Amazon จะเริ่มเปิดให้นักเรียนเช่าหนังสือเรียนผ่านทาง Kindle ได้แล้ว โดยผู้เช่าสามารถจะประหยัดเงินได้มากถึง 80% จากราคาขายหนังสือเรียนปกแข็ง สำหรับเรื่องราคาของการเช่าหนังสือเรียนเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการเช่า โดยผู้เช่าสามารถจะเลือกได้ตั้งแต่ 30 วันไปจนถึง 360 วัน
โดยในขณะนี้หนังสือเรียนจากสำนัก John Wiley & Sons, Elsevier และ Taylor & Francis รองรับการเช่าบน Kindle แล้ว โดยมีหนังสือเรียนที่รองรับการเช่ารวมทั้งสิ้นหลายหมื่นเล่ม
ส่วนคนที่ชอบขีดเขียนหรือใช้ปากกาเน้นคำจากหนังสือเรียนก็ไม่ต้องกังวล หากถึงเวลาต้องคืนหนังสือเหล่านี้ เพราะ annotation ทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้ใน Kindle และผู้ใช้สามารถที่จะเรียกออกมาดูได้ทุกครั้งผ่านทางเว็บ
หรือรัฐบาลไทยจะซื้อ Kindle แจกเด็ก ๆ แทน (พูดเล่นนะ)
ที่มา - Engadget
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
สำนักพิมพ์สบายเลย. เก็บตังอย่างเดียว
มีแต่ Text book หน่ะสิ
อีกอย่างบ้านเราขาดแคลน e-book ซะด้วยซี
มันขายไม่ได้ เหมือนเป็นหนังสือเล่ม อีกอย่าง คนที่จะมาทำหนังสือแบบเรียนดีดี ก็คงไม่มี
เหอะๆ
หนังสือแบบเรียนดีๆ ยังไงอ.มหาลัยคงเขียนออกมาเรื่อยๆ แหละครับ คนเขียนก็เขียนเหมือนเดิมอยู่ดี อยู่ที่สนพ.บ้านเราจะปรับตัวเมื่อไหร่เท่านั้น ยิ่งมีโครงการแท็บเล็ท น่าจะกระตุ้นให้เปลี่ยนเร็วขึ้นด้วย
ตอนนี้ผมก็เห็นนิตยสารหลายหัวทำลงไอแพด คงจะขายได้อยู่มั่งล่ะมั้ง
ผมเห็นมีแต่ทำ App เอาไว้ขายหนังสือเป็น hard copy เหมือนเดิม ไม่ต่างอะไรกับการซื้อหนังสือผ่านเว็บเหมือนระบบเก่าๆ เลย
hardware limit ไว้แค่ใหน content ก็ตามไปใด้แค่นั้น
อยากให้ content มากขึ้น ดีขึ้น hardware ต้องมากก่อน ดีก่อน
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
+1 ถ้าไม่มีระบบรองรับการอ่าน E-book ที่เพียงพอต่อการสร้างกำไร มันก็ไม่มีใครอยากเสียเวลาทำหรอกครับ
ตอนที่ Steve Jobs จะทำ iTunes Store น่าจะต้องฝ่าแรงต้านน่าดูเหมือนกัน กว่าที่คนจะยอมรับว่าเพลงละเหรียญมันขายได้จริงๆ แถมยังต้องซื้อ iPod เพื่อเอาเพลงไปฟังนอกบ้านอีก จะใช้ mp3 ยี่ห้ออื่นก็ไม่ได้
แต่ตอนนี้ tablet/smartphone มันแพร่หลายและราคาไม่แพงเกินไป ยังขาดแต่คนที่จะกล้าลงทุนเท่านั้นเอง ถ้าตลาดตรงนี้มันเกิดได้จริงๆ ผมว่ามันน่าจะเป็นผลดีกับทุกฝ่ายนะครับ
พูดไปพูดมาก็แค่อยากให้มี ebook ภาษาไทยเป็นเรื่องเป็นราวซะที ก็แค่นั้น :)
อยากให้ห้องสมุดที่มหาลัยมีให้ยืม e-book มั่งจัง จะเอาฟรีอ่ะ ถ้ามีจะถอย kindle เลย
ของวิศวะจุฬามี ipad ให้ยืมแล้ว แต่ไม่รู้มีอะไรให้เล่นมั่ง
เห็นด้วยนะ ที่เทคโนโลยีและงบประมาณขนาดนี้ซื้อพวก e-paper แจกจะคุ้มกว่า ถ้าสามารถใช้ประโยชน์จาก e-paper ได้เต็ม 100% การซื้อ Tablet แจกตอนนี้เหมือนกับเงินเดือน 15k(ขั้นต่ำ ป.ตรี) แล้วใช้ iPhone 4 เครื่องละ 23k + Net ต่อเดือน 300+ ยังไงพิกล
จากข่าวนี้คิดว่าคงต้องจัดมาสักเครื่อง
เห็นมาหลายคอมเมนท์ละอยากถามจริงๆว่าอายุการใช้งานเจ้า e-book มันจะอยู่ได้กี่ปี แล้วใครจะบำรุงรักษา แล้วถ้าจะแจกตามชนบทเมื่อเกิดเสียขึ้นมามันจะเป็นอย่างไร เมื่อก่อนผมก็เป็นพวกเห่อเทคโนโลยีนะ แต่พอผมพึ่งพามากๆเข้าจนวันนึงมันใช้การไม่ได้มันก็ไม่ต่างจากอวัยวะบาดเจ็บทำอะไรไม่สะดวก (ขอย้ำว่าไม่ได้มีเจตนาถ่วงความเจริญแต่อย่างใด)
อายุการใช้งาน น่าจะหลายปีอยู่ถ้าดูแลรักษาดีๆ แต่สำหรับเด็ก ป.1 ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัดยังรักษาไม่ได้เลย ค่าขนมหมดไปกับการซื้อซ้ำ
การซ่อมบำรุง น่าจะต้องรวบรวมแล้วส่งเข้าส่วนกลาง ระยะเวลาซ่อมคงไม่ตำ่กว่าเดือนเพราะเสียเวลาขนส่ง ยิ่งไกลยิ่งช้า ส่วนเครื่องสำรองคงไม่มีเพราะรัฐบาลต้องการทำปริมาณ นโยบายกำหนดเอาไว้ที่ 8แสนเครื่อง ที่ดูจะไม่เพียงพออยู่แล้ว
นโยบายดี แต่ผมว่ามันมาเร็วไปหน่อย ยังมีเรื่องอื่นที่น่าเอาเงินไปใช้ การศึกษาขั้นพื้นฐานทำให้มันเรียนฟรีได้จริงๆ ยังทำไม่ได้เลย
ตัวเครื่องผลิตโดย i-Mobile ดีมะ แล้วใช้ Android ที่ Nectec น่าจะโมเองมาให้
+1 โดน...ชอบความเห็นนี้มากเลย
อยากให้มีหนังสือ ebook ภาษาไทยเยอะๆ จริงๆ เอามาเป็นพวกนิตยสารก่อนก็ได้ จะได้สอยมาอ่านเล่นสักตัว
ไม่ใช่เฉพาะแต่ในอเมริกาอีกใช่ไหม จะได้ยืมมาอ่านมั่ง
ถ้าเทียบกับ Tablet แล้ว E-book น่าจะให้ประโยชน์กับเด็กมากกว่า
tablet ทำได้ทุกหย่างที่ e reader ทำได้นะครับ
แถมยังมี ภาพสี ภาพเคลื่อนไหว โหลดโปรแกรมเพิ่มเติม ฯลฯ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ถ้าคุณเป็นเด็ก มี ipad ในมือจะอ่านหนังสือ ทำการบ้าน หรือเล่นเกม !!!
ถ้าเครื่องลอคจนกว่าจะทำการบ้านเสร็จ
ผมอาจจะรีบทำการบ้านเพื่อเล่นเกมฟรีแทนการต่อคิวหน้าร้านเกมส์
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
งั้นผมจะทำ App Unlock มาขายเด็ก ขายแค่ 20 บาทพอ
มันจะโดนครูเจอ แล้วเครื่องจะ lock ห้ามเล่นเกม ห้ามเข้า store
จะมีการฟ้องร้องจากพ่อแม่นักเรียน app ก็จะโดนถอด
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมเขียนรูปการ์ตูนเป็นลงหนังสือเรียนเกือบทุกเล่ม โดยคุณครูไม่มาเจอ ทั้งๆ ที่ผมก็ไม่ได้เขียนแบบแฝงไว้ตามตัวหนังสือ หรือเขียนด้วยแสงเลเซอร์ หรือหมึกล่องหนอะไร
เข้าใจที่ผมต้องการสื่อมั้ยครับ
ครูของคุณอาจจะไม่เจอ แต่ครูทั้งประเทศจะไม่เจอ unlock app ตัวนี้เลยหรือ ? แล้วพอมันโดนถอดออก มันก็จะไม่มีให้โหลดทั้งประเทศ
สิ่งที่คุนว่าน่าจะคนละกรณีกัน
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมว่าหลายๆ อย่างมันบังตาคุณอยู่นะครับ ถ้าคุณลองคิดดีๆ คุณก็จะเห็นว่าสิ่งที่คุณพูดเองมันไม่ใช่เรื่องที่จะหลบหลีกยากเลย
แล้วถ้ามีคนอื่น ทำ unlock app ตัวอื่นมาอีกล่ะครับ จ้างคนมานั่งคอยจับผิดไล่ลบทีละตัวเลยมั้ย เจอทีลบทีเป็นเกมแมวไล่จับหนู เริ่มรู้สึกคุ้นๆเหมือนที่กระทรวงะอะไรซักอย่างพยายามทำอยู่ทุกวันนี้มั้ยครับ
ผูกกับ store ส่วนตัวไปเลย ?
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
จริงๆ แล้วผมไม่ได้เชียร์ Tablet หรือ EBook Reader หรอกครับ
ผมเพียงแค่อยากบอกคุณว่า อย่าเชียร์อะไรสุดลิ่มทิ่มประตู ทั้งสองอย่างมันมีทั้งข้อดี และข้อเสียของกันละกัน
ตอนที่คุณเชียร์ Android นั้นคุณก็ว่า iOS ห่วยซะไม่มีดี ทั้งที่จริงๆ แล้วมันก็มีข้อดีของมัน เหมือนที่ Android เองก็ไม่ใช่ว่าดีเลิศไม่มีรอยด่างพร้อย
ตอนนี้ก็เหมือนกัน คุณเชียร์ Tablet จนออกนอกหน้า ถึงขนาดว่ามองไม่เห็นข้อดีของ EBook Reader เลย ขนาดที่มีคนมาชี้จุดดีของมันให้คุณเห็น แต่คุณก็ไม่เห็น
พอผมมาชี้จุดด้อยของ Tablet ให้คุณเห็น คุณก็ข้างๆ คูๆ เรื่อยเปื่อยไป
ผมถึงบอกว่า "ความหลงทำให้เสื่อม"
ปล 1. อย่างที่บอก ผมไม่ได้เชียร์ทั้ง Tablet หรือ EBook Reader เพราะมันมีทั้งข้อเสียและข้อดี คราวนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะเอามาใช้อะไร และตัวไหนมันประหยัดที่สุด และเหมาะกับเป้าหมายมากที่สุดมากกว่า
ปล 2. ถ้าเป็น Tablet แค่เสียบ SD Card ได้ทุกอย่างก็จบแล้วครับ ทำ Side loading ง่ายมากๆ ไม่ต้องถึงขั้นมี Store ส่วนตัวหรอก เห็นว่าเชียร์ Android แบบสุดขั้ว คุณเคยแฮ็กหรือลง Rom ใหม่บ้างมั้ยครับ ถ้าไม่เคยผมจะบอกให้ว่าโปรแกรมแฮ็กน่ะ ไม่ต้องโหลดจาก Market ครับ
คนไทยรัฐบาลไทยมีศักยภาพขนาดนั้นเลยเหรอครับ o_Oผมว่าคุณเริ่มอยากเอาชนะมากเกินไปจริงๆล่ะนะ คำตอบนี้เกินขอบเขตความสามารถของรัฐบาลไปเยอะเลยนะครับ
เอ้า สมมติทำได้จริง แล้วถ้าเกิดเอาไปลง custom rom ล่ะครับ อย่าบอกนะให้ล็อค bootloader ถ้าถึงขั้นนั้นเราจะได้บริษัทมือถือสัญชาติไทยเลยนะครับ lol
ล้ำลึก
ฮา
ผมจะหนีไปร้านเกมโดยไม่สนการบ้าน XD
ในชีวิตวัยเด็กผมจริงๆ ผมเลือกไปเล่นเกมส์ก่อนครับ ส่วนการบ้านเอาไว้หลังเกมส์..
เอาชีวิตผมมาตีแผ่ทำไม? XD
มีแต่เด็กนิสัยไม่ดีนะเนี่ย
ผมไม่มีการบ้านเพราะผมอยู่ในห้องซ้อมดนตรี พอขึ้นป.ตรีผมก็ไปเลี้ยงปลา
ยกเว้นถนอมสายตา และความสบายตาในการอ่านยังห่างชั้นกันเยอะครับ
อ่านกลางแดดไม่ได้ ความคมไม่เท่า แถมหนักกว่ากันเป็นเท่าตัว
ผมว่าคุณเชียร์แบบสุดลิ่มทิ่มประตูเกินไป เรียกได้ว่าเสื่อมเพราะความหลง
มีคนเสื่อมเพราะความเกลียดชังอยู่ ผมแค่มองต่างจากเค้า
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
คุณพูดถึงตัวเองอยู่รึเปล่าครับ?
หมายถึงตัวคุณมั้งครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
นี่ไม่รู้จริงๆหรือครับว่าทำไม Kindle ยังขายได้ทั้งๆที่ iPad และ Tablet ทั้งหลายออกมาขายเกลื่อน
ราคาและความมั้นคงของ Amazon มั้งครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เดี๋ยวนี้เจอคนใช้ tablet แล้วเฉยๆ แต่พอเห็นคนใช้ ebook reader แล้วรู้สึกมัน wow ยังไงไม่ทราบ :)
ผมว่าสินค้าที่มันมีโฟกัสอยู่แค่งานนึงๆ นี่มันก็มีเสน่ห์ดีนะครับ ขอให้มันทำได้เจ๋งจริงๆ ก็พอ อะไรที่มันอัดแน่นด้วยการใช้งานที่มากเกินไป คนส่วนหนึ่งจะมองว่ามันใช้งานยากและไม่มั่นคง แต่สำหรับพวก geek นี่คงชอบจัง ฟังก์ชั่นยิ่งเยอะยิ่งดูคุ้มค่า
เอาภาษีไปไช้ทั้งที ทำไมต้องเลือกให้มันทำใด้นิดเดียว แล้วก็สุดที่ต้องชื้อของเพิ่มช้ำชาก
จะเริ่มอะไรใหม่ๆทั้งที ทำไมต้องลอกตัวเองอยู่กับความสามารถเท่าเดิม แล้วก็วนไปวนมาอยู่ที่เดิม
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ถ้ามีหนังสือที่จะต้องเก็บซัก 30 เล่มแล้วแล้วจะเห็นความจำเป็นของ eBook มากขึ้นครับ