มาดูข่าวด้านบวกของกระทรวงไอซีที (ซึ่งนานๆ จะมีสักที) กันบ้างนะครับ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงไอซีทีได้แถลงข่าวเปิดตัว โครงการนำร่องบริการระบบคลาวด์ภาครัฐ (Government Cloud Service) ซึ่งเป็นระบบเซิร์ฟเวอร์แบบกลุ่มเมฆที่หน่วยงานภาครัฐสามารถขอใช้งานได้ โดยที่ไม่ต้องหาเซิร์ฟเวอร์ใช้งานเอง
ตอนนี้ระบบ Government Cloud Service ยังอยู่ในช่วงทดสอบ มีหน่วยงานรัฐ 10 แห่งร่วมทดสอบเป็นเวลาสามเดือน (ม.ค.-เม.ย. 2555) โดยมีสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ หลังจากผ่านระยะสามเดือนนี้จะรายงานผล เพื่อนำไปจัดทำโครงการคลาวด์ภาครัฐเต็มรูปแบบต่อไป
โครงการขั้นทดสอบใช้เงินลงทุน 50 ล้านบาท ส่วนโครงการเต็มรูปแบบคาดว่าจะช่วยลดงบประมาณไอทีภาครัฐ (จากการซื้อเซิร์ฟเวอร์ซ้ำซ้อน) ได้ 30% และช่วยให้การพัฒนาโครงการไอทีใหม่ๆ ของภาครัฐเดินหน้าได้เร็วขึ้น
ที่มา - กระทรวงไอซีที, เดลินิวส์
Comments
ไม่นึกว่าจะได้เห็นรัฐใช้เร็วอย่างงี้เลยนะนี้
+1 นั่นสิครับ เร็วเกินคาด นับว่าข้าราชการเลือดใหม่ไฟแรงดี ^ ^
+1 นับว่าเป็นอีกเรื่องดีๆ
..: เรื่อยไป
ก.ไอซีทีรู้จัก cloud technology ด้วยเหรอครับ ??
นึกว่ารู้จักแต่บล็อคเว็บ
ในขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งตั้งคำถามว่าทำไมไม่เอาเวลาไปบล็อกเว็บแล้วเอาเงินไปช่วยน้ำท่วม :P
:-)
ปล. อาจจะดู negative comment ไป ซึ่งก็คิดอย่างนั้นจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีโครงการล้ำๆ แบบนี้จากกระทรวง ICT ด้วย (เพราะตลอดอายุกระทรวงนี้ คนแทบจะรู้จักแต่ว่าเป็นกระทรวงบล็อคเว็บไปแล้ว)
ส่วนตัวขอชื่นชมล่ะครับ และเอาใจช่วยให้สำเร็จ ถ้าสำเร็จจะช่วยลดความซ้ำซ้อนของระบบ IT ราชการไทยไปได้เยอะเลย แถมเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศด้วย
จะช่วยลดงบประมาณไอทีภาครัฐ จากการซื้อเซิร์ฟเวอร์ซ้ำซ้อน <<< เห็นด้วยที่สุด
+1 ครับ
ตอนทำโปรเจคต์ผมเคยถามนะครับ ว่าทำไมถึงไม่ใช้บนเครื่องเดียวกัน ทั้งที่แต่ละเครื่องอลังการทั้งนั้น ทำสักสิบอันยังไหวเลย
เค้าให้เหตุผลว่า หากระบบนึงล่ม กลัวว่าอีกระบบจะล่มไปด้วย (ไม่รู้ว่าจริงๆมีลับลมคนในยังไงรึเปล่านะครับ แต่คำตอบทางการคือยังงี้)
หวังว่า เค้าจะเปลี่ยนแนวคิดเหมือนกัน
มีคนแถวนี้จะลองทดสอบระบบไหมครับ
เอาใจช่วยให้เวริคครับ ^^
ไม่แปลกที่เห็นโครงการแบบนี้ในรัฐบาลชุดนี้
สักพักนึง อาจจะได้ข่าวว่า
"ระบบ Cloud ของรัฐบาลโดนเจาะ ข้อมูลปกปิดหลุดเป็นจำนวนมาก เหตุ!!! ระบบความปลอดภัยไร้มาตรฐาน"
ก็ ขอให้มีความปลอดภัยหน่อยล่ะกัน ไม่ใช่ว่าไม่ป้องกันอะไรเลย หรือในระบบ Cloud เองยังใช้ซอฟแวร์เถื่อน
อย่างงี้ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน
ต่อให้มีข่าวว่าโดนแฮกผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกครับ ขอแค่บรรลุเป้าหมายการใช้งานและมีการพัฒนาปรับปรุงเรื่อยๆก็พอแล้วครับ ถ้ามีคนจะแฮก ยังไงก็แฮกได้ครับ Symentec หรือ Drone ของสหรัฐยังเพิ่งโดนไปหมาดๆเลยครับ
ปล.แต่ถ้าเปิดมาแล้วมีข่าวโดนแฮกด้วยวิธีเดิมบ่อยๆก็ไม่ไหวนะ
คิดว่าคงไม่มีปัญหามั้งครับ เพราะเห็นข้อสอบเน้นแต่ Security คงได้คนมีคุณภาพด้านนี้ไปหลายอยู่
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
ซีเคียวของบางหน่วยงานรัฐถือว่าปลอดภัยดีเลยนะครับ :)
ปรากฏว่า Cloud ของภาครัฐเป็นจุดศูนย์รวมไวรัสและกองบัญชาการของเหล่าแฮกเกอร์ 555
ปล. แซวเฉยๆ นะครับเพราะเห็นปกติ อย่างน้อยเว็บภาครัฐโดนไวรัสหรือถูกเจาะระบบกันเป็นประจำ..
มันก็ขึ้นอยู่กับ user ที่อยู่ในระบบแล้วล่ะครับ เมื่อก่อนทำงานกับ บ.สิ่งพิมพ์แห่งหนึ่งแล้วแบบว่า แผนกที่มีปัญหาบ่อยๆ ก็คือแผนกบัญชีและแผนกสมาชิก ที่ user มักจะไม่ระวังในการเชื่อมต่อภายนอก หรือใช้สื่อข้อมูลจากบุคคลภายนอกแบบไม่ระมัดระวัง ส่วนแผนกอื่นที่มีความรู้พื้นฐานของการป้องกันไวรัสไม่มีปัญหาแบบนี้เลย
เคยแก้ปัญหา nimda กับเครื่องทั้ง 50 เครื่องในบริษัท อุตสาห์สั่งแล้วว่าถ้ายังไม่บอกว่าเรียบร้อยห้ามต่อสายเข้าระบบ แหม คุณพี่ user รับฟังแต่ไม่รับทราบ หลังออกจากห้องไม่ถึง 10 นาที เครื่องครึ่งบริษัทแก้ไปเรียบร้อยกลับมาติดเพราะพี่คนเดียวเลย T_T ... เฮ้อ user ล้วนๆ
Hack ที่ IP 127.0.0.1 หรือเปล่า
Destination host unreachable!!!
จ้าง บ อะไร Implement หนอ..
แบบนี้ก็ดีครับ
เออกลับมาที ล้ำหน้ากว่าบริษัทเอกชนบางบริษัทอีก 5555
ทุกทีจะเห็นหน่วยงานรัฐเดินตามเทคโนโลยีที่ภาคเอกชนใช้ตลอด (ไม่นับหน่วยงานลับหรือความมั่นคงน่ะครับ)
การก้าวเดินย่อมดีเสมอ
ดีครับเป็นการปรับโครงสร้างพื้นฐานการเข้าถึงข้อมูลของภาคท้องถิ่นไปด้วย
ตกใจเล็กๆนะนี่
ได้ข่าวมาพักนึง เปิดใช้แล้วววว ไวจัง
จ๊าบมาก
Innovation !!!! Evolution !!!! ICT แปลงร่างงงงงงงงงงงงงง
/me อ่านข่าวแล้วตะลึง!!!
เห็นบางความเห็นแล้วเหมือนจะดูภาครัฐฯ ในลักษณะแง่ลบไปเล็กๆ น้อยๆ ผมจะบอกว่า ภาครัฐฯ มีคนเก่งกว่าที่คิดเยอะมาก ๆ นะครับ แต่ส่วนมากจะติดที่ "คนที่คุณก็รู้ว่าใคร" ตอนทำงานจริง ๆ น่ะครับ - -"
บางครั้งอุปสรรคสำคัญก็อยู่ที่ตัวระบบราชการเอง
ก็ขอให้กำลังใจละกันครับ
+888
จะแปลกใจถ้าเห็นรัฐบาลเจ้าอื่นทำ -
@fb.me/frozenology@
สรอ. ถ้าจำไม่ผิดก็คือ gits (สบทร.) ที่แปรรูปไปนั่นเองครับ ที่นี่คนเก่งอยู่เยอะนะครับ เพราะส่วนใหญ่เป็น ดร. ที่ต้องมาทำงานใช้ทุน
จำได้ว่ารุ่นผม (ประมาณ 6 ปีที่แล้ว) ในแผนก R&D มีแต่วิศวลาดกระบัง (ยกเว้นผม)
เอาใจช่วยครับ ขอให้เวิร์คและใช้งานจริง จะได้เป็นแบบอย่างให้กับภาคเอกชน (ผมอยากเห็นรัฐนำเอกชนบ้าง)
50ล้าน ถูกกว่าที่คิดเยอะแฮะ
เป็นขั้นทดสอบเฉยๆครับ ยังไม่เต็มรูปแบบ
หน่วยงานรัฐบางแห่งโอ่ว่าจะทำใช้เงิน 100 ล้าน ด้วยซ้ำ นี่กระทรวง ICT ทำเอง 50 ล้าน ถือว่าถูก และเขายังคุม CAT อีก ตัวปล่อยสัญญาณ internet ตัวเอ้ด้วย สุด ๆ ครับงานนี้
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
ต้องลงทุนเน็ตเวิร์คเยอะเลยนะน่ะ ไม่งั้นช้าตาย
TOT ไทยแลนด์เรามี Cisco CRS-1 อยู่มากเป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาคครับ
ระบบหน่ะแรงแล้วครับ แต่จะปล่อยออกมาเท่าไหนอันนั้นอีกเรื่อง
ของภาคการศึกษาก็มี CRS-1 ทุกๆ จังหวัด วิ่งบน DWDM ที่ 10Gbps ที่จังหวัดปลายทาง
และ 40-50Gbps จังหวัดหัวเมือง
ปล. รบ.โบราณเก่าๆ 60 ปี สนับสนุนโครงการนี้จนให้งบมาทำ!(แปลกจริงๆ)
แล้ว storage ล่ะครับ ถือเป็นการกระตุ้นอุตสาหกรรมฮาร์ดดิส ให้กลับมาถูกลงเหมือนเดิมป่าว
ซื้อเซิร์ฟเวอร์ซ้ำซ้อน เยอะมากๆครับ หน่วยงานไทย
IBM HP คงเซ็งอะครับ
security ให้สูงหน่อยนะครับ
อย่าให้ถึงกับผู้ชุมนุมเข้าไปถอด harddisk เอาไปขายได้
ตึกของกระทรวง ICT ระบบรักษาความปลอดภัยสูงครับ (เคยไปสอบภาค ค. มา)
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
รบ.ที่แล้วเดิน fiber ไปโรงเรียน
รบ.นี้แจก tablet ขี่ไปบน fiber รบ.ที่แล้ว
ทำดีต้องชมครับแบบนี้ แปะๆๆ
มันต้องอย่างงี้สิ!
ซื้อเซิร์ฟเวอร์ซ้ำซ้อน กินกันซ้ำซ้อน ไม่เป็นกอบเป็นกำ
ถ้ารวมศูนย์ เงินไม่ต้องกระจัดกระจาย กินกันเป็นกอบเป็นกำ ก้อนโตกว่าเดิมซะด้วย ส่วนแบ่งน้อยกว่าเดิม
แถวๆ นี้ถ้าคอมเมนต์มีสาระ ก็ไม่มีใครว่าอะไรนะครับ
ถึงผมจะไม่ชอบรัฐบาลนี่เลยก็ตามนะครับ แต่บ้างเรื่องที่มันเข้าท่าเข้าทาง ก็ปล่อยบ้างอะไรบ้างครับ
ตอบแบบนี้แสดงว่า ไม่เคยอ่านรายละเอียดของโปรเจคต์ IT ในระบบราชการ :)
ในทางตรงกันข้ามเลยด้วยครับ ถ้าไม่มีเครื่องเซอฟเวอร์รวมในโครงการอีกต่อไป ก็จะล็อคสเปคยากขึ้น
ลองไปหาอ่านรายละเอียดราคาเครื่องในโครงการดูครับ รับรองได้ รีบกลับมา edit ข้อความแทบไม่ทัน :D
ฮ่าๆๆๆ เคยเจอมาเหมือนกันครับ
ผมว่าช่วยแก้ปัญหาทุจริตได้นะครับ
ตามหลักการจัดซื้ออุปกรณ์ไอทีของภาครัฐ ยิ่งก้อนใหญ่ยิ่งถูกตรวจสอบ(และขัดขา)ง่ายกว่านะครับ
เยี่ยมครับ เป็นข่าวดีโครต ๆ จะได้ไม่ต้องไปติดต่อ True IDC แล้ว เพราะติด พรบ.ข้อมูลข่าวสาร ที่ข้อมูลภาครัฐต้องอยู่ในประเทศไทย แต่หากภาครัฐด้วยกันเองดูแล ก็เชื่อว่า จะมีความปลอดภัยเรื่องข้อมูลที่ตรงตามกฎหมายมากกว่า
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
จะรอใช้เลยครับ...
ดันครับ :)
ขอเป็นกำลังใจให้รัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย ที่ได้รับเลือกมาจากเสียงประชาชนส่วนใหญ่ครับ o/
หึๆ ... Support เรื่อง 1 Child 1 Tablet ได้ทันทีเลย
คราวนี้ครูต้องอัพสกิลตัวเองให้ทันเด็กแล้วสินะ
Destination host unreachable!!!
ถูกกว่าโปรเจคพี่เหลิมอีก
โดนใจอ่ะ กด like สักร้อยทีได้มั้ยอ่ะครับ?? ^-^