เซลส์ฟอร์ซ ประกาศเปิดตัว Agentforce 2dx ที่เป็นเวอร์ชันล่าสุดของ Agentforce แพลตฟอร์มพนักงานในรูปแบบดิจิทัลที่ได้นำเจ้าหน้าที่ AI อัจฉริยะซึ่งสามารถทำงานได้ด้วยตนเองแบบอัตโนมัติ (Autonomous AI Agent) ที่มีความน่าเชื่อถือและสามารถผสานเข้ากับทุกกระบวนการทำงานของธุรกิจ โดยในเวอร์ชันล่าสุดนี้ Agentforce ได้พัฒนาก้าวไปอีกขั้นจากการสนทนาโต้ตอบทางแชตอินเทอร์เฟซที่ต้องรอให้ผู้ใช้งานเป็นฝ่ายเริ่มต้นสั่งการทำงาน มาเป็น AI Agent ที่สามารถทำงานเชิงรุก (Proactive) โดยอัตโนมัติอยู่ในเบื้องหลังของระบบโดยไม่ต้องมีการควบคุมดูแลตลอดเวลา ช่วยปลดล็อกศักยภาพให้ธุรกิจสามารถขยายการใช้งานสู่กระบวนการทำงานกับลูกค้าและพนักงานได้ทุกรูปแบบ

ด้วยความสามารถใหม่เหล่านี้องค์กรสามารถผสานรวม Autonomous Agent เข้ากับระบบข้อมูล เหตุผลตรรกะทางธุรกิจ และรูปแบบอินเทอร์เฟซการใช้งาน (UI) ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ AI Agent สามารถคาดการณ์ความต้องการทางธุรกิจและลงมือดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วในหลากหลายด้าน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความคล่องตัว และขยายการเติบโตให้กับองค์กร

Agentforce 2dx ยังได้เปิดตัวชุดเครื่องมือแบบ Low-Code และ Pro-Code สำหรับนักพัฒนาระบบ ทำให้สามารถตั้งค่า ทดสอบ และเปิดใช้งาน Agentforce ได้อย่างรวดเร็วด้วยความมั่นใจ พร้อมด้วยระบบวิเคราะห์ขั้นสูงที่ช่วยให้ทีมสามารถติดตาม แก้ปัญหา และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ AI Agent ให้เต็มศักยภาพได้แบบเรียลไทม์ด้วยข้อมูลและการดูแลสั่งการ โดยผู้ดูแลระบบและนักพัฒนาสามารถทดลองใช้เครื่องมือที่ Salesforce มอบให้เหล่านี้ได้ผ่าน Agentforce สำหรับนักพัฒนา (Agentforce Developer Edition) ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ให้บริการแบบไม่มีค่าใช้จ่ายที่ออกแบบมาเพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้างต้นแบบของ AI Agent และทำความรู้จักกับความสามารถต่าง ๆ ของ Data Cloud ที่เป็นระบบข้อมูลแบบ Hyperscale Data Engine ของ Salesforce ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ Salesforce ยังได้ประกาศเปิดตัว AgentExchange ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนส่วนประกอบเสริมการทำงานและชุมชนสำหรับ Agentforce ที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งสร้างอยู่บนระบบของ Salesforce โดยได้เปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้พาร์ทเนอร์ได้มีส่วนร่วมในตลาดของพนักงาน AI อัจฉริยะ ที่มีมูลค่าถึง 6 ล้านล้านดอลลาร์และกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว AgentExchange ยังช่วยเร่งให้สามารถเปิดการใช้งาน Agentforce ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยคลังเทมเพลตและ Action สำเร็จรูปที่พร้อมใช้งาน ซึ่งช่วยให้ธุรกิจประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากรและช่วยให้พาร์ทเนอร์สามารถนำส่วนประกอบเสริมของระบบที่ได้พัฒนาขึ้นมาลงทะเบียนขาย เพื่อสร้างรายได้ส่วนแบ่งจากตลาด AI Agent ที่กำลังเติบโต ทั้งนี้ AgentExchange ได้เปิดตัวด้วยพาร์ทเนอร์ในระยะเริ่มต้นมากกว่า 200 ราย และมี Action สำเร็จรูปพร้อมใช้งานจำนวนหลายร้อยรายการ ซึ่งแต่ละรายการได้ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวดและได้รับการรับรองจากผู้ใช้งานจริง เพื่อให้องค์กรในทุกสาขาและอุตสาหกรรมสามารถสร้างและใช้งาน AI Agent ได้อย่างรวดเร็ว

Agentforce 2dx ซึ่งมาพร้อมกับความก้าวหน้าของการพัฒนาเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาและ AgentExchange ได้เปิดตัวพร้อมกับ Agentblazer ซึ่งเป็นชุมชนที่เปิดพื้นที่ให้สำหรับผู้ดูแลระบบของ Salesforce รวมถึงนักพัฒนา ผู้บริหารด้านเทคโนโลยี (CTO) ผู้บริหารด้านข้อมูลสารสนเทศ (CIO) และผู้นำด้านไอทีด้านอื่น ๆ ที่สามารถมาร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด และเรียนรู้ทักษะในการสร้างองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วย Agent ผ่านแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้ของ Salesforce ที่ชื่อ Trailhead

อดัม อีแวนส์ (Adam Evans) รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไป ด้านแพลตฟอร์ม AI ของ Salesforce กล่าวว่า "บริษัทในทุกวันนี้ต่างมีปริมาณงานมากกว่าจำนวนพนักงานที่มีอยู่ และ Agentforce กำลังเข้ามาช่วยเติมเต็มช่องว่างนี้ ด้วยการขยายขีดความสามารถของพนักงานแบบดิจิทัลให้ครอบคลุมมากกว่าระบบ CRM โดยเรากำลังช่วยให้ธุรกิจสามารถนำ Agentic AI มาใช้ในทุกกระบวนการทำงานหรือแอปพลิเคชันได้ง่ายกว่าที่เคย เพื่อจัดการงานที่ทำซ้ำ ๆ จำเจและเสริมการทำงานให้กับพนักงาน พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การผสานเชื่อมโยงในระดับเชิงลึกเข้ากับแพลตฟอร์มพนักงานดิจิทัลของ Salesforce ทำให้ทั้ง CIO ผู้นำด้านไอที และนักพัฒนาระบบ สามารถสร้าง Agent ได้อย่างสะดวกราบรื่น และสร้างการทำงานแบบอัตโนมัติได้ในทุกพื้นที่ของกระบวนการทำงาน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ขับเคลื่อนนวัตกรรม และเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในตลาดของพนักงานในรูปแบบดิจิทัลที่มีมูลค่ามากถึง 6 ล้านล้านดอลลาร์"

ความสำคัญของ Agentforce 2dx

นักพัฒนา 96% เชื่อว่า AI Agent จะยกระดับประสบการณ์การทำงานของนักพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น โดย Agentic AI คือการพัฒนาต่อยอดจากระบบ Automation ซึ่ง Agent ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งสามารถลงมือดำเนินงานต่าง ๆ ตัดสินใจได้เอง และช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงานได้โดยไม่จำเป็นต้องมีคนคอยกำกับดูแลตลอดเวลา ต่างจากแชตบอต AI แบบเดิมที่ต้องใช้คำสั่งพรอมท์แบบแมนนวลหรือการตั้งโปรแกรมที่มีความละเอียดและตายตัว โดย Agentic AI สามารถตอบสนองต่อข้อมูลขององค์กรได้ในทันที และสอดรับกับความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การพัฒนา Agentic AI ล่าสุดของ Salesforce นี้นับเป็นตัวแทนของจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ นำ AI Agent มาใช้ในการดำเนินงานประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการผสาน AI เข้ากับแอปพลิเคชัน ขั้นตอนลำดับการทำงาน และกระบวนการต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น ทำให้ AI Agent ที่พร้อมสำหรับการใช้งานในระดับองค์กรนี้ไม่เพียงจะช่วยในการทำงาน แต่ยังสามารถลงมือดำเนินการได้ด้วยตนเองแบบอัตโนมัติ

จอร์จ โพคอร์นี (George Pokorny) รองประธานอาวุโสฝ่ายความสำเร็จของลูกค้าระดับโลก บริษัท OpenTable กล่าวว่า "OpenTable ได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์ม Agentforce ของ Salesforce เพื่อช่วยให้ทีมบริการลูกค้าของเราสามารถให้บริการกับร้านอาหารและลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น หลังจากเริ่มใช้งานเพียงสามสัปดาห์ Agentforce สามารถจัดการคำถามผ่านทางเว็บไซต์ของร้านอาหารได้ถึง 73% ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 50% เมื่อเทียบกับเครื่องมือเดิมที่เคยใช้ และเราคาดว่าประสิทธิภาพการใช้งานจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเมื่อ Agentforce ได้เปิดให้บริการแก่สาธารณะ"

ที่มา: ข่าวประชาสัมพันธ์