มีรายงานข่าวว่า TDK ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ในการบันทึกหน่วยความจำซึ่งสามารถเพิ่มความจุของฮาร์ดดิสก์จากปัจจุบันได้อีกมากกว่า 2 เท่าตัว โดยเป็นการพัฒนาเลเซอร์แบบพิเศษที่ทำงานได้ละเอียดระดับไม่กี่นาโนเมตร
ทั้งนี้ TDK ได้เปลี่ยนวัสดุที่ใช้ในหัวอ่านข้อมูล และเปลี่ยนโครงสร้างการบันทึกข้อมูลใหม่ทั้งหมด โดยการออกแบบใหม่นี้ทำให้ 1 จานแผ่นสามารถบรรจุข้อมูลได้สูงถึง 1TB ซึ่ง TDK มีแผนจะเปิดตัวเทคโนโลยีอย่างเป็นทางการต่อผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ในต้นปีหน้า
ที่มา: TechCrunch
Comments
อยากทราบว่าเขาทำการค้ากันยังไงเหรอครับ
TDK พัฒนา แล้วเอาไปขายวิธีให้ WD Seagate
แล้ว W,S ก็ผลิตออกมาขาย แบบนี้เหรอครับ?
แบบนี้แหละครับ "สิทธิบัตร" ของแท้ เป็นอะไรที่เรียกได้ว่าเป็น "นวตกรรม" แท้ๆ ไม่ใช่แค่ "Look & Feel" ก็ดันรับจดสิทธิบัตรได้
นี่แหละที่ต้อง R&D ขึ้นมาอย่างแท้จริงที่คนในวงการ "นักคิดค้น/นักประดิษฐ์" เขายอมรับกัน และ Fair play มาตลอดครับ
ผมเอ่ยแค่นี้ เข้าใจเลยไหมครับ ว่าเขาทำการค้ากันอย่างไร?
ไม่ได้ยินชื่อบริษัทนี้นานจนเกือบจะลืมไปแล้ว
ขนาดแท็ก TDK เองในนี้ยังมีแค่สองข่าวเองครับ (O_o)
ขอแบบความเร้วขึ้น2เท่าแทนได้หรือไม่
ผมว่าน่าจะหมายถึงเลเซอร์พิเศษที่ให้ความร้อนพื้นผิวฮาร์ดดิสก์ด้วยความแม่นยำระดับไม่กี่นาโนเมตรนะครับ ไม่น่าเกี่ยวกับการระบุตำแหน่งข้อมูล
จานละ 1TB แล้ว ฝั่ง SSD จะมีอะไรออกมาแข่งอีกบ้างเนี่ย
รีบเขียนเกิน เห็นด้วยตามนั้นครับ
ผมเห็นว่ามันคนละตลาดกันนะครับ รายนั้นวิ่งไปแตะความเร็วสูงสุดของ SATA 6Gbps(~550MBps) แล้ว คงเหลือแค่เทคโนโลยีการผลิต NAND Flash ให้เล็กลง(ตอนนี้อยู่ที่ 25nm)
ส่วน HDD ก็แข่งกันด้าน Density เหมือนกัน
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ได้ยินคนใน WD พูดมาซักพักแล้วนะเทคโนโลยีนี้ แถมยังบอกว่าถ้าออกมาขายอย่าไปซื้อ มันไม่ทน
จริงๆ ถ้าเทียบ HDD ระดับความจุไม่กี่ GB กับ HDD สมัยนี้ ที่เป็น TB, ผมก็ว่า HDD สมัยก่อนทนโคตรๆ เลยนะ
iPAtS
+1 20GB ของผมใช่มาจนถึงตอนนี้ก็ร่วมสิบปีแล้วมั๊ง ยังทนอยู่เลย
รอดูว่ารุ่นใหม่นี้มันจะ แครกๆๆๆๆๆ ไหม?
มันถูกสร้างมาให้เสียครับ เทคโนโลยีสมัยนี้ T-T
เข้าใจว่าทำเป็นคอนซูเมอร์เน้นถูกขายแมส จะทำเงิน+ดันเทคโนโลยีได้ไวกว่า
ถ้าเอาพวกทนๆ server class นี่ก็ราคาแสนแพงเลย T-T
ผมยืนยันเลยครับ ทางผู้ผลิตเขาไม่ได้ทำมาให้เสียเร็วแน่ครับ
จากเมื่อก่อน hdd รุ่นเก่าจะใช้หัวอ่านแบบ thin film ซึงจะใช้
การอ่าน และ การเขียน เป็นชุดเดียวกันจะเหมือนกับเครื่องบันทึก
เทป ที่เรียกว่า Pole tip และจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เวลาอ่านเขียน
จะบินอยู่บนแผ่น disk แต่บางทีเรียกว่า media hdd ยิ่งมีความจุมาก
ก็จะทำให้ต้องบินใกล้ disk มาก เป็นเพราะว่า ขนาดของความเข้ม
ของสนามแม่เหล็กที่ปล่อยออกมาจะน้อยตามขนาดของ pole tip
ที่เล็กลง โดยที่เราต้องเพิ่มความจุ ต่อมาก็มีการเปลี่ยนมาใช้แบบ
ชุดอ่าน กับ ชุดเขียนแยกกัน ชุดเขียนยังเหมือนเดิม แต่ชุดอ่านเป็น
แบบ MR อธิบายง่ายๆคือ ชุด MR จะมีผลกับสนามแม่เหล็กที่ได้จากการ
เขียน ทำให้กระแสไฟฟ้าที่ไปเลี้ยงที่ MR มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งหมดในช่วงแรก
จะใช้วิธีการเขียนแบบแนวนอน
ต่อมาก็ได้ปรับปรุงให้ได้ความจุมากก็ได้เปลี่ยนมาเขียนมาป็นแบบแนวตั้ง
ทำให้ได้ความมากกว่าเดิมหลายเท่า และที่กล่าวมาจากหัวข้อเรื่อง มันคือ
เทคโนโลยีที่เขาวางไว้แล้ว มันน่าจะเป็นชนิด HAMR ตัวนี้จะเทคโนโลยี
ของ เลเซอร์ จากหัวอ่านที่เพิ่มเข้ามายิงไปที่แผ่น disk ในจุดที่ต้องการจะเขียนเพื่อ
ความร้อนที่ได้จะทำให้ความเข้มของสนามแม่เหล็กดีขึ้น ทำให้เราสามารถออกแบบ
ชุดเขียนและอ่านให้มีขนาดเล็กลได้อีก ทำให้เรามีขนาดของความจุมากขึ้นอย่างมาก
แต่ก็ต้องแลกด้วยกับระยะในการบิน ยิ่งต่ำมาจะทำให้เกิดการขูดที่แผ่น disk ไ้ด้ง่าย
ที่เรียกว่า scratch disk ครับ แค่นี้ก่อนละกันครับ มีใครไม่เข้าใจถามได้ครับ
เข้าใจละ ที่รุ่นเก่ามันทนเพราะหัวอ่านมันอยู่ห่างจากจานดิสมากทำให้โอกาสเสียดสีมีน้อยว่างั้น ขอบคุณครับสำหรับความรู้
+1 ครับ ได้ความรู้เพิ่ม
+1
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
+1 Maxtor 15GB ผมยังมีชีวิตอยู่เลยครับ xD
^
^
that's just my two cents.
ผมเห็นแบบเข้มยิ่งจุเยอะยิ่งรอบช้ามากแล้วนะ ถ้าแบบ tdk เข้าใจว่าคล้ายการ burn แผ่น dvdr cdr bdr นั้นหรือแล้วยิ่งจุ 2 เท่า มันจะช้ามากขึ้นไหม
หลักการมันไม่เหมือนกันครับ เขาไม่ได้ใช้เลเซอร์เพื่อเขียนข้อมูลโดยตรงครับ
เป็นการใช้ความร้อนจาก เลเซอร์เพื่อช่วยในการเขียนให้ดีขึ้นครับ
DVD หมุนด้วยความเร็วเท่า CD จะเร็วกว่านะครับ เพราะข้อมูลต่อเนื้อที่มันมากกว่า อ่านรอบนึงเลยได้เยอะกว่า