ปี 2024 ยอดดาวน์โหลดแอปทั่วโลกลดลง 2.3% จากปีก่อนหน้า เหลือ 1.1 แสนล้านครั้ง ยอดดาวน์โหลดใน App Store อยู่ที่ 2.83 หมื่นล้านครั้ง ลดลง 1.1% จากปีก่อนหน้า ส่วน Google Play อยู่ที่ 8.14 หมื่นล้านครั้ง ลดลง 2.6% จากข้อมูลของ Appfigures
ยอดดาวน์โหลดที่ลดลงส่วนหนึ่งมาจากการปราบปรามสแปมและแอปคุณภาพต่ำอื่น ๆ ของ Google รวมถึงข้อกำหนดที่ให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ทดสอบและตรวจสอบแอปที่เพิ่มขึ้น ทำให้การเปิดตัวแอปใหม่บน Google Play ลดลงถึง 60%
นอกจากนี้ ตลาดแอปสหรัฐอเมริกายังผลักดันแนวโน้มนี้ด้วย โดยยอดดาวน์โหลดแอปในสหรัฐฯ ลดลง 3.4% จากปีก่อนหน้า เหลือ 1.06 หมื่นล้านครั้ง การดาวน์โหลดใน iOS ลดลง 5.3% จากปีก่อน เหลือ 6.1 พันล้านครั้ง และใน Google Play ลดลงเล็กน้อยที่ 0.7% เหลือ 4.4 พันล้าน
แอปที่มียอดดาวน์โหลดมากที่สุดในโลกในปี 2024 คือ Instagram ที่มียอดดาวน์โหลดเกือบ 640 ล้านครั้ง และยังเป็นแอปที่มีการค้นหามากที่สุดในสหรัฐฯ ส่วน Temu กลายเป็นแอปที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดในสหรัฐฯ มีการติดตั้งทั้งสิ้น 48 ล้านครั้ง
อย่างไรก็ตาม ยอดการใช้จ่ายดูจะโตสวนทางยอดดาวน์โหลด เพราะการใช้จ่ายจากแอปและเกมมือถือของผู้บริโภคทั่วโลกในปี 2024 สูงถึง 1.27 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 15.7% จากปีก่อนหน้า (เป็นรายได้ทั้งจากการซื้อแอป การเติมเงิน หรือการสมัครเป็นสมาชิก)
ถ้ามองแยกสโตร์หลัก ๆ ยอดใช้จ่ายจะเป็นดังนี้
นับวันตลาดแอปพลิเคชันยิ่งอิ่มตัว (mature) ผู้พัฒนาหลายรายจึงเน้นการทำรายได้จากการสมัครสมาชิกบนแอปที่มีการติดตั้งอยู่แล้ว แทนที่จะกระตุ้นให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดแอปใหม่ หรือแอปที่ต้องชำระเงิน
แม้แอปทั่วโลกเพียง 5% มีระบบการสมัครสมาชิก แต่สามารถทำรายได้ถึง 48% ของรายได้จากแอปทั้งหมดนับรวมทั้ง App Store และ Google Play
ที่มา: TechCrunch via App Figures
Comments
จากการใช้งานส่วนตัว ผมก็ไม่รู้ว่าจะโหลดแอปมาไว้ให้เปลืองพื้นที่ในเครื่องทำไม บางแอปที่ไม่มีฟีเจอร์อะไรมาก อย่างพวกเน้นเอาไว้อ่านอย่างเดียว จะเข้าเว็บหรือแอปก็ไม่ต่างกันมาก
เขียนเองใช้เองครับ
นี่บ่งบอกหรือเปล่าว่ายอดเติมเงินฝั่ง Android น้อยกว่าด้วย เวลา App ใหม่มาเลยจะลง iOS ไว้ก่อน