชร์กันเป็นปกติ กลุ่มนี้ชอบอ้างว่ามีงานวิจัยว่าวัคซีนมีผลร้ายแรง(แต่หาrefไม่ค่อยเจอ ชอบอ้างแต่ชื่อคนดังว่าเป็นคนพูด?) แต่ดันเชื่อว่าฟ้าทลายโจรป้องกัน/รักษาโควิทได้ ทั้งๆที่งานวิจัยถูกถอนออกไปเพราะโดนตรวจเจอเรื่องการคำนวณผิดพลาด หมอคนดังนี่พูดไม่จริงเรื่องฟ้าทลายโจรหลายหนละ
มาไทยก็คงไม่ได้ฉีดแล้วมั้ง ตอนแรกสนใจ Novavax อยู่ แต่นั่นเมื่อปีที่แล้ว
ปกติก็ไม่ได้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่อยู่แล้ว โควิดตอนนี้เบากว่าเยอะก็คงไม่ได้สนใจละ
ที่เคยเห็นผ่านๆ ในไทยตอนนี้ที่มี XBB.1.5 ให้ฉีด ก็ราคาเข็มละประมาณ 17xx-2000 บาท
ในยุคสมัยที่ข้อมูลปลอม ๆ แพร่ได้ง่ายมาก ๆ
ถ้าหากไม่มีเวลา หรือ ความรู้ ที่จะค้นขว้าหาข้อมูลเอง
อยากให้เชื่อหน่วยงานกลางของโลก ที่จัดการเรื่องนั้น ๆ นะครับ
เช่นเรื่องนี้ ให้เชื่อ WHO ไปเลย
อย่าไปเชื่อพวก when ที่มาปั่นข้อมูลปลอม ๆ เลย
ทั้งพวกต่อต้านวัคซีน
พวกปั่นให้คนไปกินน้ำยาล้างห้องน้ำรักษาโรค (CDS)
ใช้ทองแดงรักษาโรค
ฯลฯ
มันไม่ได้ปลอมครับแค่ว่า คนแพ้หนักๆไม่ได้มีเยอะ ถ้าผมเป็นรัฐผมก็ ต้องให้ฉีดแหล่ะ เพราะคนที่จะแพ้วัคซีนตายไปจริงๆ มีแค่จำนวนน้อยมากๆ เพื่อรักษาคนส่วนมากไว้เลยต้องทำ ผมนี่เป็นหนึ่งในนั้นที่แพ้หนักฉีดไม่ได้ และผมก็เคยติดโควิดจริงไปแล้วด้วย อาการไม่ต่างกันมากระหว่างวัคซีนกับ โควิตจริงๆ แต่โควิตจริงๆมีทำให้ผมคอแห้งเพิ่มมาด้วยครับต่างกันแค่นั้น แต่ระยะอาการนี่ 7 วันเท่ากันเลย คุณพูดแบบนี้แสดงคุณยังไม่มีใครใกล้ตัวที่แพ้วัคซีนนี้นั่นล่พ ซึ่งไม่เห็นไม่ได้แสดงว่าไม่มี
วัคซีนโควิด นี่ทำผมกลัวทุกวัคซีนแล้ว Moderna 2 เข็มแล้วเลิกเลย เจ็บปวดทรมาน 7 วันแรกทั้ง 2 รอบการฉีด แต่ไม่ได้เป็นตลอดเวลาและห้ามทำอะไรที่ใช้แรงมากๆไม่งั้นจะปวดหน้าอกจนจนต้องลงไปนั่งกุมหน้าอกทันที หลังวันที่ 7 ถึงจะหายดีเหลือแต่อาการตกค้าง ใครไมเจอก็ดีไปครับก็ฉีกกันต่อไปตามความสมัครใจ ตอนนี้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่เคยฉ๊ดทุกปีก็ไม่กล้าฉีดแล้วเลย กลัวไปหมดแล้ว และอาการตกค้างแบบอยู่ๆแปล๊บที่หน้าอกฝั่งหัวใจก็ยังมีอยู่แค่ว่าว่าวงรอบการมามันเว้นห่างขึ้นเรื่อยๆตอนนี้อยู่ที่ประมาน 4 ถึง 6 เดือนจะเจ็บรอบนึง ถ้าเป็นตอนต้นๆหลังฉีดวัคซีนนี่มาทุก 7 วันเลย