Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

Ethan Evans อดีตรองประธานบริษัทบิ๊กเทคอย่าง Amazon โพสต์ข้อความใน X เพื่อจะบอกให้โลกเข้าใจผู้บริหารว่า ทำไมพวกเขาถึงอยากให้พนักงานเข้าออฟฟิศนัก ไม่ใช่ว่าพวกเขาเลวร้ายมาก (จนต้องบังคับให้คนเข้าออฟฟิศทุกวัน) แต่เป็นเพราะพวกเขาอาศัยอยู่ในโลกคนละใบกับพนักงานนั่นเอง

Evans โพสต์เองเลยว่า เขาเป็น VP จาก Amazon ที่เคยมีประสบการณ์หุ้น Amazon พุ่งขึ้นถึง 9,082% มาแล้ว เขาไม่ได้อยู่ในชีวิตที่ยากลำบากเหมือนมนุษย์เงินเดือนทั่วไป การพูดถึงเรื่องความมั่งคั่งเป็นเรื่องต้องห้ามที่เหล่าผู้บริหารพยายามจะหลีกเลี่ยง ไม่พูดถึงมัน แต่เขาก็อยากจะอธิบายอะไรให้ฟังสักเล็กน้อย

Evans บอก มันอาจจะดูปากว่าตาขยิบนิดนึง ที่ต้องมาพูดถึงเรื่องผู้บริหารและไม่พูดถึงตัวเอง จากนั้นก็พูดถึงตัวเองว่าไม่ต้องมีภาระเรื่องบ้าน มีพนักงานคอยบริการทำความสะอาดให้ทุก 2 สัปดาห์ มีคนตัดหญ้าในสนามให้ และเขาก็เกษียณในวัย 50 ปีเท่านั้น

ซึ่งถ้าพูดถึงตำแหน่งที่เหนือกว่าตัวเขาเองและเขาเห็นมามาก แบ่งได้ 6 ข้อ 

1) มีบ้านพักตากอากาศ มีพนักงานหลายคนคอยดูแล
2) มีเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว
3) มีผู้ช่วยส่วนตัว ไม่ต้องไปจ่ายบิลเอง ไม่ต้องไปเดินจ่ายตลาด เวลาตัวเองยุ่งสุดๆ ก็ไม่จำเป็นต้องไปรับลูกเอง เพราะอะไร? ก็เพราะมีผู้ช่วยส่วนตัวจัดการให้ได้หมด
4) มีคนขับรถให้
5) ลูกๆ สามารถเข้าถึงโรงเรียนเอกชนสุดพิเศษที่มีราคาแพงระยับได้
6) พวกเขาจะอาศัยอยู่ที่ไหนก็ได้ เรื่องต้นทุน เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ใช่เรื่องใหญ่

นี่แค่ตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น ที่ทำให้เห็นว่าทำไมผู้บริหารระดับสูงถึงไม่ได้เชื่อมโยงกับพนักงาน ก็เพราะเขาอยู่ในโลกคนละใบกับพนักงานไง การให้ความสำคัญกับเรื่องต่างๆ มันจึงไม่เหมือนกัน 

การที่ผู้บริหารไม่เชื่อมโยงกับพนักงานก็เพราะมีการให้ความสำคัญในเรื่องที่แตกต่างกันนี่แหละ ลองจินตนาการดูว่า ถ้าเราไม่จำเป็นต้องเดินทางไปทำงานเอง แบบว่ามีคนขับรถให้จากประตูบ้านถึงประตูออฟฟิศ ไม่ต้องรีบออกจากออฟฟิศเพื่อไปรับลูกจากโรงเรียนเพราะมีผู้ช่วยส่วนตัวทำให้หมด

ไม่ต้องไปจ่ายตลาด หรือซื้อของใช้ที่จำเป็น ไม่ต้องทำความสะอาดบ้านเอง ไม่ต้องทำอาหารกินเองเพราะมีพนักงานจัดการให้หมด ไม่ต้องสอนการบ้านลูกเพราะมีติวเตอร์ให้ลูกอยู่แล้ว ชีวิตเราจะเป็นยังไง?

และนี่คือความมั่งคั่งที่ Evans เคยได้รับตลอด 25 ปีที่ผ่านมา เขาถึงอธิบายได้ว่าทำไมผู้บริหารระดับสูงที่มีความมั่งคั่งถึงต่อไม่ติดกับพนักงานธรรมดาๆ แต่ถ้าอยากให้ผู้บริหารเข้าใจมากขึ้นก็ลองบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง หรือจะอัดคลิปวิดีโอดูก็ได้ (เพื่อให้เขาเห็นว่า วันๆ คุณทำอะไรบ้าง)

Evans ทิ้งท้ายไว้ว่า อยากให้รู้ว่า เขาแค่อยู่อีกโลกหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องเลวร้ายเสียหน่อย มันแค่ไม่เชื่อมโยงกันเท่านั้นเอง 

อ่านประเด็นก่อนหน้านี้ได้ที่นี่ Amazon พยายามเรียกพนักงานเข้าออฟฟิศ แต่ที่ไม่พอให้นั่ง ที่จอดรถเต็มฯ

No Description

ที่มา - Ethan Evans

Get latest news from Blognone

Comments

By: Alios
iPhoneAndroidWindows
on 3 March 2025 - 11:23 #1334816

ครับ..

By: artofdestroy
Windows PhoneAndroidUbuntuWindows
on 3 March 2025 - 11:41 #1334822

อ้าว ก็รู้นี่

By: Ford AntiTrust
ContributorAndroidBlackberryUbuntu
on 3 March 2025 - 12:17 #1334829 Reply to:1334822
Ford AntiTrust's picture

คนที่รู้หรือมี empathy อาจจะแค่ส่วนน้อย

By: tisana
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 3 March 2025 - 14:13 #1334841

แล้วทำไมไม่เอาตัวเองลงมาดู พนักงานต้องถ่ายวีดีโอไปให้ดู แถมจะดูรึเปล่าอีกก็ไม่รู้

By: PaePae
WriteriPhoneAndroidWindows
on 3 March 2025 - 22:47 #1334880 Reply to:1334841
PaePae's picture

คนพูดเขาเป็น "อดีตผู้บริหาร Amazon" ครับ


LinkedIn

By: tisana
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 4 March 2025 - 11:58 #1334938 Reply to:1334880

เข้าใจครับว่าเป็น"อดีต" แต่ในเนื้อหาก็มีแต่แนะนำให้พนักงานขึ้นไปบอก ผู้บริหาร แต่ทำไมไม่บอกผู้บริหารให้ลงไปดูบ้างล่ะครับ

By: GodPapa
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 3 March 2025 - 15:12 #1334850
GodPapa's picture

รัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ประเทศนี้ก็คล้ายกัน
แก้ปัญหาความยากจนแบบคนรวย บางคนเกิดมารวยเลย
ผมเองก็ไม่เข้าถึงความรู้สึกคนยากจนมากๆ คนไร้บ้านเหมือนกัน ถึงตอนเด็กจะเคยอยู่ชุมชนค่อนข้างแออัดก็เถอะ

By: MaxxIE
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 3 March 2025 - 15:56 #1334854
MaxxIE's picture

แค่ทำตัวเองให้อยู่ใต้กฎบริษัทเดียวกันกับ พนง ก็พอ

By: orpheous
AndroidWindowsIn Love
on 3 March 2025 - 18:03 #1334862 Reply to:1334854
orpheous's picture

คนในข่าวก็มาเข้าออฟฟิศตรงเวลาแบบพนักงานไงครับ แต่ชีวิตส่วนตัวมีเงินจ้างคนจัดการให้หมดเลย ไม่ต้องมาเหนื่อยกับการเดินทางไปกลับ เพราะมีคนขับรถ หรือจะซื้อที่อยู่ใกล้ที่ทำงานก็ได้ ไม่ต้องไปรับส่งลูก ไม่ต้องมาสอนการบ้านลูก

By: raindrop
ContributoriPhoneWindows PhoneWindows
on 3 March 2025 - 18:24 #1334863

เข้าใจว่าแกจะสื่อว่า ถ้าซักวันนึงคุณได้เป็นผบรห. คุณก็จะเป็นเหมือนกันนี่แหละ ด้วยความรับผิดชอบที่มันต่างกัน(รวมถึงไลฟ์สไตล์ที่เกิดจากความมั่งคั่ง) เลยไม่่อยากให้มองว่ามันดีหรือไม่ดี แต่ธรรมชาติของการทำงานมันก็ทำให้เป็นยังงี้

เหมือนผบหร. สาย founder ก็อยากให้พนักงานเข้ามาทำงานแบบเจอหน้ากัน เพราะเค้าก็รู้ว่าถ้าจะสร้างโปรดักต์ มันดีต่อทีีมกว่าจริงๆ
แต่อย่างว่า คนที่เป็นลูกจ้างก็ไม่ใช่ founder เขาก็ไม่อินเท่า

By: zerocool
ContributoriPhoneAndroid
on 4 March 2025 - 01:29 #1334886
zerocool's picture

ผมว่ามันไม่เกี่ยวข้องเท่าไรที่จะมองวิธีการใช้ชีวิตของคนอื่นแล้วมาเปรียบเทียบ

งานแต่ละตำแหน่งมันก็มีหน้าที่ของมัน ถ้างานคุณเข้าออฟฟิศแล้ว productivity ดีกว่าทำงานที่บ้าน บริษัทก็ไม่ผิดที่อยากให้คุณไปทำงานที่ออฟฟิศ

ผมว่ามันคือ agreement ที่ต้องมี consent กันแต่แรกตั้งแต่ตอนเซ็นสัญญา ถ้าไม่ happy ก็ไม่ต้องเซ็น ไปสมัครบริษัทอื่นแทน


That is the way things are.

By: may2190 on 4 March 2025 - 14:06 #1334962

จั๊ฟพี่