By: jows 
on 3 June 2010 - 11:53
Tags:
Topics:
ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป AT&T ผู้ให้บริการรายใหญ่อันดับ 2 ของอเมริกาจะเปลี่ยนแผนให้บริการจากเดิมที่ลูกค้าสามารถใช้ data ได้ไม่จำกัด โดยจ่ายเดือนละ US$29.99 เป็น 2 แผนใหม่
- DataPlus: US$15 ใช้ได้ 200MB เกินจากนี้คิด US$15 ต่อ 200MB
- DataPro: US$25 ใช้ได้ 2GB เกินจากนี้คิด US$10 ต่อ 1GB
สำหรับผู้ใช้บริการ DataPro ถ้าต้องการใช้อินเทอร์เน็ตจากคอมพิวเตอร์ผ่านการเชื่อมต่อทางมือถือ (tethering) ต้องจ่ายเพิ่มอีกเดือนละ US$20 ลูกค้าปัจจุบันสามารถคงแผนเดิมหรือเปลี่ยนมาใช้แผนใหม่ได้โดยไม่ต้องต่อสัญญา แต่ถ้าเป็นลูกค้าใหม่ต้องเลือกระหว่างสองแผนใหม่นี้เท่านั้น
คาดกันว่าลูกค้าที่ใช้งานน้อยอยู่แล้วหรือผู้ที่สามารถควบคุมปริมาณการใช้งานได้ก็จะจ่ายน้อยลง ส่วนลูกค้าที่ใช้งานมากจะถูกบังคับให้จ่ายแพงขึ้น นักวิเคราะห์มองว่านี่เป็นมาตรการเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าลดการใช้งาน data ซึ่งเป็นปัญหาที่มีการร้องเรียนกันมากในระยะหลังๆ ว่ามีการใช้งาน data สูงจนทำให้ผู้ใช้ส่วนหนึ่งใช้งานไม่ได้ เร็วๆ นี้ Verizon Wireless ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับ 1 ในอเมริกาก็ออกมาให้ข่าวว่ามีแผนที่จะจำกัดปริมาณการใช้งานเช่นกันภายในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปิดให้บริการ LTE
ใครที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นคนใช้เยอะหรือใช้น้อย ลองเช็คได้ที่ AT&T's Data Calculator ครับ
ที่มา - Mobile Business Briefing
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
แพงจังอ่ะ TT^TT
แทนที่จะขยายขีดความสามารถ ดันไปจำกัดการใช้งานซะอย่างั้น
คิดกันง่ายจริงๆ
I need healing.
ผมไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้นะ แต่คิดว่าค่า Bandwidth มันแพงน่ะ
มันขยายไม่ง่ายอย่างที่คิดนะครับ
ปัญหาพื้นฐานครับ คลื่นความถี่มีจำกัด ใบอนุญาตไม่สามารถซื้อเพิ่มได้เรื่อยๆ ถ้าราคาถูกเกินไปแล้วทำให้ช่องสัญญาณแน่น ก็ต้องเพิ่มราคากลับเข้าไปก็ถูกแล้วนะครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ผมว่าทีมขายมันบ้าอ่ะ ตามหลักจิตวิทยาคน ทำแบบนี้ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีแต่เสียเปรียบ เคยใช้งานได้ไม่อั้น มันมากำหนดการใช้งานให้ น่าจะมีว่าถ้าใช้ data plan แบบน้อยๆ น่าจะถูกลงมั่ง
อันที่จริงผู้ให้บริการ น่าจะมีเว็บไซต์ประเภท self service ให้ลูกค้าสามารถเข้าไปดูว่าตัวเองใช้งาน data ไปมากน้อยขนาดไหน เพราะหลายๆคนมันก็ไม่รู้จริงๆนะว่าเลือกมาแบบนี้จะคุ้มหรือเปล่า
เห็นด้วยที่ว่าน่าจะซอยโปรโมชั่นย่อยๆ หน่อย 200 MB กระโดดมา 2 GB เลยรู้สึกแปลกๆ
(รึอาจจะไม่แปลก เพราะอย่างเมืองไทยก็มีกลุ่มคนเล่น Data จริงๆจังๆ กับ ซื้อมาเน้นโทร)
แต่เค้าก็ไม่ได้บังคับลูกค้าเก่าให้เปลี่ยนนะครับ
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
2GB ใช้บน smart phone อย่างเดี๋ยว (เพราะ tethering ไม่ได้) ถ้าไม่ได้ดู vdo streaming เยอะๆ ค่อนข้างจะเหลือเฟือนะครับ และราคา 2GB ถูกกว่า package unlimit เดิมที่เคยจ่ายนะครับ เชื่อว่าส่วนใหญ่จะจ่ายเงินน้อยลงกว่าเดิม ส่วนคนใช้เยอะย่อมเสียประโยชน์อยู่แล้ว แต่คนใช้น้อยจ่ายเท่าคนใช้เยอะผมก็ว่าไม่เป็นธรรมสำหรับคนใช้น้อยเหมือนกันนะครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ลักษณะการทำตลาดเหมือนเคยขายยาเสพย์ติดมาก่อน...
มิน่าละ ถึงสงสัยทำไมปล่อยให้ใช้ Skype ผ่าน 3G ของ iphone ได้ตอนหลัง
เพราะยกเลิก Unlimited ไปนี่เองยังไงก็เสียตังเหมือนเดิมสินะ 555
เห็นด้วย
ทำให้เห็นได้ว่า ยังไงๆ 3G ก็ unlimited ได้ยาก เพราะผู้ให้บริการขาดทุน
ทำไมบริการ ADSL หรือ Cable ถึงทำได้ครับ
ต้นทุนถูกกว่า
แค่นั้นจริงๆ หรือ
I need healing.
ทำไมโทรศัพท์บ้านถึงโทรครั้งละ 3 บาทได้ แต่โทรศัพท์คิดเป็นนาที น่าจะคล้ายๆ กันนะครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แค่นั้นจริงๆครับ
ถ้าไม่เชื่อแนะนำให้ไปศึกษาเทคโนโลยี GSM, CDMA ครับ
Network โตไม่ทันคนใช้งาน ก่อนหน้า iPhone Traffic จากโทรศัพท์ไม่เคยเยอะขนาดนี้มาก่อน
ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะข้อจำกัดของเทคโนโลยี Cellular ที่ใช้วิธีจองช่องสัญญาณด้วย
NYC นี่ AT&T เน่ามาตลอด
เมืองไทยก็ไม่น่ามี package 3G unlimited แล้วนะผมว่า จำกัด data ซัก 5GB แบบ TOT ก็ใช้ต่อเนตนอกบ้านได้เหลือเฟือแล้ว ไม่งั้นพวกเล่นเอามาต่อโหลดบิตข้ามคืน operator มี bandwidth เท่าไหร่ก็ไม่พอใช้หรอกครับ เก็บเอาไว้ให้คนที่จำเป็นต้องใช้นอกบ้านจริงๆดีกว่า
+1
ทิศทางอุปกรณ์มือถือมุ่งบริโภค data แต่ทิศทางผู้ให้บริการพยายามจำกัดการใช้งาน data น่าจะมีแบบความเร็วต่ำแต่ไม่จำกัดปริมาณบ้างนะ ว่าแต่พวก smart phone นี่ใช้ปริมาณข้อมูลเข้าออกเยอะรึเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าเปิดออนไลน์ทั้งวัน
อนาคต 3G จะเป็นไงนี่ราคามันแพงอย่างนี้
พอเปิดให้ Tethering ได้เลยต้องเปลี่ยนมาจำกัดแบนวิทแทน