Ubisoft Japan ประกาศยกเลิกงานถ่ายทอดสด Ubisoft Japan Official Broadcast ที่จะจัดขึ้นที่งาน Tokyo Game Show 2024 ในวันที่ 26 กันยายนผ่านบัญชี X ทางการ โดย Ubisoft Japan บอกเพียงว่ามีเหตุผลบางประการทำให้จำเป็นต้องยกเลิกรายการถ่ายทอดสด แต่กิจกรรมแจกของรางวัลที่จะยังคงดำเนินต่อไป
ในกำหนดการเดิมนั้น Ubisoft จะนำเกมอย่าง Assassin's Creed Shadows, Star Wars Outlaws, Rainbow Six: Siege และ Xdefiant มาแสดงในงาน
การยกเลิกงานถ่ายทอดสดครั้งนี้แม้ Ubisoft จะไม่ได้ระบุชัดเจนแต่คาดว่าอาจมีเหตุจากงานศิลป์ และลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ที่ถูกนำมาใช้ในเกม Assassin's Creed Shadows โดยที่ Ubisoft ไม่ได้ขออนุญาตทางการของญี่ปุ่นแต่อย่างใด
ภาพประกาศยกเลิกงานถ่ายทอดสด
ภาพกำหนดการเดิมของ Ubisoft
ที่มา - Ubisoft Japan
Comments
หลักๆน่าจะมาจาก Assassin's Creed Shadows ที่ woke แบบไม่ rational จนคนญี่ปุ่นเกลียดซะขนาดนั้น
ส่วน Star Wars Outlaws ก็พังเกิน จะว่าไปปีนี้เป็นปีที่เกมค่ายใหญ่ๆพังเกือบหมด อย่างจาก Sony หรือ Bioware(Dragon Age)
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
Woke ไม่เท่าการไม่เคารพวัฒนธรรม (ทั้งที่พูดตลอดว่า experience historical)
ที่ได้อ่านได้ดูมาก็หลายอย่างไม่ตรงยุค (เช่นร่มที่ในยุคนั้นมันเป็นของชนชั้นสูงแต่กลับวางขายทั่วไป ดาบไม้ไผ่ที่ยุคนั้นยังไม่มี ฯลฯ) หลายอย่างที่ไม่เม้คเซ้นส์ (ฤดูที่แตกต่าง เช่นซากุระ กับข้าวแตกรวง ของที่เป็นวัฒนธรรมจีน) การใช้งานของที่มีลิขสิทธิ์ หรือเจ้าของเค้าไม่อนุญาต (เช่นดาบโซโลวันพีซ ธงของชมรมประวัติศาสตร์ หรือหนักสุดคือพระใหญ่ที่ค่ายเกมญี่ปุ่นยังเอามาใส่ในเกมไม่ได้เพราะเขาไม่ให้)
อารมณ์ฝรั่งอยากทำเกมบรรยากาศญี่ปุ่น แต่มาหารูปตาม net แล้วเอามาทำเกมเลย
Dragon Age ยังไม่ออกเลยพังแล้วเหรอครับ ผมตกข่าวอะไรไปหว่า
คำว่าพังของผมในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเกมจะขายไม่ดีนะครับ แต่หมายถึงองค์ประกอบโดยรวมของเกมเทียบกับ expectation จาก fanbase อย่างเกมที่ขายดีแต่พัง(ในสายตาผม)ก็แนว Diablo IV, Anthem ครับ
อย่าง Dragon Age:The Veilguard นี่เปลี่ยน art style ไปอย่างสิ้นเชิงจาก dark fantasy มาเป็นแนว modern pop ตัว character creation รวมถึง companions ถูกออกแบบมาให้ดูน่าเกลียดและ woke(แน่นอนจาก game director โดยตรง) หรือไลน์บทสนทนาที่เปลี่ยนจาก dark มาเป็น pop/punk
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ถ้า Gaming Content Creator รุมด่ากันทั่วโลกขนาดนี้ หุ้นตก 85% ภายใน 5 ปี แล้วจะเชื่อฟังลัทธิ Woke ก็คงต้องปล่อยให้พังไปตาม Disney
เอาจริงๆ เลิกหมกมุ่นความหลากหลาย Diversity ทุกคนรับรู้การมีอยู่ของความแตกต่างอยู่แล้ว ไม่ต้องยัดเยียดใดๆ
ถึงจะฝืนวางจำหน่ายเกมไปตามคำแนะนำลัทธิ Woke ก็ยังไม่เห็นแววว่าเกมจะขายดีได้เลย ลัทธิกล่อมค่ายเกมยังไงกันนะว่าวิธีนี้จะทำให้เกมขายดี
ไม่เชิง ตะวันตกเหยียดหนักมาก เอาแค่เรื่อง Pronouns ยังลุกฮือเป็นฟืนเป็นไฟ (คลิปนี้อย่างฮา) เป็นประเด็นร้อนได้ทุกครั้งที่มีคนพูดถึงเรื่องนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่อง Transgenderism ต่อเลย บ้านเรานำร่องมาก่อนนานแล้ว แต่ตะวันตกยังมีปัญหาเรื่องมีกลุ่มคนเรียกสาวทรานส์ว่า She/Her ไม่ได้ ถถถถถ ในตะวันออกหรือเอเชียไม่ค่อยเจอเรื่องนี้เท่าไรเพราะนอกจากความแตกต่างที่ไม่มากเท่าไรแล้ว เราเองก็หลอมรวมวัฒนธรรมความชอบง่าย และวัฒนธรรมเอเชียโดยเฉพาะในยุคใหม่ก็เอื้อประโยชน์สูงกับความหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไทยที่เรามักยอมรับวัฒนธรรม แนวคิดใหม่ได้ง่ายมาก ๆ ไปเจออีกทีคือเหยียดข้ามชาติเสียมากกว่า
อนึ่งของปัญหานี้ กลุ่มคนมีเงินทุนสาย Diversity อยากทำให้ "ตัวเอง" ถูกยอมรับมากขึ้น แต่ดันใช้วิธีที่คนไม่ชอบ ตั้งแต่สลับบทบาทตัวละคร เอาตัวเองไปนั่งในบทบาทจริยธรรมสื่อแล้วเปลี่ยนเนื้อหาของเกมเป็นแบบที่มี "ตัวเอง" เข้าไปแบบที่บทดั้งเดิมไม่ได้เตรียมไว้ให้ ใส่เนื้อหาที่คนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจเข้าไป ใส่ตัวละครที่มี "ความสวยในแบบตัวเอง" เข้าไป แต่เรื่องมาแดงหนักจริง ๆ คือการกระทำที่ทำให้กลุ่มกำลังซื้อหลักยอมรับไม่ได้ คือคนพวกนี้ดันไปลบ/ตัดออกในสิ่งที่กลุ่มหลักเลือกซื้ออีก เช่น เซ็นเซอร์ปกปิดอย่างหนัก การทำให้ตัวละครน่าเกลียดโดยตั้งใจ (เห็นว่าเพื่อลบภาพจำความงามของสังคมมั้ง) จากเดิมที่มีแค่คนเหยียดจริง ๆ มาต่อต้านกลายเป็นว่าได้แนวร่วมเพิ่มเข้ามาอีก
Trivia ที่น่าสนใจของคนกลุ่มนี้บางส่วนคือ คนเหล่านี้มักจะเกิดอาการไม่พอใจทุกครั้งที่ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเกมหรือสื่อที่เน้นขายตัวละคร/ความงาม/เซ็กซี่ขายดิบขายดี หรือสื่อใด ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคล/องค์กรที่ตัวเองไม่ชอบ เช่นเกม Hogwarts Legacy หรือ InZOI เป็นต้น