Tags:
Node Thumbnail

NASA ประกาศว่าภารกิจส่งมนุษย์เดินทางไปดวงจันทร์ 2 ภารกิจข้างหน้า ได้เลื่อนกำหนดการออกไป โดย Artemis II ที่จะส่งนักบินอวกาศ 4 คน เดินทางวนรอบดวงจันทร์ แล้วเดินทางกลับโลก เลื่อนออกไปเป็นเดือนเมษายน 2026 และ Artemis III ที่จะส่งนักบินอวกาศไปเหยียบดวงจันทร์บริเวณขั้วใต้ เลื่อนออกไปเป็นกลางปี 2027

NASA ให้เหตุผลของการเลื่อนภารกิจจากความปลอดภัย หลังผลการสอบสวนเพิ่มเติมของภารกิจ Artemis I ที่ส่งยานอวกาศเดินทางรอบดวงจันทร์แบบไม่มีมนุษย์ พบปัญหาการสูญเสียแผ่นป้องกันความร้อนเมื่อเดินทางกลับโลก ทำให้ต้องแก้ไขปัญหาส่วนนี้ให้เรียบร้อยก่อน

ภารกิจส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ทั้ง Artemis II และ Artemis III นี้ ถูกเลื่อนกำหนดไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อต้นปี โดย Artemis IV และ Artemis V ยังไม่มีการเลื่อนกำหนด

ที่มา: NASA และ Reuters

No Description

Get latest news from Blognone

Comments

By: pie001
Windows
on 9 December 2024 - 11:45 #1328580
pie001's picture

ทำไม่ไม่ให้ spaceX ทำ และสงสัยว่าจะส่งคน 4 คนไปบินวนทำไม พอขึ้นไปขนาดนั้นก็ลงจอดดวงจันทร์เลย จะได้ไม่เสียเที่ยว เทคโนโลยีเราผ่านมากี่ปีแล้ว

By: ECOS
Windows
on 9 December 2024 - 18:55 #1328607 Reply to:1328580
ECOS's picture

Hardware ใหม่ ระบบใหม่ มันต้องเทสต์น่ะครับ ไม่ได้ใช้ยานเดิม
วิธีการเดินทาง กับ trajectory ก็ใหม่ เลยเข้าใจได้ว่าต้องเทสต์ก่อนลง

สมัยอพอลโลใช้ตั้งหลาย mission กว่าจะลงได้ครับ
ไปถึงดวงจันทร์ที่ 8 ลงตอน 11

By: KuLiKo
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 9 December 2024 - 12:03 #1328583
KuLiKo's picture

บางทีเลยเริ่มสงสัยตามทฤษฎีสมคบคิดจริงละว่าสรุปเราเคยไปดวงจันทร์มาแล้วจริงๆ ใช่มั้ย

By: keanus
Android
on 9 December 2024 - 13:02 #1328588 Reply to:1328583

อ่านจากข่าวและความผิดพลาดหลายๆ ครั้งแล้ว คิดว่าไม่เคย เป็นไปได้ยากมาที่ทุกอย่างในครั้งแรกจะ Perfect ขนาดนั้น

By: IDCET
Contributor
on 9 December 2024 - 14:19 #1328592 Reply to:1328588

ลองคิดแบบนี้ครับ ในยุคนั้น (ปี 1950-1970)

งบประมาณรัฐมีอยู่มหาศาล
ทุ่มไปกับงานวิจัย พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และงานพัฒนาอย่างเต็มที่แทบจะไร้ขีดจำกัด (เหมือนที่จีนเป็นในตอนนี้)
วัตถุดิบและวิศวกรก็เยอะ (บางส่วนก็ดึงมาจากอดีตนาซีอีก)
เป็นช่วงที่พื้นตัวจากสงครามโลกแล้วต่อด้วยสงครามเย็นอีก
แล้วก็เศรษฐกิจยุคนั้นก็ไปได้ดีด้วยเนี่ยสิ ธุรกิจไปได้สวย มีเงินภาษีเข้ารัฐเรื่อยๆ

ก็ไม่แปลกที่ยุคนั้นจะมีการพัฒนาและออกนวัตกรรมใหม่แบบก้าวกระโดดมากๆ ออกมาได้


ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว

By: ECOS
Windows
on 9 December 2024 - 19:06 #1328610 Reply to:1328588
ECOS's picture

คุณรู้มั้ยว่ากว่าจะถึงอพอลโล 11 นาซ่าต้องผ่านอะไรบ้าง
เมอร์คิวรี่ 6 ภารกิจ
เจมิไน 12 ภารกิจ
ยานสำรวจไร้มนุษย์ เรนเจอร์ เซอร์เวเยอร์ เอ็กซ์พลอเรอร์ อีกเป็นสิบ
อพอลโล่กว่าจะไปถึง 11 ก็อีกหลายลำ
1 ทดลองล้มเหลว เสียชีวิต 3 คน
4 ทดลองปล่อยยาน
7 ปล่อยยานแบบมีนักบิน
8 ไปถึงดวงจันทร์
9 เทสต์ลูน่าแลนเดอร์
10 จำลองการจอดแต่ไม่จอด
11 จอดจริง
จรวดอีกเป็นสิบๆรุ่นที่พัฒนามาระหว่างทาง

และงบประมาณมหาศาล peak สุดที่เกิน 4% GDP อเมริกา (ปัจจุบันไม่ถึง 0.5%)
รวมแค่ช่วง 1960-1969 ที่อพอลโล 11 ลงดวงจันทร์ NASA ได้งบในเชิง %GDP รวมมากกว่าที่เหลือทั้งหมดตั้งแต่ 1970-ปัจจุบันเสียอีก

By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 10 December 2024 - 00:05 #1328630 Reply to:1328610
big50000's picture

เสริม งบประมาณทั้งโครงการ Apollo ปรับตามค่าเงินเฟ้อ 2020 คือ $250B

งบประมาณปัจจุบัน "สิบปี" ของโครงการ Artemis อยู่ที่ ราว ๆ $100B ไม่ถึงครึ่งของที่เคยได้มา

By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 9 December 2024 - 13:32 #1328591 Reply to:1328583
big50000's picture

เพราะการที่เราเคยไปดวงจันทร์มาแล้วนี่แหละคือสาเหตุที่เราไม่กลับไปดวงจันทร์อีก (ในตอนนี้)

ถ้าขี้เกียขดูวิดีโอ เนื้อหาสรุปได้ตามนี้

ทำไมการไปดวงจันทร์ถึงเป็นของจริง
- ภาพถ่ายดาวเทียมและการสแกนภูมิประเทศของดวงจันทร์สัมพันธ์กับภาพถ่ายจากภารกิจ Apollo 13
- การยืนยันจากหลายชาติ รวมไปถึงชาติที่เป็นศัตรูกับอเมริกาด้วย
- สปายของโซเวียตไม่สามารถหาหลักฐานได้เลยว่าการไปดวงจันทร์ของอเมริกาเป็นของปลอม
- มีการถ่ายทอดสดจากยานอวกาศโดยตรง (เป็นผลข้างเคียงของระบบสื่อสาร) ไม่ว่าใครก็สามารถดักจับสัญญาณและฟังแบบสด ๆ ได้ทันที

ทำไมเราไม่กลับไปอีก
- ยุคนั้นอเมริกาแข่งกับโซเวียตด้านอวกาศอย่างหนัก
- NASA ช่วงนั้นมีงบประมาณแทบจะไม่จำกัด ปัจจุบันงบเหลือเสี้ยวเดียวเท่านั้น
- ยานอวกาศ Saturn V คือโลงศพอวกาศดี ๆ นี่เอง เพราะ Failure Rate สูงเกินไป แถมราคาสูงหลุดโลกอีกด้วย
- การไปดวงจันทร์ยุคนั้นทำเพื่อ "อวด" ฝั่งตรงข้ามอย่างเดียว ไม่ได้มีเหตุผลดี ๆ อื่น ๆ เลย

เป้าหมายของ Artemis คือการไปดวงจันทร์ "อย่างยั่งยืน" ลดค่าใช้จ่าย และมีความปลอดภัยสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้

By: lawson on 9 December 2024 - 15:21 #1328598

ส่วนตัวไม่เชื่อว่ามนุษยย์เคยไปบนดวงจันทร์จริง แต่คิดว่านาซาเคยส่งรถสำรวจไปดวงจันทร์จริงซึ่งเราก็เห็นได้จากหลักฐานต่างๆ(แต่โดนเหมารวมว่าเป็นหลักฐานของมนุษย์บนดวงจันทร์) แต่การส่งมนุษย์ไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะขนาดสถานีอวกาศเมกายังจำเป็นต้องร่วมมือกับรัสเซียเพื่อที่จะสร้างที่อยู่ให้มนุษย์ให้อยู่บนอวกาศได้นานๆและปลอดภัย การเดินทางไปดวงจันทร์ไม่ได้ใช้เวลา2-3วันแปปเดียวไปกลับโดยเฉพาะเทคโนในอดีต

By: bankbook555
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 9 December 2024 - 22:48 #1328623 Reply to:1328598

อเมริกากับรัสเซียต่างก็ทำสถานีอวกาศเองได้ทั้งคู่ ไม่ต้องอาศัยกัน
อเมริกามี Skylab
รัสเซียมี Mir
แต่ทั้งสองประเทศเลือกที่จะสร้างสถานีร่วมกันโดยมีโครงสร้างที่บังคับให้ต้องพึ่งพาอาศัยกัน เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพระหว่างกัน และเป็นจุดสิ้นสุดของสงครามเย็น

อย่างที่เมนต์บนบอก การส่งมนุษย์ไปไม่ง่ายเลย ตอนนั้นแค่เฉพาะโครงการ Apollo ยังต้องใช้เที่ยวบินหมายเลข 11 ถึงจะได้ลงจอด ในขณะที่แผนปัจจุบันคือตั้งใจจะลงจอดตั้งแต่เที่ยวบินที่ 3 ด้วยซ้ำ เพราะมีข้อมูลหลายอย่างจากการเดินทางครั้งก่อน ๆ แล้ว แต่เนื่องจากจรวดเป็นของใหม่ ระบบไม่เหมือนเดิมกับของ Apollo ก็เลยต้องมีการทดสอบเป็นธรรมดา

By: lawson on 10 December 2024 - 10:47 #1328654 Reply to:1328623

ไม่ว่ายุคสมัยใหน ต่อให้มีเงินมากๆแต่ก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จ ซึ่งมันก็คือคำว่า "ข้อจำกัดทางเทคโนโลยี" ทั้งสถานีอวกาศ Skylab และ Mir ต่างออกมาหลังโครงการ Apollo 11 ยิ่งตอกย้ำความน่าสงสัยกับเทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ให้เดินทางในอวกาศได้นานๆในอดีต ผมไม่ได้ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงนะครับ เราต่างใช้หลักฐานในการคิดวิเคราะห์ เพียงแต่หลักฐานทุกวันนี้ยังไม่ได้ชัดเจน ภาพหลักฐานที่นำมาแสดงก็เป็นภาพเบลอๆทั้งๆที่เมกาสามารถถ่ายบนโลกได้ระดับเซ็นติเมตรตั้งนานแล้ว และหลักฐานยังไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์หรือเป็นการ automated

By: crucifier
iPhoneAndroidUbuntu
on 10 December 2024 - 10:53 #1328655 Reply to:1328654

ขอหลักฐานที่ว่าอเมริกาสามารถถ่ายภาพบนโลกได้ในระดับเซ็นติเมตรหน่อยครับ (เข้าใจว่าหมายถึงการถ่ายภาพจากอวกาศใช่ไหม?)

By: lawson on 10 December 2024 - 11:32 #1328658 Reply to:1328655

"centimeter level space image" ลอง search เลยครับ ข้อมูลที่เผยแพร่ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลระดับ commercial ข้อมูลทางทหารจะเหนือกว่าไปอีกขั้น

By: crucifier
iPhoneAndroidUbuntu
on 11 December 2024 - 08:12 #1328709 Reply to:1328658

.

By: geumatee
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 10 December 2024 - 13:00 #1328663 Reply to:1328654

Satellite imagery สูงจากโลกราวๆ 500-700 กิโลเมตร
ส่วนระยะทางเฉลี่ยระหว่างโลกถึงดวงจันทร์คือราว 384,400 กิโลเมตรนะครับ

By: lawson on 10 December 2024 - 13:55 #1328665 Reply to:1328663

มันไม่ได้เป็นปัญหาในยุคปัจจุบันหรอกครับ ปัจจุบันเมกาส่งดาวเทียมไปดวงจันทร์หลายดวงแล้ว แต่กลับยังไม่มีภาพถ่ายความละเอียดสูงให้เห็นหักฐานชัดๆ ทั้งๆที่มีเทคโนโลยีการถ่ายภาพความละเอียดสูงอยู่แล้ว ผมก็พูดตามหลักฐานนะครับ ไม่ได้ใช้ความเชื่ออะไร แต่ผมก็ไม่ได้ปิดกั้นนะครับ ถ้ามีความชัดเจนด้านหลักฐานผมก็ยอมรับ แต่จะให้เชื่อจากหลักฐานเบลอๆก็กระไรอยู่ เรื่องจริงคือหลักฐานที่มีอยู่มันเบลอและยังบอกไม่ได้ว่าเป็นกิจกรรมของมนุษย์บนดวงจันทร์หรือเกิดจากการ automated

By: geumatee
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 11 December 2024 - 07:00 #1328705 Reply to:1328665

มันไม่ได้เป็นปัญหาในยุคปัจจุบันหรอกครับ

ขอดูหลักฐานครับ

ปัจจุบันเมกาส่งดาวเทียมไปดวงจันทร์หลายดวงแล้ว แต่กลับยังไม่มีภาพถ่ายความละเอียดสูงให้เห็นหักฐานชัดๆ ทั้งๆที่มีเทคโนโลยีการถ่ายภาพความละเอียดสูงอยู่แล้ว

คุณต้องปากล้องออกไป 5 เมตร กับปากล้องออกไป 3 กิโลเมตรแล้วตรงจุดเป๊ะๆ คุณคิดว่าจะสามารถปากล้องแบบเดียวกันได้รึเปล่าครับ

By: bankbook555
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 10 December 2024 - 13:54 #1328664 Reply to:1328654

และข้อจำกัดทางเทคโนโลยีเหล่านัั้น ก็ส่งผลให้มีมนุษย์ต้องสูญเสียชีวิตไปในโครงการนี้นั่นเอง
ทั้งๆที่ระดมคนเก่งจำนวนมหาศาลมาช่วยกัน ก็ยังมีข้อจำกัดหลายอย่าง
เสี่ยงขนาดนั้น แต่ทำไม่ยังเดินหน้าต่อ
เพราะมันเป็นสงคราม

และทุกวันนี้ประเทศศัตรูของอเมริกาอย่างรัสเซียก็ยอมรับความสำเร็จของโครงการ Apollo ไปแล้ว

By: ECOS
Windows
on 10 December 2024 - 14:13 #1328670 Reply to:1328654
ECOS's picture

รู้ว่าทางการทหารมีกล้องถ่ายที่ resolution ระดับ cm แต่ปฏิเสธหลักฐานเกี่ยวกับดวงจันทร์นี่ก็ย้อนแย้งดีนะครับ
เพราะถ้ารู้แบบนั้นจะเข้าใจว่ากล้องที่ใช้ถ่ายภาพระดับนั้นไม่เคยถูกติดไปกับยานสำรวจอวกาศลำใดๆเลยไม่ว่าจะเป็นดาวดวงไหน
เพราะมันกินที่เยอะมากและกินพลังงานสูง รวมถึงแพงมาก ต้องระดับงบเหลือๆอย่างกลาโหมของชาติมหาอำนาจถึงจะสร้างมันไว้ใช้ได้สบายๆ
สมการฟิสิกส์ง่ายๆเรื่อง angular resolution (1.22/lambda) ก็มีอยู่ มันบอกว่าต้องใช้ขนาดกล้องเท่าไหร่เพื่อได้ภาพที่ต้องการ แน่นอนว่าการสร้างกล้องที่ละเอียดสูงมากยิงขึ้น LEO กับยิงไป TLI นี่ใช้เชื้อเพลิงคนละเรื่องกัน

และก็คงไม่มีชาติไหนเอางบและเวลาไปทิ้งกับแค่การส่งยานไปยืนยันสิ่งที่ชัดเจนอยู่แล้วตั้งแต่แรกหรอก
ภาพที่ LRO กับยานอินเดียถ่ายมาได้ก็ถือว่าเป็นหลักฐานที่ดีมากพอแล้ว (กล้องของยานสองลำนี้เน้นถ่ายภาพพื้นผิวมุมกว้างของพื้นผิว และศึกษา spectrometer เพื่อหาน้ำและองค์ประกอบเคมีต่างๆบนดวงจันทร์ ไม่ใช่เพื่อหาอพอลโล)
คนเชื่อทฤษฎีสมคบคิดแนวนี้มักจะมองด้านเดียว แล้วก็ดันต่อว่า "นี่ไง หลักฐานไม่พอ ผมไม่เชื่อ" ตลอดแหละ
บางคนเอารูปถ่ายตอนอยู่บนดวงจันทร์
บางคนเอาเอาคลิปวิดีโอ
บางคนเอา spec จรวด
บางคนเอาเรื่องการเมือง
บางคนเอาเรื่องการไม่กลับไปดวงจันทร์อีกครั้ง
ฯลฯ
ไม่มีคนไหนมองรอบด้านหรอก เพราะถ้าประกอบหลักฐานแล้วมันแถออกจากข้อเท็จจริงไม่ได้นี่แหละ

By: lawson on 10 December 2024 - 14:27 #1328673 Reply to:1328670

ผมก็มองจากหลักฐานนะครับ ไมได้ใช่ความเชื่อไม่เชื่อจากความรู้สึก คุณเองก็ยืนยันไม่ได้หรอกว่าหลักฐานที่มีเกิดจากการกิจกรรมของมนุษย์หรือเกิดจากการ automated การเชื่อจากหลักฐานเบลอๆน่าจะเป็นเรื่องทฤษฎีสมคบคิดมากกว่าอีก ผมไม่ได้พูดผิดหรอกนะครับ

By: ECOS
Windows
on 10 December 2024 - 22:44 #1328697 Reply to:1328673
ECOS's picture

อ่อครับ ก็ใช่ครับ หลักฐานเบลอๆแหละ ตามที่ผมเดาไว้ในตอนท้ายของความเห็นก่อนหน้าเลย

ภาพถ่ายจากวงโคจรก็เบลอๆ
ภาพถ่ายจากภารกิจก็เบลอๆ
บันทึกวิดิโอก็เบลอๆ
อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ก็เบลอๆ
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ก็เบลอๆ
เบลอไปเสียทุกแง่มุมเลยเนอะ

By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 10 December 2024 - 15:48 #1328674 Reply to:1328654
big50000's picture

ทั้งสถานีอวกาศ Skylab และ Mir ต่างออกมาหลังโครงการ Apollo 11 ยิ่งตอกย้ำความน่าสงสัยกับเทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ให้เดินทางในอวกาศได้

การสร้างเทคโนโลยี่ที่ด้อยกว่าในภายหลัง ไม่ได้หมายความว่าเราไม่เคยมีเทคโนโลยีที่เหนือกว่า (ถ้าไม่อย่างนั้นเราก็ควรทิ้งทั้ง 6502, Z80, หรือเหล่า Arduino ไปได้แล้ว เพราะ Intel, AMD เหนือกว่ามาก) และโครงการ Apollo ไม่ได้มีเป้าหมายสูงสุดเกี่ยวกับความปลอดภัย และ Failure Rate สูงในระดับที่ปัจจุบันถือว่ายอมรับไม่ได้แล้ว ถ้าให้มากกว่านั้นก็คงต้องให้นักบินอวกาศเป็นศพตรงนั้นเลยคนถึงจะเชื่อ แต่ถ้าเกิดจริงก็ไม่น่าแปลกใจอะไรเพราะ Saturn V ก็คือโลงศพอวกาศดี ๆ นี่แหละ

อเมริกาไม่จำเป็นต้องร่วมมือกับชาติไหนก็ทำได้อยู่แล้ว โซเวียต ก็เช่นกัน ทั้งคู่รู้วิธีการไปอวกาศอยู่แล้ว แค่ยังไม่เก่งเรื่องเอาชีวิตรอดแค่นั้น (โซเวียตก็เคยพยายามมาก่อนแล้วล้มเลิกไปหลังจากที่อเมริกาทำสำเร็จก่อนจะล่มสลายภายหลัง) ไม่จำเป็นต้องพึ่งพากันและกัน อย่าลืมว่าเป้าหมายหนึ่งอย่างของ ISS คือการสานสัมพันธ์กับชาติอดีตศัตรู ไม่ใช่การร่วมมือกันไปอวกาศ (เพราะทั้งสองชาติเคยทำมาก่อนแล้ว) การร่วมมือกันก็ย่อมดีกว่าการทำคนเดียวอยู่แล้ว

และก็อย่าเทียบเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมกับภาพถ่ายกล้องไซส์คนถือได้ เทคโนโลยีอยู่คนละโยชน์กันเลย

อันที่จริง คุณหยิบข้อมูลมาคุยกันก็ได้นะ คุณพิมพ์มาสามย่อหน้า มีอวดคุณภาพ Logic ตัวเองอยู่สักสองย่อหน้าได้

By: lawson on 10 December 2024 - 18:25 #1328684 Reply to:1328674

ผมไม่ได้คิดวิเคราะห์จากความรุ้สึก ผมก็คิดจากข้อมูลและหลักฐานที่มี ซึ่งมันไม่ได้ผิดอะไรอยู่แล้วใช่ใหมหละ การที่มีคนไม่เชื่อก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะข้อมูลและหลักฐานมันยังไม่ได้ฟันธงอะไรขนาดนั้นมีแค่ภาพเบลอๆ ซึ่งใครจะเชื่อหลักฐานภาพเบลอๆนี้ผมก็ไม่เคยต่อว่าหรือวิจารน์อะไรด้วย ผมก็บอกในส่วนของผมว่าไม่เชื่อเพราะอะไรแค่นั้น ถ้าคุณพอมีหลักฐานที่หนักแน่นตอบได้ว่ามีกิจกรรมของมนุษย์บนดวงจันทร์ที่ไม่ใช่การ automated ผมเองก็พร้อมรับฟัง และไม่เคยปิดกั้นอยู่แล้ว

ตราบใดที่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอ คำถามที่ว่าเมกาเคยส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวหรอกที่คิดแบบนี้ อย่าไปมองว่าคนเหล่านี้ผิดอะไร เมกาเองก็คงไม่ได้แคร์อะไร ไม่อย่างนั้นก็คงส่งดาวเทียมถ่ายภาพความละเอียดสูงไปดวงจันทร์แล้ว ปัญหามันยังไม่มีหลักฐานที่หนักแน่นพอที่จะตอบว่าเคยส่งไปหรือไม่เคยส่งไปแค่นั้นเอง

By: TeamKiller
ContributoriPhone
on 10 December 2024 - 18:58 #1328685 Reply to:1328684
TeamKiller's picture

หลักฐานที่ NASA มีเยอะแยะแล้วไม่ใช่เหรอครับ ห้องเก็บของเขาหินดวงจันทร์ที่ต้องเก็บในตู้พิเศษไม่ให้สัมผัสอากาศของโลกที่มีออกศิเจน คนทำงานก็ต้องใส่ชุดแบบห้องปลอดฝุ่นงี้ laser วัดระยะ ภายถ่ายที่นักบินอวกาศเยอะแยะ ภาพที่ถ่ายทอดสดมานั้นเบลอๆ ก็จริง แต่หลังจากนั้นมีเก็บไว้ชัดโคตรๆ https://www.flickr.com/photos/projectapolloarchive/with/48264717322

ในยุคหลังๆ รูปคงน้อยแล้ว คงไม่เองน่าสนใจ ภาพสีปกติเห็นกันมากมาย เดี่ยวนี้ใช้ภาพภ่ายย่านอื่นๆ เพื่อสำรวจบ้างแล้วนะครับ แล้วคงไม่เอาถ่ายเล่นๆ แบบทั่วๆ ไปด้วย ส่งสัญญาณกลับมาต้องใช้ให้คุ้มทุก Bandwidth ที่มี

ถ่ายมาโลกก็มีนะครับ เยอะมากๆ เห็นในไทยจะมีจัดงาน SPACE JOURNEY BANGKOK น่าจะชิ้นส่วนอะไรบ้างลองไปดูก็น่าจะได้ถ้าอยู่ กทม.

By: lawson on 10 December 2024 - 19:24 #1328687 Reply to:1328685

ข้อมูลพวกนี้ผมก็เห็นมาหมดแล้วครับ แต่ส่วนตัวผมมันยังมีคำถามที่ยังสงสัยอยู่ดี แต่จะให้พูดโต้ตอบก็คงไม่จบง่ายๆ เผลอๆกลายเป็นการล่อคนเข้ามาอีกแล้วไปจบตรงทฤษฏีสมคบคิด ผมเองก็ไม่อยากตอบอะไรกระเทือนจิตใจฝ่ายที่สนับสนุนการส่งมนุษย์ไปบนดวงจันทร์ เราต่างให้เกียรติซึ่งกัน แต่เชื่อเถอะกิจกรรมของนาซ่าต่อจากนี้มันจะสะท้อนความสงสัยว่าเคยส่งมนุษย์ไปจริงๆเหรอ ฝ่ายที่ไม่เชื่อก็จะมีคำถามมากขึ้นเรื่อยๆ ฝ่ายที่เชื่อก็จะหาเหตุๆผลมาแก้ต่างให้เรื่อยๆ จนกว่าจะเห็นรอยเท้าจากภาพถ่ายปัจจุบัน

By: TeamKiller
ContributoriPhone
on 10 December 2024 - 21:13 #1328692 Reply to:1328687
TeamKiller's picture

พอมีภาพใหม่ก็บอกปลอมได้ CGI เดี่ยวนี้คนก็บอกเนียนๆ อยู่ดี เลยไม่เข้าใจว่าถ้ามีภาพใหม่แล้วมันจะยังไงนะครับ เลยมองว่าภาพถ่ายปัจจุบันกับอดีตก็ไม่ต่างกันเลย แค่ต่างยุคสมัยเฉยๆ คอมจอตู้เป็นจอ LCD แบนๆ ไรแบบนี้

By: lawson on 11 December 2024 - 12:23 #1328727 Reply to:1328692

ภาพมันส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง ซึ่งมันก็ต้องได้รับการตรวจสอบจากหลายๆที่ ซึ่งตอนนี้ศักยภาพไม่เหมือนเมื่อก่อน ซึ่งทำให้ไม่ต้องมานั้งจินตนาการเอาแล้วครั้งนั้น โครงการอวกาศนาซ่าล่ำๆมีเยอะไปแต่ที่เป็น controversy ก็มีอันนี้เท่านั้นแหละ ซึ่งถ้ามันไม่มีมูลมันก็คงไม่เป็น controversy จะบอกว่าเมกาไม่เคยโกหกก็คงไม่ใช่ เพราะ national security เมกาก็เคยโกหกมาหลายครั้งแล้วเช่นเหตุผลการบุกยึดอิรัก ผมไม่อยากนอกเรื่องมาก แต่แค่ให้เหตุผลเพิ่มว่ามันมีแรงผลักดันให้เมกาต้องโกหก และมันไม่ใช่สิ่งที่เมกาจะไม่ทำ ยิ่งพูดก็ยื่งบานปลายถึงไม่อยากพูดอะไรเยอะ เอาเป็นว่าหลักฐานที่มีอยู่ตอนนี้มันไม่สามารถหักล้างกับ controversy ได้ มันไม่ได้ทำให้เกิดการยอมรับแบบเอกฉันท์แบบโครงการอวกาศอื่นๆของนาซา นี่คือสิ่งที่ต้องยอมรับแหละครับ

By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 13 December 2024 - 16:45 #1328898 Reply to:1328684
big50000's picture

ปกติผมจะหลีกเลี่ยงการตอบโต้กับการสนทนาที่พุ่งเป้าไปที่คุณภาพการใช้ตรรกะ ผมชอบคุยด้วยข้อมูล แต่ครั้งนี้ผมหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะคุณยัดเยียด Topic นี้มาตั้งแต่แรก งั้นผมเริ่มเลยละกัน

Logic คุณพังตั้งแต่ไม่เชื่อภาพถ่ายเบลอ ๆ แล้วไปเทียบกล้องถ่ายแบบคนถือได้กับกล้องดาวเทียมแล้ว และถามก่อนทำไมต้องไปตั้งดาวเทียมถ่ายภาพที่ดวงจันทร์ ๆ ทั้ง ๆ ที่มันเกิดขึ้นไปแล้วโดยโซเวียต และศักยภาพและแรงผลักดันของทั้งอเมริกาและโซเวียตคือการไปดวงจันทร์ด้วยตัวคนเป็น ๆ ทำไมต้องทำเรื่องที่ทำให้ทุกอย่างช้าลงและ "สมเหตุสมผล" ในขณะที่สองชาติมหาอำนาจกำลังแข่งขันอวกาศดุเดือดมาก เพราะคุณเลือกที่จะมองข้ามวัตถุประสงค์แรกเริ่มของโครงการ Apollo ตั้งแต่แรกแล้ว นั่นคือ "การส่งคนไปดวงจันทร์เป็นชาติแรก" แค่นั้นเลย มันคือ Hype Train ที่ทั้งสองชาติมหาอำนาจพยายามสร้างเพื่อเชิดชูเกียรติและทำให้คนในชาติภาคภูมิใจ ไม่ได้มีอะไรเกินไปกว่านั้น และนั่น

ทั้งนี้ Luna 3 ของโซเวียตเองก็ถ่ายภาพมาเบลอมาก ถ้า Apply ตรรกะเดียวกับที่คุณใช้อยู่ คุณจะบอกว่าภาพจาก Luna 3 เป็นของปลอมหรือเปล่า เรามีแค่ไม่กี่ภาพด้วยนะ

ตราบใดที่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอ คำถามที่ว่าเมกาเคยส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ

หลักฐานมันมีมากเกินพอที่จะพิสูจน์ได้เกินกว่าที่จะพิสูจน์เรื่องนี้อยู่แล้ว และในงานวิจัยต่าง ๆ คุณจะได้เจอกับการสรุปจากหลักฐานไม่กี่ชิ้นที่ผ่านการประเมินเชิงคุณภาพที่ต้องใช้วิจารณญาณของคนอยู่เป็นประจำ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องมืคนมากกว่า 1 คนมาประเมินคุณภาพของงานวิจัยและไม่ใช่จากเจ้าของงานวิจัยเอง เรื่องนี้ก็เช่นกัน หลักฐานที่ทุกคนหยิบขึ้นมาในคอมเมนต์นี้เองไม่ได้มีแค่ 1 หรือ 2 ด้วย มันมีมากมายก่ายกองเลย แล้วแต่ว่าคุณอยากจะหามันหรือเปล่า อย่างที่ไม่ได้มาจากอเมริกาเจ้าของต้นเรื่องก็มีแบบล้น ๆ แต่ถึงกระนั้นคุณก็เลือกที่จะไม่เชื่อ "หลักฐานอื่น" จาก "กลุ่มบุคคลที่ไม่ได้มีเอี่ยวกับอเมริกา" (รวมไปถึงชาติศัตรู) ซึ่งก็สามารถสรุปได้ทันทีว่าคุณเลือกจะอยู่กลุ่มเดียวกับกลุ่มที่สร้าง Echo Chamber มาตั้งแต่แรก ซึ่งกลุ่มนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นกลุ่ม "ชนกลุ่มน้อยเสียงดัง" ที่ตั้งใจปั่นเรื่องการไปดวงจันทร์เป็นของปลอม เรื่องคนไม่เชื่อมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วบนโลกอินเทอร์เน็ต แต่มันจะเป็นอีกเรื่องทันทีถ้าเรื่องนั้น ๆ เป็นเรื่องที่ได้รับการพิสูจน์โดยองค์กรวิทยาศาสตร์ ที่ไม่ได้ขึ้นตรงต่อกลุ่มที่อ้างหลักฐานนั้นขึ้นมา ถ้าคุณเลือกที่จะไม่เชื่อองค์กรเหล่านี้ คุณก็ต้องหาวิธีการที่ดีกว่าในการพิสูจน์หรือโน้มน้าวให้คนคล้อยตามได้ ซึ่งกลุ่มไม่เชื่อเรื่องการไปดวงจันทร์ไม่สามารถทำแบบนั้นได้เลย ได้แต่แค่พูดถึงสมมติฐานนั่นนี่นู่น อ้างถึงความไม่ชัดเจนของหลักฐานแบบไร้ข้ออธิบายไปเรื่อย ๆ แบบนี้แหละ และก็จะได้พบกับการตอบกลับโดยกลุ่มที่มีหลักฐานที่ได้รับการพิสูจน์แล้วไปเรื่อย ๆ การที่คุณเคลมว่า "ผมไม่ได้เป็นคนเดียวที่คิดถึงเรื่องนี้อยู่แน่ ๆ" จึงไม่มีน้ำหนักแต่อย่างใด เพราะคุณใช้ประโยคนี้กับเรื่องที่ได้รับการพิสูจน์เรียบร้อยแล้ว

สุดท้ายนี้ ผมยังยืนยันเหมือนเดิมตามคอมเมนต์ที่ผมพิมพ์ไว้ด้านล่าง ว่าคนที่ตั้งคำถามกับการไปดวงจันทร์ไม่ใช่คนโง่ การตั้งข้อกังขาอย่างสมเหตุสมผลเป็นหนึ่งในวิธีการที่เราจับผิดเรื่องเท็จมาหลายต่อหลายครั้ง เพียงแค่ว่าครั้งนี้คุณไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้น การที่คุณบอกว่า "ผมไม่เชื่อเรื่องนี้" ก็เช่นกัน ยกเว้นว่าการที่คุณตอบคอมเมนต์ในลักษณะแบบนี้ก็ไม่ต่างกับการสร้าง Echo Chamber น่ารำคาญที่ไม่มีหลักฐานรองรับ และสร้างความเข้าใจผิดไม่ต่างจากข่าวโคมลอย

By: lawson on 13 December 2024 - 21:15 #1328917 Reply to:1328898

[[[Logic คุณพังตั้งแต่ไม่เชื่อภาพถ่ายเบลอ ๆ แล้วไปเทียบกล้องถ่ายแบบคนถือได้กับกล้องดาวเทียมแล้ว]]] <-
อันนี้คุณไปอ่านท่อนใใหนมาถึงบอกว่าผมเอากล้องดาวเทียมไปเทียบกับกลั้องคนถือ

เอาจริงๆผมก็อ่านเค้าวิเคราะห์ทั้ง2ฝั่งนั้นแหละ มันก็มีเหตุผลทั้ง2ฝั่ง ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเชียร์ฝั่งใหนแบบที่คุณพูด เชียร์ฝั่งใหนฝั่งนั้นก็จะมีน้ำหนักเหตุผลมากกว่า (คุณเองก็ตกอยู่ในวังวนนี้) แต่ใครหละจะตัดสินถูกผิดจริงๆ มันก็เหมือนเรื่องโลกร้อนนั้นแหละที่มีเสียงแตก มันมีความเป็นไปได้ที่เมกาจะโกหก (เมกาทำมาตลอด) (ผมไม่ขอพูดซ้ำ หาอ่านได้จากคอมเม้นก่อนหน้า และขอความกรุณาอย่าขยายส่วนนี้) และมีความเป็นไปได้ว่ากิจกรรมบนดวงจันทร์เกิดจากการ automated เพราะเทคโนที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์บนอวกาศค่อนข้างที่จะเป็นอะไรที่ใหม่มากๆในสมัยนั้น ทั้งๆที่ควรจะต้องมีการทดลองหลายๆอย่างและหลายๆปีก่อน และความล้มเหลวของโครงการอวกาศนาซ่าตอนนี้แสดงให้เห็นว่าเมกายังมีข้อจำกัดทางเทคโนโลยีบางอย่าง ซึ่งการอ้างงบประมาณนั้นฟังไม่ขึ้นเพราะหลายๆเทคโนมันคิดค้นมาแล้วมันไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณเท่าเมื่อก่อนอยู่แล้ว สิ่งที่เมกาต้องทำคือการปรับปรุงประสิทธิภาพของเทคโนให้ใหม่เท่าปัจจุบันแค่นั้นเอง ส่วนข้ออ้างการพัฒนาแบบยั้งยืนก็ส่วนหนึ่ง แต่ Artemis 1-3 มันยังเป็นการทดลองสิ่งที่เคยทำมาแล้ว มันยังไม่ใช่การทดลองใหม่และยังไม่ใช่การทดลองเพื่อการเดินทางไปกลับดวงจันทร์แบบ regularly หรือการตั้งถิ่นฐานแบบถาวร ดังนั้นคุณไม่ควรแก้ต่างให้ความล้มเหลวของโครงการนาซ่าตอนนี้หรอกครับเพราะฟังไม่ขึ้น ผมคงไม่สามารถทำให้คุณถูกใจได้ แต่ผมก็ไม่ใช่คนหัวรั้นซ้ายจัดขวาจัด ผมพร้อมจะเปลี่ยนความคิดถ้ามีหลักฐานที่หนักแน่นมากกว่านี้

By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 14 December 2024 - 13:48 #1328927 Reply to:1328917
big50000's picture

อันนี้คุณไปอ่านท่อนใใหนมาถึงบอกว่าผมเอากล้องดาวเทียมไปเทียบกับกลั้องคนถือ

อ้ะ ทบทวนความจำให้

...ภาพหลักฐานที่นำมาแสดงก็เป็นภาพเบลอๆทั้งๆที่เมกาสามารถถ่ายบนโลกได้ระดับเซ็นติเมตรตั้งนานแล้ว

ต่อให้คุณไม่ได้บอกว่าเป็นดาวเทียมตรง ๆ แต่ประโยค "ถ่ายบนโลก" มันสื่อได้ความหมายเดียว

เอาจริงๆผมก็อ่านเค้าวิเคราะห์ทั้ง2ฝั่งนั้นแหละ มันก็มีเหตุผลทั้ง2ฝั่ง ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเชียร์ฝั่งใหนแบบที่คุณพูด เชียร์ฝั่งใหนฝั่งนั้นก็จะมีน้ำหนักเหตุผลมากกว่า (คุณเองก็ตกอยู่ในวังวนนี้)

โทษทีนะ ถ้าคุณเรียกว่าการใช้หลักฐานที่ได้รับการพิสูจน์แล้วคือการตกอยู่ในวังวน อย่างนั้นนักวิจัยอวกาศทั้งโลกก็ตกอยู่ในวังวนเดียวกันแล้วล่ะ ผมเองก็ขออยู่ที่นี่อย่างเต็มใจด้วย ต่างจากการใช้ความรู้สึกส่วนตัวว่ามันไม่น่าเชื่อถือ ภาพเบลอเอย เราพลาดมาหลายครั้งในครั้งนี้ฉะนั้นมันเป็นไปไม่ได้เอย ฯลฯ เอาจริงผมเองก็เป็นบ่อยนะ แต่พอดีผมเลือกอ่าน Paper ที่พิสูจน์มาแล้วมากกว่าที่จะวิเคราะห์เองเพราะการมานั่งเทียนเองผมก็ไม่สามารถตรัสรู้เองได้หรอก แต่ดูเหมือนว่าคุณสามารถทำได้นะ เก่งจัง

มันก็เหมือนเรื่องโลกร้อนนั้นแหละที่มีเสียงแตก มันมีความเป็นไปได้ที่เมกาจะโกหก (เมกาทำมาตลอด) (ผมไม่ขอพูดซ้ำ หาอ่านได้จากคอมเม้นก่อนหน้า และขอความกรุณาอย่าขยายส่วนนี้)

ต่อให้ห้ามผมก็จะทำ เพราะนี่คือตัวอย่างของการจับแพะชนแกะ ปัญหาโลกร้อนเป็นปัญหาที่ซับซ้อนมากและมันแล้วแต่ว่าใครจะอยากหยิบยกมุมไหนมาพูดและคุณอยากได้ Mob ฝั่งไหนมามากที่สุดเพราะแทบทุก Mob ต่างก็มีมุมมองที่ถูก อันดับแรก โลกที่ร้อนขึ้นจะไม่ทำให้คุณอยู่บนโลกไม่ได้อีกต่อไป เพราะโลกมีคาร์บอนจำกัด และโลกหาจุดสมดุลเก่งมากตราบใดที่วัฏจักรคาร์บอนยังดำเนินต่อไป (หลัก ๆ จากระบบบรรยากาศ และการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก) การมีคาร์บอนน้อยเกินไปต่างหากที่จะทำให้โลกแห่งสิ่งมีชีวิตล่มสลาย ต่อมาคือการที่น้ำแข็งละลายจะก่อปัญหากับมนุษย์มากที่สุดเพราะพื้นที่มนุษย์หลายที่อยู่ใกล้กับทะเล ท้ายสุดคือสิ่งมีชีวิตต่างก็สูญพันธ์และเกิดสายพันธุ์ใหม่อย่างต่อเนื่องยู่แล้ว มนุษย์แค่เร่งให้มันเกิดเร็วขึ้น ทุกอย่างของปัญหาโลกร้อนคือมันกระทบกับมนุษย์ทั้งสิ้น มันจึงเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันได้หลายมุมมาก ต่างจากปัญหาคนไปดวงจันทร์มากเพราะคำตอบมันอยู่แค่ว่าไปจริงหรือเปล่าแค่นั้นเอง แต่พอดีคุณไม่เชื่อในหลักฐานที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วมันก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงต่อ ผมเล่นงานคุณอย่างเดียวน่าจะมีประโยชน์มากกว่า

...และมีความเป็นไปได้ว่ากิจกรรมบนดวงจันทร์เกิดจากการ automated เพราะเทคโนที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์บนอวกาศค่อนข้างที่จะเป็นอะไรที่ใหม่มากๆในสมัยนั้น ทั้งๆที่ควรจะต้องมีการทดลองหลายๆอย่างและหลายๆปีก่อน

ไม่ใช่แค่มีความเป็นไปได้ แต่คุณไม่รู้เลยว่ามันเกิดขึ้นมาหลายครั้งและล้มเหลวมาก่อนหน้านี้ก็หลายครั้ง และมีคนตายด้วย ระลึกให้ได้ก่อนว่าอเมริกาและโซเวียตแข่งกันด้านอวกาศกันหนักมาก ข้อผิดพลาดมักเป็นสิ่งแรก ๆ ที่ทั้งสองฝ่ายไม่อยากให้เราได้ยิน แต่หลักฐานมีให้เสมอ Apollo 13 ก็เช่นกัน ในบันทึกเอง ภารกิจนี้เกือบคร่าชีวิตนักบินทั้งหมดด้วยซ้ำเพราะข้อผิดพลาดระหว่างทางมีเยอะมาก มันไม่ได้ Sail Smooth เลยแม้แต่น้อย

Artemis 1-3 มันยังเป็นการทดลองสิ่งที่เคยทำมาแล้ว มันยังไม่ใช่การทดลองใหม่และยังไม่ใช่การทดลองเพื่อการเดินทางไปกลับดวงจันทร์แบบ regularly หรือการตั้งถิ่นฐานแบบถาวร ดังนั้นคุณไม่ควรแก้ต่างให้ความล้มเหลวของโครงการนาซ่าตอนนี้หรอกครับเพราะฟังไม่ขึ้น

ตั้งสติ และจับประเด็นให้ได้ก่อน จะพูดถึง Apollo หรือ Artemis หรือนาซ่า ผมยังไม่ได้พูดถึงสภาพของนาซ่าในตอนนี้เลยนะ และคุณยังแยกไม่ได้ด้วยซ้ำว่าการไปดวงจันทร์เพื่ออวดชาวบ้านแบบเงินไม่จำกัดแถมเกือบพานักบินทั้งหมดตายคาลำ กับการไปอวกาศอย่างยั่งยืน ปลอดภัย และเงินแทบไม่เหลือมันต่างกันยังไง ต่อให้ Artemis ล้มเหลวไปอีก 30 ปีผมก็ไม่แปลกใจเลย ดีด้วยซ้ำเพราะผมก็ไม่อยากให้มีโครงการผลาญเงิน/ชีวิตคนเล่นแบบ Apollo อีก

By: lawson on 16 December 2024 - 11:42 #1329001 Reply to:1328927

มันเหมือนว่าในโลกของคุณมันต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ใครไม่ได้คิดแบบนี้มันผิดหมด ส่วนตัวผมยังไม่ได้ปฏิเสธโครงการบนดวงจันทร์ 100% ถ้าคุณไม่หลอกตัวเองก็จะรู้ว่าโครงการส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์มีความน่าสงสัยหลายอย่างในเรื่องเทคโนโลยีของมนุษย์บนอวกาศ และความล่าช้าของโครงการ Artemis2-3 ทั้งๆที่องค์ความรู้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนเยอะ เราคุยกันมาหลายเรื่องหลายๆเรื่องคุณก็เข้าใจผิดไปเอง หลายๆคุณพยายามบิดเบือนหาว่าจับประเด็นไม่ถูกทั้งๆที่มีความเกี่ยวเนื่องด้วยกัน ผมไม่รู้ว่าเราจะถกเถียงกันไปอีกเท่าไหร่ ต่างคนต่างก็อ้างหลักการและมุมมองของตัวเอง แต่ผมบอกได้ว่าผมคงทำให้ถูกใจคุณไม่ได้ ผมมาที่นี่ไม่ได้มาบอกว่าโครงการอวกาศนาซ่าผิดอย่างไร แต่มาบอกว่าโครงการอวกาศนาซ่าน่าสงสัยอย่างไร และไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรผิดๆอะไร หวังว่าคุณควรเข้าใจ และเคารพความเห็นซึ่งกันและกัน ผมเองก็ไม่เคยโจมตีคนที่ปฏิเสธแนวคิดผม ข้อพิรุธของโครงการอวกาศนาซ่ามีอยู่จริง มันถึงเถียงกันไม่จบทุกวันนี้ นี่คือสิ่งคุณไม่เคยเข้าใจมากกว่า

By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 22 December 2024 - 17:37 #1329366 Reply to:1329001
big50000's picture

ไม่ได้บอกเลยนะว่าอะไรถูกผิด แค่ Debunk ความสงสัยที่ไม่สมเหตุสมผลของคุณก็เท่านั้น และถ้าผมหลอกตัวเอง คนทั้งโลกก็โดนหลอกเหมือนกัน ชาติอื่น ๆ ก็โดนหลอกเหมือนกัน รวมไปถึงชาติศัตรูที่มีเทคโนโลยีระดับเดียวกันในยุค 60s ด้วย แค่นี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าใครหลอกตัวเองกันแน่ และผมไม่จำเป็นต้องเคารพความเชื่อไร้เหตุผลที่ส่งผลเสียต่อผู้ที่รับสารจากความคิดเห็นของคุณได้ และผมจะเคลียร์ประเด็นทั้งหมดตราบใดที่คุณยังตอบความคิดเห็นไปเรื่อย ๆ

โครงการส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์มีความน่าสงสัยหลายอย่างในเรื่องเทคโนโลยีของมนุษย์บนอวกาศ และความล่าช้าของโครงการ Artemis2-3 ทั้งๆที่องค์ความรู้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนเยอะ

เพิ่งบอกไปหมาด ๆ ว่าโครงการ Apollo คือการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำและเทคโนโลยีเดิมไม่สามารถนำมาใช้ได้ ยังจะติดหล่มความคิดอยู่อีกเหรอ และ Citation ไหนที่บอกว่าโครงการนี้ไม่จำเป็นต้องลงทุนเยอะ เพราะ Apollo หมดไป 250 พันล้านดอลลาร์ (Inflation Adjusted)

คุณสงสัยในสิ่งที่มีคำตอบทั้งหมดอยู่แล้ว และคุณไม่คิดที่จะรับมัน นั่นคือปัญหาของคุณ ไม่ใช่ปัญหาของคนอื่นที่จะต้องมาทำความเข้าใจ

By: lawson on 23 December 2024 - 09:37 #1329403 Reply to:1329366

คุณจะอ้างและยกเหตุผลลยังไงก็ได้ แต่คุณคิดว่าห้กล้างผมความคิดผมจริงๆได้แล้วเหรอ คุณอาจจะหยุดในบอร์ดนี้ได้ แต่ความสงสัยในโครงการอวกาศเมกายังมีอยู่ทั่วโลก(ย้ำนะครับทั่วโลก) และผมยังยืนยันว่าหลายๆคำตอบของคุณมันคิดไปเอง อะไรคือโครงการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ อะไรคือเทคโนที่พัฒนามาแล้วแต่นำกลับไปใช่ใหม่ไม่ได้ ฟังดูไม่เข้าท่าเหมือนกับว่าเทคโนโลยีต่างๆรวมถึงระบบ automation ต่างๆที่นาซ่านำไปใช้กับโครงการอวกาศอื่นๆนอกเหนือดวงจันทร์จะไม่ได้ใช้เทคโนพวกนี้จากโครงการ Apollo เลย อย่าอ้างเหตุผลนี้เลยครับ แล้วอย่าอ้างว่าหลังจบ Apollo แล้วนาซ่าจะไม่ลงทุนการศึกษาอวกาศอีกเลย ระบบเซ็นเซิอร์เปลี่ยนจาก analog มาเป็น digital โครงการสถานีอวกาศที่นาซ่าส่งมนุษย์ไปประจำทุกปี อย่าทำยังกับว่าเทคโนโลยีของโครงการพวกนี้นำไปใช้กับอะไรไม่ได้

By: ECOS
Windows
on 24 December 2024 - 20:30 #1329529 Reply to:1329403
ECOS's picture

ความสงสัยมีทั่วโลกจริงๆแหละ หลังยุคอินเตอร์เน็ตนี่ยิ่งมาซะด้วย เพราะเป็นพื้่นที่ที่ทำให้คนโง่เสียงดังได้
ทฤษฎีสมคบคิดส่วนใหญ่บนโลกตอนนี้ก็เกิดมายุคอินเตอร์เน็ตนี่แหละ
นาซ่าไม่เคยเหยียบดวงจันทร์ โลกแบน วัคซีนอันตราย 5G อันตราย อิลูมินาติ QAnon อะไรเทือกๆนี้อยู่ในเลเวลเดียวกัน

คนไม่ศึกษาก็คือไม่คิดจะศึกษาอยู่แล้ว เขาจะอยู่ใน echo chamber ของตัวเองตลอดไป

By: ECOS
Windows
on 9 December 2024 - 18:57 #1328608
ECOS's picture

แทงผิดไปหน่อย
ตอนแรกทายว่า II จะเลื่อนไปปลายปี 2025 แต่นี่ไป 2026 เลย
ส่วน III คิดว่าไป 2027 อยู่แล้ว

By: TeamKiller
ContributoriPhone
on 9 December 2024 - 19:53 #1328614
TeamKiller's picture

เทคนิคเข้าโลกแบบใหม่ save เงิน สรุปปัญหาใหม่แทน

By: sake on 9 December 2024 - 20:34 #1328617

มีคนพยายามเตือนมาเป็นปีละ
https://www.youtube.com/watch?v=OoJsPvmFixU

By: Ellze on 9 December 2024 - 23:23 #1328625

ไม่น่าเชื่อว่าในเว็บที่มีแต่คนสายเทคโนโลยีขนาดนี้ ยังมีคนที่ไม่เชื่อเรื่องมนุษย์ไปดวงจันทร์อีก

By: crucifier
iPhoneAndroidUbuntu
on 10 December 2024 - 10:55 #1328656 Reply to:1328625

การศึกษาไม่ช่วยอะไร ในมุมกลับ บางครั้งระดับการศึกษาทำให้คนมีอีโก้และคิดว่าตนเองฉลาดกว่าคนอื่นเลยกล้าแทงสวน เพื่อนคนไอทีของผมบางคนจึงกลายเป็นสลิ่มนับสิบปี ทุกวันนี้ยังไม่หาย

By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 10 December 2024 - 16:09 #1328678 Reply to:1328625
big50000's picture

การตั้งคำถามกับเรื่องใหญ่ระดับมนุษยชาติแบบนี้เป็นสิ่งที่ดี และมันก็ช่วยทำให้เราสามารถจับผิดเทคโนโลยีลวงโลกได้หลายครั้งแล้ว (อย่างเช่นกรณีของ Theranos) เพียงแต่ว่าก่อนที่เราจะตั้งคำถาม ก็ควรให้คำถามที่ตั้งขึ้นมีความสัมพันธ์กันเองก่อนที่จะเชื่อมไปยังปัญหาของเรื่องนั้น ๆ

ดีที่ว่าเรื่องไปดวงจันทร์นี้เรามีคำอธิบายเกี่ยวกับคำถามต่าง ๆ ของเรื่องนี้อยู่เพียบเลย ซึ่งถ้ายังมีคำถามอีกก็คือต้องเช็กคำถามตัวเองดี ๆ แล้วว่า มัยเคยถูกตอบไปแล้วหรือยัง หรือว่าคำถามที่เราตั้งขึ้นสมเหตุสมผลหรือไม่

By: nessuchan
iPhoneAndroidWindows
on 11 December 2024 - 09:07 #1328716 Reply to:1328625
nessuchan's picture

ผมว่ามีไม่กี่คนหรอกครับในนี้ น่าจะปล่อย ๆ ผ่านได้ แปลกใจว่าทำไมมีคนไปพยายามอธิบายเค้าเยอะจัง คนไม่เชื่อ หลักฐานเห็นจะ ๆ อยู่ตรงหน้าก็ทำเป็นมองไม่เห็นแหละ ปล่อยไปก็ไม่น่าเป็นอะไรนะไม่ได้อันตรายอะไรกับสังคมขนาดนั้น คนเรามีสิทธิ์ที่จะเชื่ออะไรแบบไหนก็ได้แค่อย่าเอาความเชื่อผิด ๆ ไปฝังหัวคนอื่นเท่านั้นเอง เชื่ออยู่คนเดียวเงียบ ๆ ไป อันนี้ไม่เท่าไร ไอเรื่องโลกแบนเนี่ยสิหนักกว่านี้อีก ยังมีคนเชื่อเลย อย่างฮา

By: ECOS
Windows
on 11 December 2024 - 10:59 #1328721 Reply to:1328716
ECOS's picture

ทฤษฎีสมคบคิดพวกนี้เป็นจุดเริ่มต้นของหลายๆอย่างครับ ผมเห็นมาหลายคนแล้ว
ไม่เชื่อว่านาซ่าไปดวงจันทร์ ไม่เชื่่อใจอเมริกา ไม่เชื่อข่าวกระแสหลัก ไม่เชื่อวัคซีน ไม่เชื่อเรื่องโลกร้อน เชื่อว่าโลกแบน เชื่อว่ามีผู้คุมโลกนี้อยู่เบื้องหลัง ไม่เชื่อในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ฯลฯ แนวคิดพวกนี้มันลุกลามต่อๆกันไปได้และมันอันตรายมาก

ผมที่คุยกับคนประเภทนี้มาเยอะแยะตั้งแต่สมัยเล่นพันทิปก็รู้ว่าเปลี่ยนคนพวกนี้ไม่ได้อยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ทำคือเอาข้อมูลและเหตุผลมาโยนทิ้งไว้ ปัดตกข้อสังเกตประหลาดๆของทฤษฎีสมคบคิดไป เพื่อให้ใครก็ตามที่มาอ่านไม่มาคล้อยตามพวกสมคบคิดน่ะครับ

By: 7
Android
on 11 December 2024 - 20:40 #1328748 Reply to:1328721
7's picture

คุณเป็นคนที่อดทนดีมาก ผมจะข้ามไปไม่อ่านเลย