Match Group บริษัทแม่ของ Tinder กำลังปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ภายใต้การบริหารของซีอีโอคนใหม่ Spencer Rascoff เพื่อพยายามพลิกฟื้นธุรกิจท่ามกลางยอดการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานที่ลดลง และแรงกดดันจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมแอปหาคู่

บริษัทประกาศเลิกจ้างพนักงาน 13% หรือประมาณ 325 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับกระบวนการทำงาน ลดระดับการจัดการ รวมฟังก์ชันหลักของธุรกิจ เช่น การดูแลลูกค้า การควบคุมเนื้อหา และการตลาดระหว่างประเทศ และปิดรับสมัครพนักงานใหม่ด้วย โดยคาดว่า ทั้งหมดนี้จะช่วยให้บริษัทประหยัดเงินได้ปีละกว่า 100 ล้านดอลลาร์ฯ และประมาณ 45 ล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2025

การปรับโครงสร้างในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากมีการเปลี่ยนซีอีโอ และแรงกดดันจาก investor activist เพื่อเร่งสร้างนวัตกรรม โดยเฉพาะ Tinder ซึ่งเป็นแบรนด์เรือธงของ Match

ด้าน Match เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ และเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในแอปแบรนด์ลูกทั้งหมด เพื่อดึงดูดผู้ใช้ที่อายุน้อยโดยเฉพาะ เช่น Tinder เปิดตัวโหมดเดทคู่ และเกมฝึกจีบที่ใช้ AI ด้วยเสียงที่พัฒนาโดย OpenAI ซึ่งดึงดูดผู้เล่นได้กว่า 750,000 คน รวมทั้งลงทุนในฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย และการตรวจสอบ

ถึงแม้รายได้ในไตรมาสแรกจะลดลง 3% เหลือ 831 ล้านดอลลาร์ฯ แต่บริษัทก็ทำผลงานได้เกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ และรายได้ในไตรมาสที่ 2 ที่สูงกว่าที่คาดไว้เป็น 850–860 ล้านดอลลาร์ฯ แต่การใช้จ่ายของผู้ใช้ลดลง โดยเฉพาะใน Tinder เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อ และความเหนื่อยล้าของผู้ใช้ที่มีต่อแอปหาคู่

การปรับโครงสร้าง และกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Match มีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงกระตุ้นอีกครั้งในภาพรวมการออกเดทที่กำลังเปลี่ยนแปลง และทำให้ Tinder กลับมาเติบโตอีกครั้ง ซึ่งอาจจะเร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ในปี 2027

ที่มา: Reuters, Bloomberg, และ TechCrunch