Karl Onnée หัวหน้าทีมโปรดิวเซอร์ของ Assassin's Creed Shadows เกมภาคใหม่ล่าสุดของ Ubisoft ให้สัมภาษณ์กับ Games Industry ถึงเบื้องหลังการพัฒนา ว่าเกมภาคนี้ใช้เวลาทั้งหมด 4 ปี ถือว่ายาวที่สุดในซีรีส์ โดยใช้เวลาพัฒนาเยอะกว่าภาค Valhalla ถึง 25%
Onnée บอกว่าผลงานเกมภาค Valhalla ที่ทำไว้ดี สร้างความคาดหวังสูงว่าเกมภาคถัดไปต้องดีกว่า ซึ่งทีมพัฒนาเกมก็ต้องการทะลุขีดจำกัดของตัวเอง จึงใช้เวลาเพิ่มขึ้นในการลองทำเกมแล้วขัดเกลา (iterate) เพื่อดูว่าอะไรเวิร์คและไม่เวิร์ค ซึ่งตัวเขามองว่าเวลา 4 ปีนั้นเหมาะสมแล้วในการพัฒนาจากคอนเซปต์มาสู่โปรดักชันจริง
เขายังพูดถึงความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ ว่าพยายามสร้างเกมให้มีรายละเอียดแม่นยำที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งสถาปัตยกรรมบ้านเรือนญี่ปุ่นโบราณ หรือแม้แต่ต้นไม้ในป่าของญี่ปุ่น ที่ต่างไปจากป่าของยุโรป ซึ่งทีม Ubisoft ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากทีมในโตเกียวและโอซาก้า รวมถึงจ้างที่ปรึกษาภายนอก นักประวัติศาสตร์ และบินไปดูสถานที่จริงๆ ด้วยตัวเอง
เมื่อถูกถามว่าทำไมซีรีส์ Assassin's Creed ถึงเพิ่งทำเกมภาคญี่ปุ่น ทั้งที่แฟนๆ ก็เรียกร้องกันมานาน คำตอบของ Onnée คือศักยภาพของฮาร์ดแวร์เหมาะสม บวกกับเอนจินเกมก็พัฒนาขึ้นมามาก ทีมงานจึงมั่นใจว่าสามารถสร้างเกมที่ตรงกับวิสัยทัศน์ที่วางเอาไว้ได้ เกมจึงมีระบบแสงและเงา ระบบสภาพอากาศแบบไดนามิก ซึ่งกินพลังเครื่องสูง
Onnée ยังพูดถึงเกมภาค Shadow ว่าอยากใช้เป็นจุดสร้างฐานแฟนๆ ของ Ubisoft ในญี่ปุ่น ซึ่งไม่ค่อยมีค่ายเกมฝั่งโลกตะวันตกที่ทำเกมจับตลาดญี่ปุ่นมากนัก โดยเขายกกรณีตัวอย่างคือเกม Ghost of Tsushima ที่พัฒนาโดยสตูดิโอ Sucker Punch และประสบความสำเร็จอย่างสูงในญี่ปุ่น
ที่มา - Games Industry
Comments
อ่านบทสัมภาษณ์แล้วเหมือนสุมไฟแฮะ
แม่นยำ มากๆ เลยซินะ เห็นปัญหาเยอะเลยภาคนี้ ปกตินึกว่าค่ายนี้ชอบ reskin แล้วก็ขายได้เรื่อยๆ นะเนี่ย
อยากสร้างฐานแฟนในญี่ปุ่นด้วยการสร้างคนดำมาไล่ฆ่าคนญี่ปุ่น 👍👍👍
จะเป็น 4 ปีที่ สูญเปล่าไหมรอดูยอดขายเลยหวังว่าจะมี woke มาอุดหนุนจนปังๆนะ