By: lew 
on 19 March 2025 - 14:38
Tags:
Topics:
Jensen Huang เปิดเผยข้อมูลชิปรุ่นต่อไป Vera Rubin ที่จะวางขายปลายปี 2026 โดย Vera เป็นชื่อซีพียูที่ต่อมาจากชิป Grace ในปัจจุบัน และ Rubin เป็นส่วนกราฟิกที่ต่อจาก Blackwell
ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดมากนัก โดย Vera เป็นคอร์ Arm แบปรับแต่งพิเศษจำนวน 88 คอร์ 176 เธรด พร้อม NVLink เชื่อมส่วนกราฟิกขนาด 1.8TB/s และ Rubin จะมาพร้อมกับแรม 288GB HBM4 (ยังเท่ากับ Blackwell ตัวใหญ่สุดอยู่) แต่พลังประมวลผลสูงขึ้นกว่าสามเท่า เป็น 50 PetaFLOPS FP4 เทียบกับ Blackwell ที่อยู่ที่ 15 PetaFLOPS เท่านั้น รวมพลังประมวลผลของตัวชิปทั้งตู้รันได้ 3.6 ExaFLOPS FP4 เริ่มวงจำหน่ายจริงครึ่งหลังปี 2026
Rubi Ultra มีแผนวางจำหน่ายครึ่งหลังปี 2027 ยังคงใช้ซีพียู Vera ตัวเดิม แต่ส่วนกราฟิก Rubin Ultra จะเบิ้ลวงจรเป็นสองเท่า ทำให้แต่ละชิปได้พลัง 100 PetaFLOPS FP4 และทั้งตู้อัดได้ 15 ExaFLOPS FP4
แม้ยังไม่มีการประกาศราคาออกมาโดยตรง แต่ Jensen Huang ก็ระบุว่าประสิทธิภาพต่อราคาของ Rubin จะดีขึ้นมาก หากประสิทธิภาพเท่ากัน ราคาของ Rubin เหลือเพียง 3% ของ Hopper รุ่นก่อนหน้านี้
ที่มา - งาน GTC2025
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
งั้นผมรอตัวนี้แหละ ขอกระโดดข้ามจาก Turing มา Rubin เลยละกัน รู้สึกว่า Blackwell มันครึ่งๆกลางๆ ถ้าไม่มี AI ช่วยนี่เผลอๆแทบไม่ต่างจาก Lovelace
ผมว่าเหมือนเดิม เว้นแต่
AI Bubble จะแตกก่อนหรือ
AMD ตามทัน (ข้างบนเป็นไปได้มากกว่า)
ละ nvidia กลับมาง้อ gamer กับพลังดิบ
AI Bubble เป็นไปไม่ได้แน่นอน... คหสต
ส่วนตัวคิดว่า มันจะออกแนวเหมือน dotcom bubble ครับ technology ไม่ตายตามไปแต่แค่หยุดความ FOMO in general เฉยๆ
ถ้าหมายถึง consumer กว่า server จะมานี่ 2026Q2 เลยนะครับ consumer นี่ได้รอ 2027 เลย
lewcpe.com, @wasonliw
ผมมองว่า rtx 3080 กับ rtx 5080 พลังดิบแรงพอกัน แต่ สเปคมีแตกต่างกันนิดหน่อย
ส่วน AI ห่างกัน 10 เท่า ยังไง ยุค RTX 6080 และ RTX 7080 คง เพิ่มพลังดิบจาก VRAM DDR7 และ DDR7X ส่วน AI ยังคงดันไปได้อีกเป็นเท่าตัว จนกว่า AI จะตัน
แล้วเพิ่ม Multi Frame Gen เป็น x6 ใน RTX 60 Series และ x8 ใน RTX 70 Series แล้วก็ค่อยๆ เพิ่ม Multi Frame Gen ไปเรื่อยๆ แบบ Lossless Scaling
ตอนนี้ผมใช้การ์ดจอ RTX 3050 เปิด FSR แล้วเล่นเกม Monster Hunter Wilds ได้ 60-70 FPS แบบ งงๆ เพราะตอน Test Beta ทำได้แค่ 20 FPS เท่านั้น
ตอนนี้ผมยอมรับ Frame Gen และ การย่อภาพให้เล็กลงแล้วอัพ Scale ภาพด้วย AI
ถ้า AMD ปั้ม VRAM แซง Nvidia สู้พลังดิบ กับ FSR 4.0 ในอนาคตยังมี 5.0 และ 6.0 ที่จะเพิ่ม ภาพด้วย Multi Frame Gen แบบ Nvidia x4 เท่า หรือ x8 เท่า หรือจะพุ่งไป x20 แบบ Lossless Scaling หรือ x100 เท่า เน้นลื่น เน้นเลข ไม่เน้นภาพคมชัด เอาให้ซัด nvidia หน้าหงาย แล้วปรับให้ทำได้ทุกเกมโดยไม่สนใจความเบลอ
ตอนนี้จอ mornitor ก็มีการปรับเพิ่มเฟรมเรทภาพอีก ยิ่งช่วยกัน ยิ่งทำงานได้ดียิ่งขึ้น จะเปิด Nvidia Multi Frame Gen + Mornitor เพิ่ม Motion + Loasless Scale คูณ 2 หรือ คูณ 3 แบบเสถียรๆ จนได้ภาพ 100 fps แบบคุณภาพล้นๆ จะเกมหนักแค่ไหน พลังดิบเหลือ 7-8fps แต่เจอคูณ แบบคุณภาพ x2 + x2 + x3 เข้าไปเป็น 84-96fps แค่นี้ก็ฉ่ำแล้ว!!!
รวมๆ นาทีนี้ วิศวกร NVIDIA ออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่ ได้ framerate เพิ่มนี่น่าจะไม่ได้เงินเดือนขึ้นเท่ากันรัน LLM แล้ว token/s เพิ่มครับ
lewcpe.com, @wasonliw
คุณไม่เข้าใจการทำงานของมันเฟรมเจนมันไม่ได้วิเศษขนาดนั้น จริงอยู่ว่ามีดีกว่าไม่มีแต่มันไม่ได้ยกคุณภาพของเกมขึ้นมาจนเท่าfpsดิบๆแค่แทรกภาพที่genขึ้นมาเข้าไปเฉยๆเกมยังแลคเหมือนเดิมและหน่วงมากกว่าเดิมสิ่งที่ดีขึ้นคือภาพไม่กระตุกแต่แลกมาด้วยเบลอเป็นวุ้นยิ่งfpsต่ำๆแล้วใช้เฟรมเจนเพิ่มคูณเข้าไปยิ่งมากเท่าไหร่ภาพยิ่งวุ้นหนักขึ้นเท่านั้นและเกมยิ่งมีinput lagมากขึ้นตามมายังไงก็สู้fpsดิบๆไม่ได้
?
แรงขึ้น3เท่าแต่จะขึ้นราคาแค่2เท่า ทำให้ราคาต่อประสิทธิภาพสูงขึ้นมากๆ อะไรแบบนี้มะ
ราคาอาจจะเท่าเดิม
แค่เอาของเดิมมาปลดเซฟตี้ (O.C.)
แล้วทาสีแดง (เปลี่ยน โลโก้)