โครงการคอมพิวเตอร์ 250,000 เครื่องยังไม่มีทีท่าว่าจะจบง่ายๆ เมื่อหลังจากที่ทางด้าน SIPA และ NECTEC พยายามผลักดันให้คอมพิวเตอร์ทั้งหมดติดตั้ง OpenOffice ลงในระบบปฎิบัติการวินโดวส์ ทางไมโครซอฟท์ก็ออกมาแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อเรื่องนี้
นาย Derek Brown หัวหน้าฝ่ายการตลาดของไมโครซอฟท์ประเทศไทยระบุว่า ความคุ้มค่าสูงสุดทีระบบการศึกษาจะให้ได้ คือการให้นักเรียนเข้าถึงระบบที่ถูกใช้งานจริงมากที่สุดในโลกความเป็นจริง ซึ่งก็คือระบบปฏิบัติการวินโดวส์ และไมโครซอฟท์ออฟฟิศ
ในการให้สัมภาษณ์นักข่าวของ Bangkok Post นาย Brown กล่าวว่า "ลองไปถามคุณ James [ผู้อำนวยการฝ่าย OpenSource ของ SIPA] ว่าจะติดตั้งและบำรุงรักษา OpenOffice บนเครื่องคอมพิวเตอร์ 250,000 เครื่องได้อย่้างไร? คุณ James จะสามารถทำให้ครูกว่า 17,000 คนอัพเกรดทุกครั้งที่มีเวอร์ชั่นใหม่ออกมาได้หรือ?"
นาย Brown ยังระบุว่ามีเพียงไมโครซอฟท์เท่านั้นที่มีประสบการณ์ในโครงการใหญ่ๆ เช่นนี้ โดยโครงการก่อนหน้านี้คือโครงการคอมพิวเตอร์ 180,000 เครื่องของประเทศอียิิปต์
ด้วยความเห็นส่วนตัว นี่คือการให้สัมภาษณ์โต้ตอบของ "ฝ่ายการตลาด" ที่มุ่งจะขายของเป็นหลัก ดังนั้นอย่าแปลกใจว่า OpenOffice จะโดนใส่ไม่เลี้ยงขนาดนี้ คนแถวนี้คงรู้กันว่าการติดตั้ง OpenOffice นั้นไม่ได้ลำบากอะไรเลย เมื่อเทียบกับไมโครซอฟท์ออฟฟิศ
ที่น่าสนใจคือคนมีอำนาจตัดสินใจจะมีความเห็นกันอย่างไร?
ที่มา - Bangkok Post
Comments
http://www.zdnet.com.au/insight/0,39023731,20270300,00.htm
"ที่น่าสนใจคือคนมีอำนาจตัดสินใจจะมีความเห็นกันอย่างไร?"
ก็คงแบบเดิมๆ ละมั้ง ใต้โต๊ะเท่าไหร่ก็ว่าไปกัน หุหุ
ง่ายไม่ง่ายขึ้นกับประสบการณ์ครั้งแรก ถ้าใช้ลินุกส์ในโรงเรียน 6 ปี จะให้เปลี่ยนมาใช้วินโดส์ทีหลังยังยากเลย ผมพิสูจน์มาแล้วครับ เด็ก 4 ขวบให้ใช้อะไรก็ได้หมดแหละ ลินุกส์ วินโดส์ ก็ไม่ได้ยากต่างกัน อย่างน้อยเด็ก 4 ขวบก็ลง Ubuntu จนเสร็จได้ในหนึ่งวัน ขนาดอ่านไม่ออกยังมั่วรอดไปได้
ถ้าไมโครซอฟต์ทำสำเร็จก็แปลว่า OOo ในไทยก็คงเป็นหมันไปอีก 20 ปี
"การให้นักเรียนเข้าถึงระบบที่ถูกใช้งานจริงมากที่สุดในโลกความเป็นจริง ซึ่งก็คือระบบปฏิบัติการวินโดวส์ และไมโครซอฟท์ออฟฟิศ"
ข้อความนี้ก็เป็นความจริง ที่จำใจยอมรับน่ะนะ ... นอกจากให้เด็กใช้แล้ว ควรให้ผู้ใหญ่ใช้ด้วย ทั้งหน่วยงานของรัฐ และภาคเอกชน ... บริษัทไหนใช้ ได้ลดภาษี อะไรแบบนี้ ... ถ้าเอาแต่บังคับให้เด็กใช้ แล้วพอเด็กมันจบมา กลับเจอโลกความจริงที่โหดร้าย ระวังจะโดนเด็กด่าเสียผู้ใหญ่เน้อ...
หัดเดิน หัดพูด หัดวิ่ง หัดปั่นจักรยาน หัดขับรถ ขึ้นชื่อว่าเพิ่งเริ่มเพิ่งหัดมันก็ยากทั้งนั้นครับ หัดวันนี้หรือหัดในอีกยี่สิบปีข้างหน้า ความยากก็ไม่ได้ต่างกัน วิสัยทัศน์เป็นสิ่งสำคัญครับ หากเราลำบาก (เล็ก ๆ น้อย ๆ ) วันนี้ แล้วมีประโยชน์ (มหาศาล) ในวันหน้า ผมคิดว่าคุ้มนะครับ สำหรับคนที่ต้องหัดใช้งาน หากเอาเวลาบ่นว่าใช้ไม่เป็นใช้ยาก มาหัดใช้งาน เดี๋ยวก็คงใช้เป็นเองครับ แต่ปัญหาสำคัญคือ บ้านเราคนตัดสินใจไม่ได้เอาผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจนี่สิครับ เฮ้อ.......
ข่าวนี้ MK น่าจะเป็นคนเขียนนะเนี่ย
ผมแนะนำว่า เปิด Course สอนอาจารย์ให้ใช้ OpenOffice ควบคู่ไปด้วยดีกว่า
มีส่วนได้ส่วนเสียครับ ให้ลิ่วเขียนดีกว่า
wanchana: แค่สมาชิก Blognone หลายๆ คนก็ยังไม่ยอมใช้เลยครับ
mk
โอ๊ะ โดนเข้ากะตัว แหะๆ
ทำไมต้องไช้ openoffice ครับ ของ microsoft นี่ละดีแล้ว ราคาถูกแค่ 150 บาท copy ไปใช้ทั่วประเทศ serial number อันเดียวกันเป๊ะ
ล้อเล่นนะครับ(ล้อเล่นบทความเป็นจริง) ผมอีกคนหนึ่งที่พยายามเปลี่ยนจาก msoffice เป็น openoffice แต่ยังไม่สำเร็จ เพราะพนักงานยังติดอยู่กับ ms มากไป
ลองดูสิ่งที่เขาใช้กันไม่เห็ยว่ามันจะเกินจาก openoffice เท่าไหร่ อย่าง excel นี่มีแค่ + - * / แค่นั้นเอง ผมว่าถ้าต้องซื้อโปรแกรมพวกนี้
เขาคงยอมเปลี่ยนแน่นอนครับ
ทำยังไงให้รัฐบาลเร่งจับ software เถื่อน แบบที่ไล่จับซีดีโป๊จัง รับรองว่าไม่ต้องโฆษณาเลยด้วยซ้ำไป ฝันไปหรือเปล่าหว่า
เคยพยามจะใช้อยู่พักนึงครับ แต่ลูกค้า + หัวหน้ายังใช้ MS อยู่ครับ สุดท้ายก็ไม่พ้น software แผ่นละ 150
ตอนที่ไปฝึกงานในศูนย์ราชการ หัวหน้าแผนกอื่นมาบอกว่าช่วยเอาไฟล์เวิร์ดออกมาให้หน่อย แต่พอเปิดด้วย MS Office แล้วปรากฎว่าไฟลน์นั้นเปิดไม่ได้ พยายามเปิดตั้งหลายวิธีก็เปิดไม่ได้ สุดท้ายก็เลยลองไปงั้นกับ OpenOffice.org ปรากฎว่าเปิดได้แฮะ เลยเซพส่งให้หัวหน้าเลย เขาก็ส่งลูกน้องมาถามว่าเราเปิดได้อย่างไร ก็เลยบอกให้เขาติด OpenOffice.org ไปซะ แต่ผมว่าเขาคงไม่ใช้มันเป็นตัวหลักแน่ ๆ