ในรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของโนเกีย บริษัทก็เปิดเผยว่าได้รับเงินจากไมโครซอฟท์เป็นค่า "platform support payments" จำนวน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสนี้
เงินก้อนนี้อธิบายง่ายๆ มันก็คือ "ค่าจ้างใช้ Windows Phone" ที่ไมโครซอฟท์จ่ายให้โนเกียตามข้อตกลงเมื่อปี 2010 แต่เงินก้อนนี้เป็นก้อนแรกที่เข้ามายังโนเกียในไตรมาสล่าสุดนี้
อย่างไรก็ตาม โนเกียเองก็ต้องจ่ายค่าใช้งาน Windows Phone (royalty payment) กลับไปให้ไมโครซอฟท์ด้วย แต่โนเกียไม่ได้เปิดเผยตัวเลขเหล่านี้ว่าเท่าไร บอกเพียงแค่ว่าตัวเลข 2 ตัวนี้มีมูลค่ารวมตลอดสัญญาเป็นหลัก "พันล้านดอลลาร์"
ที่มา - Computerworld
Comments
มูลค่าในสัญญา สงสัยหักลบค่า royalty payment แล้ว น่าจะประมาณว่าขายไม่ออก Nokia ก็ได้เงิน จาก MS แต่ถ้าขายออกดี Nokia ได้เงินเพิ่ม MS ได้เงินด้วย แหง ๆ
ที NOKIA ไมโครซอฟต์จ้างให้ใช้ Windows Phone
ที ZTE ต้องจ่ายค่า Windows Phone เครื่องละ 15-20 ปอนด์ ให้ ไมโครซอฟต์ ???
โนเกียก็ต้องจ่ายครับ (แต่ไม่บอกว่าเท่าไร) ส่วนไมโครซอฟท์นั้นช่วยสนับสนุนค่าการตลาดให้กลับคืน อันนี้เพิ่มเข้ามา (ค่ายอื่นก็อาจจะมีเหมือนกันก็ได้)
ผมบอกแล้วว่าทางเลือกนี้ เป็นทางเลือกที่เสี่ยงมากสำหรับโนเกีย แทนที่จะทำตัวเองเป็นผู้ผลิตมือถือ เอาทั้ง android และ windows มาใช้ กลับผูกขาดตัวเองกับ microsoft ถ้าดีก็ดีไป แต่ถ้าแย่ ก็เตรียมลบชื่อ โนเกียออกไปได้เลย (ไม่เหลือทางหนีให้ตัวเองเลย จริง ๆ)
ผมมองว่าเอาสักทางดีกว่าดีกว่าทำทุกแนว และมองว่าเลือก windows ไม่ได้เป็นตัวเลือกที่แย่หากต้องการความแตกต่าง
ดู Samsung ครับ
+1 ผมว่า samsung คิดถูกแล้วล่ะที่สลัดทิ้ง เพราะ MS มันไม่ได้ห่วงอะไรนอกจากตัวเอง แถมอืดเหมือนเรือเกลือ
ซัมซุงยังมี บาด้า
ผมว่ามันก็คือเงินจ้าง Nokia โปรโมท Windows Phone น่ะล่ะ
จะว่าไป ก็ยังไม่มีโอกาศได้ลองเล่น Lumia สักที = ='
:: DigiKin8 ::
อย่าใช้คำว่า "เล่น" กับมือถือ Lumia สิครับ... อ่านแล้วชวนเข้าใจผิด
"จิ้ม" ?
ในขณะที่ผู้ผลิตมือถือค่ายแอนดรอยด์ที่สร้างโดยอากู๋กลับต้องจ่ายค่าไลเซนส์ให้ไมโครซอฟท์ ส่วนไมโครซอฟท์ต้องมาจ่ายค่าจ้างให้โนเกียมาใช้โทรศัพท์ตัวเอง
ผู้ใช้งานเขาไม่ได้ต้องการความแตกต่างอะไรมากมายหรอก (คนส่วนน้อยที่สนใจของแตกต่าง)
คนส่วนมากเขาต้องการการตอบสนองที่ดีจากสินค้า
ถ้า WP ตอบสนองความต้องการกับผู้ใช้ได้ดี มันก็คงไม่หายเงียบแบบในปัจจุบันหรอก
ข่าวเสียตั้งแต่แรกๆเรื่อง Customize ไม่ได้
ตอบสนองกับผู้ใช้ไม่ได้ก็แย่พอแล้ว
ขายภาษาไทยก็ไม่มี เพิ่มเติมอะไรก็ไม่ได้ แล้วใครอยากจะใช้หว่า
ส่วนตัวมองว่า ถ้ากลับตัวรีบพัฒนา ให้มันตอบสนองผู้ใช้มากขึ้น เปิดกว้างมากขึ้น ยังพอจะทัน
ถ้านานไปอีก คงจะสายเกินเยียวยาแล้ว เพราะทั้ง iOS, Android คงไปไกลมากกว่านี้
ซ้ำร้าย Desktop Windows อาจจะมีผลกระทบตามมา จากความบูมของพวก OS เหล่านั้น
@fb.me/frozenology@