ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) พูดถึงมาตรการภาษีนำเข้า Trump ว่าเป็นการ “โยนหินถามทาง” เพื่อดูท่าทีของประเทศคู่ค้า ไม่ใช่มาตรการที่ตั้งใจใช้ในระยะยาวทันที
แม้ยังไม่กระทบต่อเศรษฐกิจไทยในทันที แต่ depa ยอมรับว่าถ้าสถานการณ์ยังยืดเยื้อ ก็มีแนวโน้มที่จะกระทบต่อ GDP ของไทยในระยะถัดไป โดยแนะนำว่า ไทยควรเร่งปรับตัว และมองหาตลาดใหม่ แทนที่จะพึ่งพาการส่งออกไปยังสหรัฐฯ อย่างเดียว
นอกจากนี้ การหาช่องทางใหม่ ๆ ยังช่วยให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะขนาดกลาง และขนาดเล็ก มีโอกาสในการทำธุรกิจมากขึ้น และเป็นการกระจายเม็ดเงินให้กับทุก ๆ ฝ่าย
depa ยังเสนอให้เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการค้าดิจิทัล เช่น แพลตฟอร์ม PromptTrade เพื่อเสริมศักยภาพการส่งออกของไทยในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล และรับมือกับนโยบายการค้าระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงในตอนนี้
ที่มา: ข่าวประชาสัมพันธ์
Comments
ห่ะ แบบนี้เขาเรียกโยนหินถามทาง แถวบ้านผมเขาเรียก ระเบิดภูเขา เผากระท่อมแล้วระดับนี้ สุดท้ายขั้นต่ำทุกประเทศก็ต้องเสียอย่างน้อย 10% ใครไปกวนทีน Trump ก็โดนเต็มๆ ไป แบบนี้เขาไม่เรียกว่า โยนหินถามทางหรอก นี่ถ้าไม่โดนนักลงทุนญี่ปุ่นเทขายพันธบัตร พวกก็ยังไม่เลิกเฮี้ยวง่ายๆ หรอก เพราะจีนก็ยังไม่ยอมถอย แล้วเดินมาตามช่องที่ขุดไว้ดีๆ จนตอนนี้ต้องมีท่าทีอ่อนลงนิดๆๆๆๆ นึงเพื่อง้อจีนมาเจรจา อ่อ แล้วทีมเจรจาอย่าพึ่งไปรับข้อเสนอซื้อพันธบัตรจากรัฐบาลสหรัฐล่ะ เดี๋ยวจะกลายมาเป็นภาระทางการคลังเปล่าๆ ซื้ออาวุธมายังพอได้ใช้ไว้ขู่ชาวบ้าน ซื้อพันธบัตรสหรัฐช่วงนี้มีแววมูลค่าลดลงเรื่อยๆ ต้องเป็นภาระหาเงินมาสำรองคลังอีก