APNIC ประกาศว่าวันนี้ (15 เมษายน พ.ศ.2554) APNIC เหลือ IPv4 ขนาด /8 ช่วงสุดท้ายแล้ว ซึ่งทำให้เข้าสู่ช่วงที่สามของการหมดลงของ IPv4 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งนโยบายสำหรับการแจกจ่าย IPv4 ในช่วงที่สามนี้คือ
- ผู้ถือแอคเคาต์ APNIC (สมาชิก) สามารถขอ IPv4 ได้สูงสุดคือช่วงขนาด /22 (1024 ไอพี) ได้เพียงช่วงเดียวเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อให้ทั้งเครือข่ายที่มีอยู่แล้วและเพิ่งเกิดสามารถได้รับช่วง IPv4 ไปใช้ช่วยในการย้ายไปใช้ IPv6 ได้
- APNIC จะกันช่วงไอพีขนาด /16 (65536 ไอพี) เอาไว้ "เผื่อ" ใช้ในอนาคต แต่ถ้าไอพีที่กันไว้นี้ยังไม่ถูกใช้ในขณะที่ไอพีอื่นๆ ถูกจัดสรรไปหมดแล้ว APNIC จะนำไอพีช่วงนี้กลับมาจัดสรรใหม่
- สามารถโอนย้ายแอดเดรส IPv4 ระหว่างสมาชิกได้โดยไม่จำกัดผู้รับ (แต่ถ้าผู้รับจะขอไอพีจาก APNIC ในช่วง /8 ที่เหลือก็จะต้องสามารถแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นด้วย)
ที่มา: APNIC: APNIC IPv4 Address Pool Reaches Final /8
Comments
กระทรวง ICT บ้านเรา ยังไม่เห็นมีนโยบายอะไรเกี่ยวกับ IPv6 เลย
ปล่อยให้หน่อยงานการศึกษา กับภาคเอกชนทดลองกันเอง
แต่ขาดแนวทางที่ชัดเจน หรือการสนับสนุน
เช่น ลดหย่อนภาษีสำหรับการนำเข้าอุปกรณ์ที่รองรับ IPv6
รัฐบาลรู้จักสิ่งเหล่านี้รึป่าวครับ?
Like
จริงๆ ไม่ใช่หน้าที่ของ "รัฐบาล" โดยตรงครับ แต่น่าจะเป็นหน้าที่ของ กสทช. มากกว่า
lewcpe.com, @wasonliw
ที่ยังไม่มีตัวตน..
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ไม่เชิงครับ ตอนนี้อยู่ในสภาวะ "ไม่แน่ใจว่ามีตัวตนไหม"
lewcpe.com, @wasonliw
หนักเข้าไปใหญ่
คงเพราะมีคนท้าทายอำนาจพระเจ้า พระเจ้าเลยบอกให้แก้ปัญหากันเอง :)
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
นั้นสิครับประะเทศไทยเรื่องนี้ไม่เห็นมีข่าวการเปลี่ยนแปลงไรบ้างเลย
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
เกรงว่าจะตอบแบบนี้น่ะสิ "การไม่ใช้ IPv6 ไม่เป็นอุึปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ"
ด้อกกันเลยทีเดียว
May the Force Close be with you. || @nuttyi
555 อย่างฮา
IPv4 หมดปี 2012 โลกแตกพอดี :)