หลังจากซันได้เปลี่ยนไลเซนส์ในการเผยแพร่ JRE และ JDK (เฉพาะรุ่น Java SE นะครับ) ให้สามารถแจกไปกับลินุกซ์ดิสโทรได้ ในชื่อใหม่ว่า Sun's Distro License for Java (DLJ) เพื่อปูทางไปสู่การโอเพนซอร์สจาวาในอนาคต
Brian Stevens CTO ของ Red Hat ให้ความเห็นว่าแค่นี้ยังไม่พอ โดยเฉพาะการนำจาวาไปใช้ในโครงการแล็ปท็อป 100 เหรียญที่ต้องเป็นโอเพนซอร์สทั้งหมด และออกมากระตุ้นในซันเริ่มการโอเพนซอร์สจาวาอย่างจริงจังมากขึ้น
DLJ ได้รับการสนับสนุนจาก Ubuntu, Debian และ Gentoo เป็นอย่างดี Mark Shuttleworth แห่ง Ubuntu บอกว่าเป็นสัญญาณที่ดี และคาดว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอีกหลายอย่างในเร็วๆ นี้
ที่มา - Reg Developer
Comments
ที windows ไปเรียกร้องให้เค้าใส่ jvm ไปด้วย พอของ linux มาขอใส่กลับเรื่องมาก...double standard
นายขโมย - มันเป็นของๆ เขาครับ เขาจะให้ใครไม่ให้ใครก็เป็นสิทธิของเขา โดยทั่วไปแล้วการแสดงท่าทีของโอเพนซอร์สต่อกรณีอย่างนี้ ควรทำเป็นการเรียกร้องไม่ให้เขียนโปรแกรมโอเพนซอร์สโดยพึ่งเทคโนโลยีจาวา ผมว่าก็ดีอยู่แล้วครับ
lewcpe.com, @wasonliw
เห็นด้วยกับ นายขโมยครับ ถึงจะเข้าใจที่ว่าเป็นของๆเขาก็จริงครับ แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกมากกว่าครับ
ว่าทำไมทำตัวอย่างนี้ ต่อไปผมจะเลิกพัฒนาโปรแกรมด้วยจาวาละ
rerng007 - อันนั้นก็เป็นสิทธิของคนพัฒนาครับ
lewcpe.com, @wasonliw
เขาก็เปิดให้ดาว์นโหลดได้ฟรี ๆ อยู่แล้วนิ แล้วก็ดีกว่าเปิดเป็น opensource อีก เพราะว่า มันจะได้มีมาตรฐานเดียวกัน ป้องกันการ hack จากภายนอกด้วย ดู Linux ดิ แม้จะเป็น opensource แต่ตัวติดตั้งมีเยอะไปหมด ทั้ง .bin .rpm .deb แล้วของ mandriva นี่อะไรอีกนะ โอ้ย! เยอะไปหมด ไม่มีมาตรฐานเดียวกันเลย ฝั่งวินโดว์มีแค่ .exe เท่านั้น นี่แหละมาตรฐานเดียวกัน
--Gmz แต่ผมเรียกมันว่าการผูกขาดครับ :P ถ้าคุณเป็น vendor คุณก็เลือกที่จะสนับสนุนได้ว่าจะเลือกเฉพาะ distro ไหน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ Redhat กับ SUSE