เป็นการคาดการณ์ของ The Mercury News ซึ่งคาดการณ์มาหลายปีแล้ว แต่ต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่า เป็นการคาดการณ์ที่เค้ามองภายในประเทศอเมริกา ส่วนเทคโนโลยีนั้นๆ จะมาบูมในเมืองไทยรึเปล่า อันนี้ไม่ทราบครับ บางเทคโนโลยีน่าจะใช้เวลาหลายปี บางเทคโนโลยีก็ไม่เกิดที่เมืองไทยครับ เพราะส่วนใหญ่เราจะเป็นผู้บริโภคเทคโนโลยี งานวิจัยหรือการคิดค้นบางอย่างจึงไม่เกิดขึ้นครับ
10 เทคโนโลยีที่ว่านั้น คือ
- WiFi และ WiMax
หลังจากที่มีการติดตั้ง WiFi hotspot ตามสถานที่สำคัญแล้ว ก็มีความต้องการจากลูกค้าที่อยากเข้าถึงในสถาที่อื่นๆ ทำให้ปี 2549 WiFi hotspot จะถูกติดตั้งอย่างมากมาย และอุปสรรคที่ห่างไกลก็หมดไปด้วยการเข้ามาของ WiMax (คือสัญญาณไร้สายที่ครอบคลุมรัศมีเป็นกิโลๆครับ) แล้วคงมีเม็ดให้งานทางด้านเครือข่ายไร้สายเป็นกอบเป็นกำ รวมทั้งผู้ใช้งานที่ต้องจ่ายค่าแบนด์วิธด้วย
- การใช้มือถือทำงานทุกอย่าง (Cell phones do everything)
ตั้งแต่การใช้ท่องอินเทอร์เน็ต, ส่งอีเมล์,เล่น Instant Messenging จนถึงการเล่นเพลง หนัง รายการทีวี และการเข้ามามีบทบาทของ WiFi ทำให้มือถือรุ่นใหม่จะมี 2 โหมด คือ Cellular และ WiFi ซึ่งจะทำให้เกิดการทดแทนกันได้ในขณะที่สัญญาณหนึ่งอ่อนลง
- การโทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ต (Internet phone calls)
สังเกตไหมครับว่า ที่ผ่านมาทั้งกูเกิล, ยาฮู และไมโครซอฟท์ได้ทำให้เราคุยกันผ่าน messenger ได้ และ messenger ที่โ่ด่งดังในเรื่องนี้คือ Skype ซึ่งใช้เทคโนโลยี VoIP ในการสื่อสาร เราใช้ Skype คุยกันทั้งระหว่างเครื่องคอมฯ ได้ฟรี แต่คอมฯ กับมือถือหรือโทรศัพท์บ้านต้องเสียเงิน ตรงนี้แหละครับที่จะบูมขึ้นอีก เพราะจะมีการแข่งขันกันในเรื่องราคาอย่างดุเดือด ทำให้คนหันมาใช้บริการโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งถูกกว่า
- การใช้งานโปรแกรมประเภท Office Suite บนเว็บ (The Office move to the Web)คงได้ยินกันมาสักพักแล้วนะครับ โดยเฉพาะข่าวที่กูเกิลร่วมือกับบริษัทซันพัฒนา OpenOffice.org ซึ่งมีความเชื่อว่ากูเกิลจะพัฒนา OpenOffice.org เวอร์ชั่นบนเว็บด้วย แตไมโครซอฟท์ก็มีการแบ่งทีมงานมาพัฒนา MS Office บนเว็บโดยเฉพาะไปแล้ว
- การวิจัย Stem-cell (Stem-cell research advances)
แม้ว่าจะมีข้อขัดแย้งทางด้านกฎหมายก็ตามสถาบันวิจัยต่างๆ ก็ยังคงเดินหน้าวิจัยในเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่า Stem cell เป็นส่วนประกอบที่มีอยู่ในเนื้อเยื่อทุกชิ้นในร่างกาย ซึ่งความรู้เรื่องนี้จะทำให้เราสามารถสร้างยารักษาโรคพากินสัน โรคเบาหวาน ฯลฯ เห็นเม็ดเงินไหมครับว่า ใครเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ความรู้นี้คงรวยสุดๆ เลยครับ
- การวิจัยวัคซีนเชื้อไข้หวัดนก (Biotechs target flu vaccines)
ไม่ได้มีแต่เราชาวเอเชียเท่านั้นนะครับที่กลัว ทางตะวันตกเค้าก็กลัวว่าจะไปติดเค้าเหมือนกัน ถึงขนาดที่ว่าประธานาธิบดีบุชสั่งเตรียมงบประมาณ 7.1 ล้านเหรียญ ในการรับมือไข้หวัดนก และ 3.6 ล้านเหรียญ ในการพัฒนาวัคซีน ซึ่งมีเป้าหมายในปีพ.ศ. 2553 ให้คนอเมริกัน 150 ล้านคน ต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดนก บ้านเราดูไม่ค่อยกลัวเลยนะครับ :-(
- การแบ่งส่วนธุรกิจสู่ต่างประเทศ (Even small start-ups go global)
ด้วย 3 เหตุผลครับ
-
การตลาดภายในประเทศ(อเมริกา) เติบโตน้อยกว่าตลาดต่างประเทศ
-
บริษัทสามารถลดต้นทุนหรือเพิ่มกำไรได้ เมื่อ outsource ไปจีนหรืออินเดีย ซึ่งมีราคาแรงงานต่ำกว่า
-
จะช่วยการรักษาฐานลูกค้าต่างประเทศได้ดี โดยสำนักงานใหญ่จะอยู่ในอเมริกา จะมีพนักงานในระดับสูงเช่น high-end engineer, marketing professional และ senior manager ส่วนที่บังกาลอร์ในอินเดียหรือ เซี่ยงไฮ้ในจีน จะเป็นพนักงานในระดับ operation
เราถูกมองว่าเป็นแรงงานระดับล่างมานานแล้วครับ
- วีดีโอบน Blog (Video comes to the blog)
บอกได้เลยครับว่า โด่งดัง ไปทั่งโลกแน่นอน ไม่ใช่แค่อเมริกา ต้องขอบคุณต้นคิด คือ นาย Amanda Congdon ครับ เราเรียกชื่อย่อมันว่า vblog ครับ มันคล้ายกับ podcast ที่ดังในอเมริกาในปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้ใช้สามารถเผยแพร่วีดีโอ เพลงต่างๆ ตามบล็อกของผู้ใช้เองได้ ยังไงผมจะนำรายละเอียดมาเสนออีกทีนะครับ
- วีดีโอตามสั่ง (On-demand video everywhere)
ความต้องการที่จะดูหนังเก่าคลาสสิค, รายการดังที่พลาดไป ตลอดจนรายการสดๆขณะนั่งรอรถไฟฟ้า และเทคโนโลยีการสื่อสารที่ก้าวหน้า นั้นคือปัจจัยที่ทำให้เกิด VDO on demand ล่าสุดทางเคเบิลทีวีอย่าง HBO ก็ได้เริ่มระบบ VDO on demand แล้ว ทางด้าน Sony ที่ซื้อหุ้น TimeWarner ก็กำลังเข้าสู่ธุรกิจนี้เต็มตัว เห็นจากอุปกรณ์ Sony's PlayStation Portable ซึ่งสามารถ ดาวน์โหลดวีดีโอผ่านอินเทอร์เน็ตได้ตามต้องการ (ไม่ฟรีนะครับ) ผมว่าทาง UBC, Grammy, Major etc. ต้องคิดอะไรอยู่แน่ๆ เลย (แล้วเทคโนโลยี TiVo จะทำไงอ่ะ)
- เทคโนโลยีที่ไม่มีมลพิษ (Clean technologies)
ด้วยสถานะการณ์โลกร้อน น้ำมันแพง หรือไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ระเบิดของโรงงานเคมีในจีน ล้วนแต่ทำให้ทุกๆคนต่างเรียกหา พลังงานที่สะอาด น้ำสะอาด ลดสารเคมี ฯลฯ และนี้ก็เป็นโอกาสของบริษัทประเภทนี้ เช่น บริษัทผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ ดูจากทาง Silicon Valley (คือ นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค) ที่จะนำแหล่งพลังงานอื่นๆมาแทน เช่น พลังงานไฮโดรเจน พลังงานแสงอาทิตย์ โดยใช้งบประมาณ 425 ล้านเหรียญ ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2548 แล้ว ซึ่งก็เป็นเทคโนโลยีที่กำลังบูมต่อเนื่อง เพราะถือเป็นเมกะโปรเจ็คซึ่งจะใช้ กันแบบระยะยาวเลยครับ เงินในวงการพลังงานสะอาดกำลังสะพัดครับ
ที่มา : The Mercury News
Comments
เขียนดีครับ แต่ยังมีจุดต้องแก้ไขอีกหลายจุด ผมไม่อยากแก้ให้เพราะเจ้าตัวจะได้รู้ด้วย มันอาจดูเหมือนประจานไปนิดนึงก็ขอโทษด้วยครับ (Blognone ไม่มีระบบ PM น่ะ)
- ตัวเลขข้อ ใช้ ol และ li ครับ - ศัพท์หลายๆ คำ เราตกลงกันไว้ใน Glossary คำไหนที่ใช้ภาษาไทยได้ ควรใช้ภาษาไทย เช่น Microsoft, Google, user, bandwidth, mode, email, wireless, blog - China กับ India นี่เข้าขั้นร้ายแรง - หลังไม้ยมกกับไปยาลน้อย เว้นวรรคเสมอ - การใช้เครื่องหมายคอมมา ให้เว้นวรรคด้านหลังของคอมมา ดูข้อข้างบนเป็นตัวอย่าง - ระหว่างวงเล็บ (ด้านนอก) เว้นวรรคด้วย - mess"e"nger ใช้ตัว e - OpenOffice ต้องมี .org เสมอ ถ้า OpenOffice เฉยๆ หมายถึงคนละตัวกัน - ตรวจคำสะกดก่อนโพสต์ อย่างข้อ 10 จะเห็นคำว่า "เทคโนโยลี" - คำที่ไม่ใช่ชื่อเฉพาะ ไม่ควรเขียนขึ้นต้นด้วยตัวใหญ่ (เช่น Implement ในข้อ 10)
อาจจุกจิกไปนิดนึง แต่เพื่อให้ Blognone เป็น "แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ" นั้น "ต้อง" (ไม่ใช่ "ควร")เขียนให้ถูกต้องครับ
ลืมเขียนไปอีกอันนึง คือถ้าข่าวยาวเกินไป สามารถแสดงเฉพาะข้อความตอนแรกๆ ได้ โดยใส่แท็ก <!--break--> ในโค้ด
สู้ๆ ครับ :) และขอบคุณสำหรับข่าวครับผม :)
เสริมจาก mk อีกนิดครับ
- ปีควรจะเป็น พ.ศ. (ค.ศ.) ด้วยครับถ้าแปลมาจากแหล่งข่าวต่างประเทศ - การใช้คำบางคำยังไม่ถูกต้องครับ "ทำให้คนอเมริกันสามารถกระจายวีดีโอ" น่าจะเป็นทำให้ผู้ใช้สามารถเผยแพร่วิดีโอ มากกว่าครับ - implement, long-term คำพวกนี้มีภาษาไทยให้ใช้นะครับ
ตามความเห็นผมการเขียนข่าวใน Blognone ไม่ใช่แค่การแปลแล้วมาพิมพ์ให้ผู้อ่าน อ่านนะครับ แต่ผู้เขียนควรจะทำการสรุปเนื้อหาออกมาให้กระชับเพื่อความเข้าใจง่ายของผู้อ่านครับ
เข้ามาให้กำลังใจ ครับ :)
ส่วนตัวผมคิดว่า "เทคโนโยลีที่ไม่มีมลพิษ (Clean technologies)" นี่สำคัญมากๆเลย
เพิ่มเติมเรื่อง Skype
ขอโทษเรื่องการใช้คำที่ผิดด้วยนะครับ ยังไงจะค่อยๆปรับปรุงครับ
ขณะที่เขียน ผมลองไปสำรวจราคาของ Skype ซึ่งเรียกเก็บเงินในการติดต่อกับโทรศัพท์พื้นฐาน ด้วยราคา $0.130 ต่อนาที และโทรศัพท์มือถือ ในราคา $0.132 ต่อนาที สำหรับประเทศไทยนะครับ ก็ประมาณ 4 - 5 บาท ก็ถือว่ายังไม่ถูก แต่ถ้าใช้โทรไปต่างประเทศถูกแน่นอนครับ ดูราคาได้จากที่นี่ครับ บางประเทศ(จีน, อเมรอาเหนือ, ชิลี, ออสเตรเลีย, ยุโรปตะวันตก)สามารถใช้ global rate ยิ่งถูกเข้าไปอีกครับ $0.017 ต่อนาที(ไม่ถึงบาทครับ)
โดยส่วนตัวคิดว่า คงเป็นเรื่องของการเปิดเสรีการสื่อสารในประเทศนั้นๆ หรืออาจจะเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของกลุ่มบริษัทสื่อสาร ทำให้ราคาไม่สามารถต่ำลงมากๆได้ครับ
ไม่ได้เป็นผู้เขียนแต่อยากให้มี policy เรื่องการขึ้นบรรทัดใหม่ด้วยครับ บางทีก็ขึ้นบรรทัดใหม่ด้วยตัวตัดคำของ browser บางทีก็เพราะ br ทำให้อ่านยากครับ ไม่รู้ว่าผู้เขียนตั้งใจขึ้นบรรทัดใหม่เองหรือเปล่า
ผมคิดว่าในกรณีที่ต้องการใช้ br เพื่อให้แต่ละบรรทัดไม่ยาวมาก (ทำให้อ่านง่าย เช่นข้อความในแต่ละข้อ) ก็ควรจะใช้ br ให้หมดครับ เอาให้สั้นพอที่ browser จะไม่ตัดขึ้นบรรทัดใหม่ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่ควรใช้ br ถ้าอยู่ในย่อหน้าเดียวกัน
ดีใจมากครับที่การเขียนจะมีหลักมีการมากขึ้น ทำให้ผมกล้าที่จะใช้ blognone เป็นแหล่งอ้างอิงทางวิชาการในอนาคตครับ
ขอบคุณสำหรับความตั้งใจครับ
Apirak.com panatkool
แก้ไขด้วยนะครับ bandwidth - แบนด์วิธ มีในglossary
ขอชมว่าเขียนดีครับ แต่ตรวจคำด้วยครับ
เคยเห็นข่าวเมืองจีนมีแผนจะบล๊อกไม่ให้ Skype โทรเข้าประเทศได้ ไม่รู้เมืองไทยมีนโยบายเรื่องนี้มั่งรึเปล่าเนี่ย โดยส่วนตัวผมอยากให้ VDO on demand มาซะที แบบว่ารอมาหลายปีแล้วอะ
ข่าวดีครับ ขอบคุณมาก :)
ยังมี - messenger - อินเทอร์เน็ต - อีเมล - podcast - Shanghai คือ เซี่ยงไฮ้ครับ - on demand เว้นวรรค - Major กับ Grammy เป็นชื่อ ใช้ตัวใหญ่ขึ้นต้น Major ให้ตัว a - TimeWarner - เคเบิลทีวี ใช้ภาษาไทยได้ - แล้วก็การขึ้นบรรทัดใหม่ คุณ apirak เขียนไปแล้ว แก้ได้ในโค้ด โดยลบตัวตัดบรรทัดให้มันขึ้นมาอยู่บรรทัดเดียวกัน
โอว! พราะเจ้าช่วย เจ้าค่ะ :'(
ปีหน้าในประเทศไทย
เทคโนโลยี 1.น่าจะเห็น WiFi มากขึ้นอีกตามห้าง ร้านค้า แต่ WiMax คงยังไม่เกิดในไทย เพราะความต้องการยังต่ำอยู่ 2.หลังจากสรรหา กสช. ไม่ได้ 3G ก็ยังอีกนาน ประกอบกับมือถือรุ่นใหม่ๆ คงยังแพงมาก เทคโนโลยีนี้คงไม่เห็นในปีหน้า 3.ในไทยคงจะมีคนเริ่มใช้กันมากขึ้นอีก โดยเฉพาะโทร.ไปต่างประเทศ ระหว่างคอมฯ กับคอมฯ 4.Office Suite บนเว็บ คงจะมีผลกับแค่ผู้ใช้ตามบ้าน เพราะบริษัท ห้างร้าน คงไม่เปลี่ยนมาใช้ในเวลาอันใกล้ ประกอบกับ ยังไม่มีคู่ค้าที่จะมาลงทุนตั้งเซิร์ฟเวอร์ในไทย 5.งานวิจัย Stem-cell บ้านเรา ยังไม่ถูกสนับสนุนเงินทุน 6.การคิดค้นวัคซีน คงต้องใช้เวลาอีกนาน ก็ยังไม่รู้เหมือนกันครับว่า กระทรวงสาธารณสุขวางแผนอย่างไรบ้าง 7.การ outsource ของชาติใหญ่ ทำมานานแล้วครับ แต่ที่ผ่านมาเป็นแค่ทดลอง แต่ปีที่จะถึงนี้คงจะ outsource มาอีกเยอะเลยครับ เห็น SIPA ก็มีนโยบายอยากให้ไทยเป็นแหล่ง outsource ของต่างประเทศเหมือนกัน อันนี้ทำให้งานบ้านเราเพิ่มขึ้น 8.เรื่อง vblog ก็ยังต้องดูกันครับ แต่เราจะใช้กันได้อย่างดีต้องดูที่แบนด์วิธของ ISP ในบ้านเราก่อนครับ เริ่มเห็นใช่ไหมครับว่า เราจะได้เล่นรึเปล่า 9.VDO on demand ก็เหมือนกันครับ เห็นวางแผนกันมานานแล้ว สงสัยปลายๆ ปีถึงจะเริ่มเคลื่อนไหวหรือว่าจะรอ กสช. อีก 10.บ้านเรายังไม่มีบริษัทแบบนี้เลยไม่ใช่เหรอครับ อย่างว่านะครับบ้านเราเป็นผู้บริโถค ปีหน้าไม่เกิดแน่ครับ บริษัทยักษ์ใหญ่ไม่ยอมเสียผลประโยชน์แน่
ขอให้รักษาคุณภาพการเขียนระดับนี้ไว้ตลอดนะครับ :)
แต่ กทช. นี่เค้าสรรหากันเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ
โทษทีครับ กสช. ครับ แก้แล้วครับ
คุณ teedech น่าจะเอาปีหน้าในประเทศไทยขึ้นไปข้างบนนะครับ
งานวิจัย Stem-cell บ้านเรา มีแล้ว อยู่ในสภาบันของฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ จำได้จากข่าวในราชสำนัก
มาให้กำลังใจครับ ส่วนของเนื้อหาดีแล้วครับ
อยากเห็นเมืองไทยเป็น outsource เหมือนกันเพราะค่าตัวโปรแกรมเมอร์ในเมืองไทยถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับที่อื่น เสร็จแล้วจะขยับขยายก็ค่อยว่ากันไป
คณาจารย์ช่วยกันวิจารณ์กันดุเด็ดดีครับ มาอ่านและให้กำลังใจ
@iannnnn
ให้กำลังใจด้วยคนครับ Blognone มีมาตรฐาน คนอ่านชื่นใจ ^0^
ไม่ทราบว่าตอนนี้บ้านเรามีผู้ให้บริการรายไหนที่ให้บริการ vblog แล้วบ้างจะได้ลองใช้งานดูเผื่อถูกใจจะเอาเพลงมาลง
Yimp::Webmaster Resources
http://yimp.6te.net