โฆษกทำเนียบขาว Karoline Leavitt ยืนยัน ประธานาธิบดี Donald Trump เชื่อว่า Apple สามารถย้ายฐานการผลิต iPhone มาที่สหรัฐฯ ได้จริง เพราะสหรัฐฯ มีแรงงานและทรัพยากรเพียงพอ รวมทั้ง Apple มีแผนลงทุน 5 แสนล้านดอลลาร์ฯ ในสหรัฐฯ
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ Howard Lutnick ยืนยันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า มาตรการเพิ่มภาษีนำเข้าใหม่ อาจทำให้แรงงานหลายล้านคนประกอบ iPhone ในสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ชี้ว่าการลงทุน 5 แสนล้านดอลลาร์ฯ เป็นการใช้จ่ายปกติของ Apple ซึ่งทั้ง Steve Jobs และ Tim Cook เคยพูดมานานแล้วว่า การผลิต iPhone ในสหรัฐฯ นั้น “ไม่สามารถทำได้”
ในปี 2010 และ 2011 Jobs อธิบายให้ประธานาธิบดี Barack Obama ฟังว่า สหรัฐฯ ขาดวิศวกร 30,000 ตำแหน่ง เทียบกับจีนที่มี 700,000 ตำแหน่ง ซึ่ง Cook พูดถึงประเด็นนี้อีกครั้งในปี 2017 โดยย้ำว่า จีนได้เปรียบตรงที่มีวิศวกรเครื่องมือที่มีทักษะสูงเยอะมาก ๆ มากกว่าที่สหรัฐฯ มีด้วยซ้ำ
ที่มา: The Verge
Comments
อะ เรามาลุ้นกันว่าปีนี้ ปีหน้า ไอโฟนจะหยุดที่ราคาเท่าไหร่กันแน่
แค่ค่าแรง สวัสดิการ กับภาษีในสหรัฐฯ ก็น่าจะเป็นไปไม่ได้แล้วครับที่จะผลิตในประเทศเนี่ย ต่อให้ใช้แรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายก็ตามที ยังไม่รวมวัตถุดิบอีกที่ยังไงก็ต้องมีการนำเข้ามาผลิตอีก
ถ้าค่าแรงสหรัฐฯในช่วง 60-70 ก็ว่าไปอย่าง แต่ยุคนี้ไม่น่าจะทำได้ หรือต่อให้ต้องทำก็ไม่คุ้มอยู่ดี
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
คนสหรัฐจะทำใจยอมรับค่าแรงแบบประเทศโลกที่สามได้เหรอ 😂
ก็ต้องหาทางให้แอปเปิลลดค่าใช้จ่ายในด้านอื่นๆให้ได้ จะได้ชดเชยต้นทุนในด้านค่าแรงและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรบุคคล
ค่าแรง ค่าสวัสดิการ ค่าที่พัก ค่าอาคารสถานทีี่ ค่าขนส่ง ค่าความปลอดภัย ฯลฯ
อยู่ในจุดที่รัฐเสือกทุกอย่างไปหมด
ผลิตมาก็ได้แค่ขายในประเทศนะครับ นานาชาติเขาเตรียมขึ้นภาษีเมกันหมดแล้วเท่ากับที่คุณทำกับเขาแหละ
บอกแล้ว ทรัมพ์ เค้ายังไม่รู้ตัว หรือเปล่าครับ ว่าแทบไม่มีอะไร Made in USA เลย กระทู้ที่แล้วก็หาว่าผมเมา
Apple บอกตรง ๆ เลย ผลิตใน สหรัฐ 100% ทำไม่ได้เฟร้ยย .. โดนตอบกลับมา ... ผมไม่เชื่อคุณต้องทำได้
พวกคุณ under estimate ปธน. สหรัฐ คนนี้มากเกินไปนะครับ 555 678
หมายถึง over estimate ป่าวครับ น่าจะหมายถึงประเมินสูงเกินไป?
ค่าแรงเมกันแพง และยังไม่เอาผู้อพยพ ไอโฟนในประเทศราคาแพงแน่
อาจจะ ได้ เห็น ไอโฟน ราคา พุ่ง ทะยาน
มันเป็นการเดิมพันกับสกุลเงินดอลลาร์เอง ยิ่งผลิตในเมกามาก การแพร่กระจายของดอลลาร์ก็น้อยลง ประเทศอื่นๆต้องค้าขายกันเองโดยตรงไม่ใช้ดอลลาร์ รอดูใครจะเปิดสงครามก่อนกัน
ถ้าจะย้ายโรงงานมาอยู่ใน USA เลย
มันไม่ได้หรอก แค่ค่าแรง ค่าครองชีพ มันก็ไม่ได้แล้ว เอาง่ายๆ ถ้ารถคุณสีถลอกต้องทำสีใหม่ หรือจ้างช่างประปามาซ่อมท่อรั่วที่บ้าน (แบบเกม The Sims) ราคาจะแพงมาก ไม่ใช่เพราะค่าสี ค่าอุปกรณ์ซ่อม แต่ค่าแรงเขาคิดแพงจัดๆ เป็นค่า Labor รายชั่วโมง เขาถึงไปตั้งโรงงานประกอบที่จีน เวียดนาม ไทย มาเล บลาๆ
ถ้า USA จะย้ายฐานการผลิตจริงๆ
ต้องแทนแรงงานด้วยเครื่องจักรทั้งหมด หุ่น AI แขนกลต่างๆ ต้องเอามาใช้ ระดับที่ประกอบอุปกรณ์ที่ละเอียดอ่อนได้แม่นยำ ทุกอย่าง Automate ทั้งหมด ไม่ต้องมีคนดูหน้างาน มีแค่วิศวกรคุมงานและเขียนโปรแกรม ถ้าทำได้ ผมว่าก็ย้ายฐานได้ แต่ไม่ง่ายและใช้เวลา อาจเป็นสิบปี อาจถึงระดับปฎิวัติอุตสาหกรรม
แต่ปุบปับแบบนี้ ไม่รู้จะออกหน้าไหน
เพราะไม่มีใครเตรียมตัวมา ถ้าจะย้ายจริงต้องเตรียมมาเป็นสิบปี เหมือน Apple ซุ่มพัฒนา Apple M1 หงายการ์ดทีเดียว Intel หลับเลย
ซึ่งก็จะผิดจากเป้าหมายที่ทรัมป์ตั้งไว้คือต้องการให้จ้างแรงงานในประเทศเพิ่ม
+1000 ... ใช้หุ่นยนต์ + AI เป็นหลักก็จ้างงานไม่ได้เยอะอยู่ดี ตอนนี้ปัญหาของจีนที่คนเตะฝุ่นหางานยากไม่ใช่เพราะว่า จีนผลิตของน้อย จีนนี่คือโรงงานโลกเลย แต่ประเด็นคือจีนใช้เครื่องจักร phase แทนคนตลอดเพื่อทำให้ต้นทุนต่ำได้ จึงทำให้คนเตะฝุ่นทั้งที่ส่งออกทั่วโลกได้ดุลเกิน 1 trillion dollar
ทำได้แต่ราคาต้นทุนจะออกมาเท่าไหร่ ราคาขายจะเท่าไหร่นี่อีกเรื่อง
ทำได้อยู่แล้ว แต่มันแพง แต่ก็ทำได้ถ้ารัฐบาลปิดกั้นสินค้าราคาถูกได้เด็ดขาด เป็นเวลานานพอ ไม่ใช่แบบหลอกให้ลงทุนผลิตในประเทศ พอเปลี่ยนรัฐบาลก็เลิก พวกที่ลงทุนไปก็เคว้งเลย
ถ้าผลิตแบบไม่ใช้คนเลยก็ต้องให้เวลาเขาสร้าง นำเข้าเครื่องจักรก็แพงขึ้นอีก ยื้อไปจนหมดวาระหรือยอมแพ้ไปเองจะไหวกันไหม
อยากเห็นว่า ถ้าคนอเมริการู้งี้ แล้วกลับไปเลือกตั้งใหม่จะเป็นยังไง
ซ้ายก็woke, ขวาก็บ้า, พรรคกรีนมีก็ไม่เลือก ยอมใจเค้าเลย
และผมว่าจะเละแบบนี้ไปอีกนาน การเมืองแรงแบบแยกฝ่ายชัดเจนแบบนี้ แถมตอนนี้ ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็มาแนวเน้นอุดมการณ์กับแนวคิดของแต่ละฝ่ายแบบโจ่งแจ้งเลย แม้ว่าจะมีพรรคทางเลือกให้เลือกตั้งก็ตาม แต่คนส่วนใหญ่ก็เลือกอยู่แต่ 2 พรรคใหญ่นี้อย่างเดียวเลย มีน้อยมากที่เลือกพรรคทางเลือกเนี่ย
เว้นแต่ว่ารัฐไหนกล้าที่จะทำประชามติแยกตัวเป็นประเทศอิสระ หรือจับมือกับรัฐอื่นๆ แยกตัวออกมาจากสหรัฐฯ รวมตัวเป็นประเทศใหม่ หรือรัฐที่ติดกับชายแดนแคนาดา ก็แยกตัวไปรวมกับแคนาดา (แต่คิดว่าไม่น่าจะมีรัฐไหนแยกไปอยู่ร่วมกับเม็กซิโก) โดยไม่ใช้กำลังทหารมาแยกพื้นที่ ซึ่งก็น่าจะเป็นไปไม่ได้อีก
ส่วนอีกทางเลือกก็คือย้ายออกจากประเทศไปอยู่ที่อื่นที่ดีกว่า พ่วงย้ายสัญชาติถาวร ซึ่งก็มีจำนวนจำกัดที่จะทำแบบนั้นได้ โดยที่ไม่มีภาระทางการเงินเลย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ใช่มันไม่มีทางสายกลางแบบผสมผสานนำข้อดีมีรวมกันจริงๆ มันสุดโต่งทั้งคู่ นี่แหละประธิปไตยแบบหักมุม
ถ้าอยากได้ไอโฟน ต้องรีบซื้อมั้ยตอนนี้? หรือรอปีหน้าได้ - -
นึกถึงตอนที่ศรีลังกาประกาศตูม ให้เกษตรกรปลูก organic ทุกคน รัฐบาลเชื่อว่าทุกคนทำได้.....
ไปหาแรงงาน American ที่มีทักษะให้ได้ก่อน ค่อยมาบอกว่าผลิตได้ มีแต่คนขี้เกียจแต่อยากได้ค่าจ้างต่อชั่วโมงแพงๆ
หืม…. ก็ปรกติหนิ ต้นทุนแพง ก็แค่เพิ่มราคา โยนภาระให้ลูกค้า ยังไงคนจะใช้ ios ก็ซื้ออยู่ดี บ่น แต่ก็ซื้อ ผ่านไปปีนึงคนก็ลืมว่าขึ้นราคา และก็จำว่ามาตรฐานคือราคานี้ และทุกอย่างก็เป็นปรกติ(แม้มันจะไม่ปรกติ)🙃
ถ้าเป็นเมื่อก่อนมันก็น่าจะทำได้ เพราะแต่ละประเทศต่างก็รู้ข้อมูลต่างประเทศได้จากแหล่งข่าวที่จำกัดและรัฐบาลควบคุมได้ แต่ในยุค Social Media แบบนี้ หากสินค้า Apple ในอเมริกา มีราคาสูงกว่าต่างประเทศเกือบ 40% เอาง่ายๆ แค่ในแคนาดา คุณคิดว่ามันจะเกิดอะไรบ้าง ? สมมุติว่าในแคนาดา Apple ยังขายราคาเดิมเนื่องจากจีนกับแคนาดาไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ผมไม่เฉลยนะลองคิดเล่นๆ ดู น่าจะได้หลายคำตอบ
คุณอาจบอกว่างั้นก็ขึ้นราคาทั้งโลกเลยให้ราคาเดียวกัน อันนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยเพราะอัตราภาษีของแต่ละประเทศต่างกัน คุณจะเอาเหตุผลอะไรไปขึ้นราคาในประเทศที่เขายังใช้อัตราภาษีเดิม
ทางแก้ที่พอเป็นไปได้คือ Apple ต้องไปคุยกับรัฐบาลสหรัฐ แล้วขอให้ยกเว้น หรือลดอัตราภาษีจากอินเดียให้ลดลงมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แล้วนำเข้าจากอินเดียแทน แล้วก็ไปคุยกับรัฐบาลอินเดียอย่าพึ่งอินดี้ไปทะเลาะกับประเทศที่อยู่ในเครือข่าย supply chain ของ Apple ซึ่งไม่ง่ายเลยนะ เพราะคุณมี power ในการต่อรองลดลงเนื่องจากคุณไปร้องขอเขา เขาก็คงขอให้คุณทำอะไรบางอย่างให้เขาตอบแทน ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของการต่อรอง ซึ่งผมบอกใบ้ไปแล้วว่าอินเดียน่าจะยื่นข้อเสนออะไรให้ Apple ช่วย ถ้าอ่านเข้าใจน่าจะพอรู้จากคำใบ้ของผม
การต่อรองส่วนใหญ่เขาจะขุดทางล่อเอาไว้ ให้เหยื่อเดินเจออุปสรรค แล้วเจอประตูเล็กๆ ให้ลอดมาเรื่อยๆ แล้วหลงเข้ามาในทางที่เราขุดล่อไปไว้ แล้วก็งับเหยื่อ แล้วเราก็ทำเป็นตกใจ Oh! my god เป็นไปไม่ได้ คุณเอาแบบนี้เหรอ งั้น ok จบดีลเลยตามนี้ การต่อรองส่วนใหญ่เขาจะไม่ปิดช่องตายจนฝ่ายตรงข้ามหลังชนฝาเพราะมันจะทำให้สูญเสียผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
ผมคิดว่า apple ก็คงสร้างโรงงานผลิตไอโฟนสำหรับขายอเมริกาและตัวขายสำหรับทั่วโลก ก็ให้คนอเมริการับต้นทุนการผลิตเอา ส่วนที่ผลิตนอกประเทศก็ขายนอกประเทศแข่งขันกับแบรนด์อื่นๆต่อไป
เหมือนว่าถ้าผลิตเมกา จะได้รัฐสนับสนุน เงินทุนเพิ่มเติมไหมนะ เอาไปอุดกับต้นทุนน่าจะพอได้บ้าง