Winamp เปิดซอร์สโค้ดของ Winamp Legacy เวอร์ชันดั้งเดิมบนวินโดวส์ สู่สาธารณะ ขึ้นเผยแพร่บน GitHub ตามที่สัญญาเอาไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม
อย่างไรก็ตาม ซอร์สโค้ดของ Winamp อยู่ภายใต้สัญญาอนุญาตของตัวเองชื่อ Winamp Collaborative License (WCL) ที่อนุญาตให้นำซอร์สโค้ดไปปรับแต่งเพื่อใช้งานส่วนตัวเท่านั้น ไม่อนุญาตให้เผยแพร่ซอร์สโค้ดหรือไบนารีที่ถูกแก้ไข ทำได้แค่การส่งโค้ดกลับโครงการต้นน้ำ และเผยแพร่โดยทีมงานหลักของ official repository เท่านั้น
แนวทางของสัญญาอนุญาต WCL ทำให้ Winamp ถูกวิจารณ์ว่าเปิดซอร์สโค้ดออกมาเพื่อต้องการหาแรงงาน (ฟรี) มาช่วยปรับปรุงโปรแกรมเวอร์ชันต้นฉบับ ที่ต้นสังกัดปัจจุบันคือ Llama Group ไม่สนใจพัฒนาต่อแล้ว เพราะหันไปโฟกัสกับ Winamp เวอร์ชันมือถือแทน
ที่มา - Winamp
The #Winamp Legacy player source code is now open! Developers & retro lovers, it’s your chance to shape the iconic player’s future. Explore, modify, and build on the classic you know and love. Get the details & access the code here: https://t.co/TX3sOaSbS5 pic.twitter.com/ZvDeKiJ1uO
— Winamp (@winamp) September 24, 2024
Comments
แล้วคนที่ไม่พอใจก็ไป flood issues เขา
programmer สมัยนี้ใช้ถนัดอารมณ์ มากกว่าตรรกะกันหรือไง
คนใน GitHub wanna be a big programmer เยอะครับ เยอะจนลืมสิ่งที่เรียกว่ามารยาททางสังคม
เปิดซอร์สแต่ไลเซนส์แบบนี้
อย่าเปิดให้โดนด่าเลยดีกว่า ไม่รู้จะเปิดมาทำไม
คิดว่าเปิดเอาไว้แค่ว่า เป็นอนุสรณ์สถานให้คนมาลำลึกความหลังเฉย ๆ ครับ เดฟแก่ ๆ ที่ทันใช้ก็อาจจะอยากเข้าไปดูโค๊ดเล่น ๆ อะไรแบบนี้
ถ้าจะชุบชีวิต Winamp น่าจะต้องทำ 2 อย่าง
1) แปลง code เดิมเป็น 64bit
2) สร้างตัวแปลง .dll จาก 32bit -> 64bit ระดับ bytecode
เพราะพวก plugin ที่เป็น .dll ส่วนมาก น่าจะ source code สาบสูญไปแล้ว
ซึ่งต่อให้ทำได้ ก็แค่เป็นการย้าย winamp มา 64bit
แล้วไงต่อ? Eco มันเปลี่ยนไปละ
ยุคนี้น่าจะหาคนทำ plugin เป็น .dll ยากละ
ตั้งแต่ใช้งานโปรแกรมฟังเพลงมาชอบiTuneสุดละสบายตาแถมจัดเพลลิสแก้ไขอะไรก็ง่ายหมด แต่ตั้งแต่มีspotifyเข้ามาในชีวิตก็ไม่ได้ใช้อีกเลยเพราะขี้เกียจไปหาเพลงใหม่ๆมาใส่ใช้spotifyเอาเลยสะดวกฟังกว่า
จริง ตั้งแต่ใช้มา iTunes คือดีสุดจริง ดีขนาดที่ว่าปกติผมจะใช้ Random เพลงเปิดฟังไปเรื่อย ๆ ทั้งวัน แต่บางทีนึกอยากฟังเพลงไหนอยู่ ๆ iTunes ก็ Random มาเจอเฉย หลายครั้งด้วย ขนลุกเลย 555
ถึงจะแค่เปิดซอร์สโค๊ดออกมาเพื่อให้ dev รุ่นลายครามได้เอาโค๊ดไปโมเล่น ผมว่าก็ดีแล้วนะ เพราะด้วยตัวโปรแกรมเองแล้ว การฟังเพลงแบบออฟไลน์ น่าจะนิยมอยู่ในแค่บางพื้นที่ที่สัญญาอินเทอร์เน็ตยังไม่ดี ส่วนใหญ่ก็คงฟังผ่าน streaming กันหมดแล้ว
ส่วนคนที่ folk ผมว่ากรณีนี้ไม่มีความจำเป็นต้องไปละเมิดเลย โปรแกรม media player ที่ดีๆที่เป็น opensource ก็มีให้ใช้งานอยู่แล้ว
..: เรื่อยไป
เอาไว้ศึกษาเฉยๆก็คุ้มแล้วมั้ง มีแต่คนโลภจะเอาไปขายต่อเขาเลยต้องกำหนดให้ชัดเจนแบบนี้ สมควร