หลัง Square Enix เกริ่นว่าจะรีเมคเกม Dragon Quest ภาคเก่าๆ ด้วยกราฟิกแบบ HD-2D วันนี้ในงาน Nintendo Direct ก็เปิดตัวเกม Dragon Quest III HD-2D Remake ออกมาเรียบร้อย มีกำหนดออกขาย 14 พฤศจิกายน 2024 บน PS5, Xbox Series X|S, Nintendo Switch และพีซี
แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะ Square Enix ประกาศรีเมค Dragon Quest I & II HD-2D Remake ต่อเลย มีกำหนดออกปี 2025 เท่ากับว่าครบตำนานไตรภาคผู้กล้าโรโตะ (ภาษาอังกฤษเรียก Erdrick) ทั้งสามรุ่น
Dragon Quest III เป็นเหตุการณ์ที่เกิดก่อนภาค I เล่าถึงตำนานผู้กล้าโรโตะคนแรก ซึ่งเป็นบุตรของผู้กล้าออเตก้า และต้องเดินทางไปต่อสู้กับจอมปีศาจบารามอส เกมเวอร์ชันต้นฉบับออกในปี 1998 บนเครื่อง Super Famicom และมีเวอร์ชันพอร์ตไปยังเครื่องอื่นๆ อีกมากมาย
การรีเมคครั้งนี้ใช้สไตล์ภาพแบบ HD-2D เหมือนกับเกมตระกูล Octopath Traveler และ Live a Live ที่รีเมคไปแล้วก่อนหน้านี้
ที่มา - Square Enix
Comments
สิ่งที่ DQ พลาดคือภาคอังกฤษ ไม่ยอมทับศัพท์ พวกคาถานั่นเอง
เมร่า เมรามี่ เมราโซม่า
+1
อยากให้ทับศัพท์พวกคาถาต่างๆ
ชื่อคาถาในเกมเวอชั่นญี่ปุ่น ชื่อแต่ละชื่อจริงๆในภาษาญี่ปุ่น มันคือ การอธิบายการกระทำหรือเลียนเสียงธรรมชาติ
เกมเวอชั่นภาษาอังกฤษเค้าก็แค่แปลงจากรูปแบบในภาษาญี่ปุ่นมาเป็นในภาษาอังกฤษแทนแต่เพิ่มมุกตลกเข้าไปด้วย
เช่น
มีร่า(มาจาก Meramera การก่อให้เกิดไฟ) ---> Frizz (ไฟเผาจนเส้นผมไหม้เป็นฝอย)
อ่ะ ผม พูดก็ได้ เรื่องแปล ภาษาอังกฤษ
อยากบอกว่า ถ้าไม่ใช่ Rom Hack แล้ว มีใครซักคนสบถออกมาว่า " พอกันที k.. ทำเองก็ได้ "
มานั่งหาเพื่อนๆ กันในบอร์ด ที่คุยกันอยุ่แล้ว แปลกันเอง % ออกมาดี แทบจะ 0% เลยครับ
พอทำเอง บังเอิญ มีงบ รวยมาก งบไม่จำกับเหมือน สหรัฐกับอิสราเอลทำสงคราม แบบตีเช็คเปล่า
จัดหาอาวุธ เอาเงินฟาดลงไป จ้างคนแปล แพงระยับแปล text ประมาณ 900-1,000 หน้า
จะใช้เวลาประมาณ 1 ปี
กว่าจะได้ออกมาอีกเรื่องนึง ล่ามบางคนเฉพาะภาษากฏหมาย เฉพาะติดต่อ business
เฉพาะภาษาราชการ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีแบบ แปลแล้วเป็นภาษาการ์ตูน ยากมากยิ่งกว่างมเข็ม
ในมหาสมุทรดวงจันทร์ของดาวเสาร์ซะอีก เพราะงั้น ให้สังเกตได้ครับ การ์ตูนญี่ปุ่นทุกเรื่อง dub
หรือเสียงพากย์ ก่อนยุค Netflix ไม่แปล มั่วทับไปเลยเหมือนน้าติง กับ น้าต๋อย
สภาพปัจจุบันที่ บริษัทที่ J-RPG เริ่มเข้าใจอะไรแล้วออกมาอาจจะแย่หน่อย
แต่ไม่ woke อันนี้ ถือว่าดีมากแล้วครับ ก็เป็นกำลังใจให้ พัฒนาไปทาง Ai
ปล. จากประสพการณ์จริง ประมาณ 700 หน้า ใช้เวลาไป 9 เดือน
ผมว่าที่หลายคนไม่รู้คือ บ.รับงานแปลเค้าไม่ได้ตัวเกมมาเล่นนะ เค้าได้ตารางข้อความมา ช่องแรกเป็นชื่อตัวแปรในโค๊ด ช่องที่สองอาจจะเป็นภาษาต้นฉบับ แล้วคนแปลก็คือมานั่งแปลแล้วใส่ในช่องต่อไป (มันมีเครื่องมือสำหรับจัดการงานแปลด้วยแหละแต่ไม่ได้แอดวานซ์อะไรขนาดนั้น คือก็แค่เอาตารางที่ว่ามากระจายเป็นช่องๆ แยกกันเฉย ๆ) อาจจะมีสกรีนช็อตติดมาด้วยบ้าง
อีกข้อที่คนไม่น่าจะรู้คือ คนแปลไม่มีสิทธิแก้โค๊ด ไม่สามารถที่จะแบบ "ข้อความอันนี้ยาวไป ขอแยกเป็นสองข้อความแทนได้มั้ย" เพราะถ้าแยกปุ๊บจะโดนภาษาอื่นไปด้วย
สรุปได้ว่าข้อจำกัดของงานแปลเกมคือ
อีกเรื่องนึงที่มีผลต่อคุณภาพงานแปลโดยตรงคือการแปลหลายต่อ ในปัจจุบันที่นักแปลโดยตรงจากภาษานึงไปอีกภาษานึงตรง ๆ อาจจะหายากและมีราคาสูง หลายค่ายเลยใช้วิธีแปลเป็นภาษากลาง (อังกฤษก่อน) แล้วจึงใช้นักแปลแปลจากภาษาอังกฤษไปเป็นภาษาปลายทางแทน ตรงนี้มีผลต่อคุณภาพงานแปลโดยตรง ที่เห็นชัด ๆ คืองานแปลอนิเมบน Netflix นี่ภาษาไทยคือเข้าขั้นแย่เลย เดาว่าเพราะนักแปลก็ไม่เห็นตัววิดีโอจริง ๆ แค่แปลตามประโยคภาษาอังกฤษทื่ได้รับมา ซึ่งหลายครั้งมันมีบางอย่างที่หายไปจากการแปล (เช่น พี่สาวกับน้องสาว ภาษาอังกฤษเรียก sister หมด พอแปลเป็นภาษาปลายทางก็จะแปลผิดเป็นพี่สาวบ้างหรือน้องสาวบ้าง อะไรแบบนี้ ตอนนี้หลายเรื่องก็เปลี่ยนเป็น big sis กันละ)
ที่แย่กว่านั้นคือ นักแปลหลายค่ายจะไม่แปลงานตรง ๆ อย่างเดียวแต่จะสอดไส้ประโยคบางอย่างที่ไม่มีในต้นฉบับเข้าไปด้วย และเอาประโยคบางอย่างออกไปด้วย คือนึกง่าย ๆ ว่านักแปลพวกนี้เคยทำงานพันธมิตรมาก่อนน่ะครับ พอมันวิบัติที่กลางทางแล้วที่เหลือก็เละหมดครับ (เกมที่เจอเคสนี้มาไม่นานนี้คือ Eiyuuden Chronicle คนที่แปลเป็นภาษาอังกฤษนี่สอดไส้อะไรเพียบเลยครับ บางประโยคคือไม่เหลือเค้าเดิม เค้าว่าน่าจะเอาใจ Woke ฝั่งตะวันตกแหละ)
คือผมว่า คุณภาพงานแปลมันแย่มันก็มีสาเหตุ ทั้งมาจากข้อจำกัดด้านทางเทคนิคและทางธุรกิจ กระบวนการทำงาน และทั้งอีโก้ของตัวคนแปลเองที่ใส่ความคิดตัวเองลงไปและไม่เคารพต้นฉบับอะไรงี้
แต่คนเล่นก็ไม่น่าสนใจขนาดนั้น ก็คิดแค่ว่า อ้าว ก็ซื้อมาแล้วฉันก็ด่าได้สิ อันนี้มันก็จริงนะ ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ฝั่ง dev ก็ต้องแก้ไขกันต่อไป แต่ก็อยากให้เข้าใจว่าบางที dev รายเล็ก ๆ เค้าไม่มีงบกับทีมขนาดใหญ่ที่จะดูแลเรื่องแบบนี้ได้อย่างจริงจัง ทำให้คุณภาพงานอาจจะไม่ถึงกับที่ควรเป็นเหมือนกัน
ปล. ผมชอบยกตัวอย่างนี้ The Legend of Heroes: Trails in the sky FC ที่เป็นภาคแรกของซีรียส์ Trails (แต่ไม่ใช่ภาคแรกของ The Legend of Heroes 555) มีจำนวนตัวอักษรอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านคำในภาษาญี่ปุ่นครับ ลองคิดเล่น ๆ ว่าถ้าแปลคนเดียวจะใช้เวลาเท่าไหร่ ? คือผมว่าปัญหาของตัว publisher เจ้านี้คือ underestimate งานแปลไปไกลมาก คิดว่าเค้านึกไม่ถึงว่าเกมนี้มันจะพูดเยอะขนาดนั้น จะว่าไปภาคหลัง ๆ จำนวนตัวหนังสือก็เยอะขึ้นอีกครับ
เพิ่มเติมคือ ฝั่งคนจ้างก็ไม่รู้ว่าข้อความที่นักแปลส่งมามันถูกต้องตามที่ต้องการไหม
Jusci - Google Plus - Twitter
เรื่องแปลภาษาต่อไปคงใช้เป็น realtime translate ต่อผ่านอินเตอร์เน็ตอะไรก็ว่าไป อาจจะไม่ได้ 100% แต่ผมเชื่อว่า 80% ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เล่นเกมสนุกได้
เพราะเดี๋ยวนี้การแปลภาษานี่น่าทึ่งมาก เคยกดให้ youtube มันแปลไทยอัตโนมัตินี่ลื่นมาก
ให้ Ai แปลให้นี่ดีพอๆกะคนแปลเลย แต่มีปัญหาตรงเด๋วมันก็ผีเข้าผีออกบางทีแทนที่จะแปลมาให้เฉยๆดันแต่งประโยคใหม่มาให้ด้วยงงกะมันจิงๆ
ว่าแต่คนที่วาดรูปนี่ ... ใช่คนที่วาด Octopath Traveller ไหมนะ ?