ปกติแล้วเรามักจะไม่ค่อยได้เห็น Jonathan Ive ให้สัมภาษณ์บ่อยนัก แต่ครั้งนี้เขาก็ยอมให้ London Evening Standard สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระบวนการออกแบบของแอปเปิล โดย Jonathan Ive ได้ถูกถามเกี่ยวกับเป้าหมายในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งเขาได้กล่าวว่า "เป้าหมายของพวกเราฟังดูง่ายมาก คือออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่า ถ้าเราทำให้มันดีกว่าเดิมไม่ได้ เราก็จะไม่ทำ"
ต่อมานักข่าวก็ได้ถามถึงความเห็นเกี่ยวกับคู่แข่งของแอปเปิลที่พยายามออกแบบผลิตภัณฑ์มาต่อกรเช่นกัน ซึ่ง Ive ตอบว่า "คู่แข่งของพวกเราส่วนใหญ่สนใจแต่การทำสิ่งที่ต่างออกไปหรือทำอะไรใหม่ๆ แต่ผมคิดว่าเป้าหมายแบบนั้นมันผิด คุณจะต้องทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นดีขึ้นจริงๆ ซึ่งจะต้องอาศัยความตั้งใจและความกระหายอย่างแรงกล้า"
และเมื่อ Ive ถูกถามถึงความเห็นว่าทำไมผู้ใช้จำนวนมากถึงหลงใหลในผลิตภัณฑ์แอปเปิล Ive ได้ให้ความเห็นว่า "ผมคิดว่ามันมีการเชื่อมต่อทางความรู้สึกจากผลิตภัณฑ์ของเราไปยังผู้ใช้ ซึ่งทำให้พวกเขาเข้าถึงความเอาใจใส่ และความทุ่มเทอย่างมากของผู้ที่สร้างมัน"
ที่มา - Cult of Mac
Comments
ปกติเราใช้ชื่อเต็มของเขา (ทั้งในข่าวและแท็ก) ครับ
แก้ไขแล้วครับ ขอบคุณครับ
Loonshot: New Way of Work
ตอบได้หล่อมากกกฮะ อีกหนึ่งตำนานของแอปเปิลคนนี้
+1
ผมเป็นชาวแอนดรอยด์ มาแสดงความเคารพท่านเซอร์ครับ :)
WE ARE THE 99%
ตอบได้หัวใจหล่อมาก "ผมไม่เน้นขายครับ"
ส่วนตัวไม่ค่อยชอบ Jobs ชอบ Ive คนนี้มากกว่า ดูเท่ห์กว่าเยอะ
+1
+1 Ive นี่ก็ขวัญใจผมเช่นกัน ถ้าความสำเร็จของแอปเปิลมีใครอยู่เบื้องหลัง ผมตอบได้เลยครับว่าคนนี้ ฝีมือล้วนๆ
CEO คนต่อไปของ apple ^^
Impossible
ผมว่าเค้าเหมาะจะเป็นศิลปินมากกว่าผู้บริหาร
เท่าที่อ่านจากหนังสือ Steve Jobs ยังไง Tim Cook ก็แข็งแกร่งกว่ามากครับ ศิลปินที่เก่งในการสร้างสรรค์มักจะมีอารมณ์อ่อนไหวเกินไป
ชอบ คคห นี้ ซึ่งมันเป้นความจริงครับ
ผมชอบข่าวนี้นะครับ เพราะผมชอบฟังแนวแรงบันดาลใจครับ ^^
ชอบแนวคิดแกดีกว่าเดิมไม่ได้ก้ไม่ต้องทำ เออจริง
มิน่าหน้าตาเหมือนเดิมทุกรุ่นเลย ไม่ได้ทำนี่เอง
ขำๆนะครับ
ออกมาหนากว่าเดิม และ หนักกว่าเดิม คุณทำออกมาได้ยังไงนี่คื่อสิ่งที่ดีกว่า ที่ลูกค้าอยากได้หรือ? หวังว่า Gen ต่อไปของ iPad จะทำได้ดีกว่านี้นะ จะรอ รุ่นนี้ก็ขอบายก่อนนะ
"ออกมาหนากว่าเดิม และ หนักกว่าเดิม" ตัดสินไม่ได้ครับ ว่าดีกว่าเดิมหรือแย่กว่าเดิม ผมคิดว่าแค่ตอนนี้เขาทำให้บางกว่าเดิมยังไม่ได้ เดี๋ยวไม่ทันขาย
เพราะรุ่นนี้ตั้งใจเน้นหน้าจอความละเอียดสูงเป็นหลักมั้งครับ ทำให้ภาระหนักไปตกอยู่ที่แบตเตอรี่แล้วกระทบไปถึงความหนาของเครื่อง และจากบทสัมภาษณ์ของเค้า ผมตีความว่า iPad เวอร์ชั่นนี้เค้าทำดีกว่าเดิมไม่ได้เลยไม่ได้ทำอะไรเลยมากกว่าครับ
ทำให้บางเท่าเดิมหรือบางมากกว่า มันทำได้อยู่แล้วครับ ก็จับเปลี่ยนหน้าจอ เปลี่ยนชื่อลดขนาดแบตและเอามาขายใหม่ ไม่ต้องสนเรื่องอื่น มันดูง่ายจะตาย
แต่นี้ อยากรักษาภาพ iPad คือ 9-10ชม ไม่ว่าจะ3จี4จีเอาใว้ หรือคุณชอบบางใว้ก่อนแบตน้อยๆไม่เป็นไร(คำถาม)
งั้นต้องออก The New iPad สำหรับรุ่นแบตบางพิเศษ และ The New iPad Maxx สำหรับรุ่นแบตใหญ่ขึ้น และใช้งานได้ 9 ชม.เท่าเดิม รวมไปถึงออก The New iPad Lite ที่บางขึ้น และ เบาขึ้นด้วย เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั้งหมด
Ipad air ไปใช้ดู
หนากว่า+หนักกว่า = ห่วยกว่าเดิม ?
ผมว่ามันต้องถ่วงน้ำหนักกันนะ สิ่งที่ได้เพิ่ม กับสิ่งที่เสียไป +10 -2 ก็ยัง +8 = ดีกว่าเดิมแล้วนะครับ
แบตความจุเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า
ถ้ามันบางกว่าและเบากว่า iPad 2 ได้ก็คงจะเทพเกินไปแล้วครับ
ถ้าเอาแต่บางอย่างเดียว นั่นแหละครับ เป้าหมายที่ผิดพลาด ต้องดู usability ด้วย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
+100 ครับ ผมคนนึงที่จะซื้อของโดยการดู usability
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ใครใคร่ใช้ ใช้
+1
หนากว่าเดิมไม่ถึงมิล หนักกว่าเดิมไม่กี่กรัม ผมว่าไม่น่าจะรู้สึกมั้งครับ
มือถือก่อนนี้ออกมาบาง ๆ เบา ๆ ก็ขายได้ แต่หลัง ๆ มี OS ขึ้นมา ก็จะเอาแรง ๆ แล้วทีนี้ก็ยังจะเอาบาง ๆ เบา ๆ เป็นไงล่ะ แบตอยู่ไม่ถึงวัน ใช้หนัก ๆ หน่อยก็ครึ่งวัน แล้วคือประเด็นว่า ไอมือถือบาง ๆ ที่ไม่มีไฟนี่กับที่ทับกระดาษมันต่างกันตรงไหนครับ?
เดี๋ยวนี้เลยออกพวก External battery มาเพื่อไอมือถือพวกนี้ กลายเป็นว่าต้องพกสองอย่าง เกะกะกว่าเดิม หนักกว่าเดิม โอ้ววจอร์จ
อยากได้บาง ๆ เบา ๆ เอิ่มม
ป.ล. ทราบครับว่านี iPad แต่ก็เป็นไปในทางเดียวกันครับ
ตอบได้เท่ห์ดีจริงๆแหละ
..: เรื่อยไป
แต่ก่อนนี้มีศาสดาคอยชี้นำนะสิ คอนเซปเดิมๆต่อไปอาจจะไม่ขลังแล้วก็ได้
"คู่แข่งของพวกเราส่วนใหญ่สนใจแต่การทำสิ่งที่ต่างออกไปหรือทำอะไรใหม่ๆ"
ไม่ต่างก็โดน...
ความต่างๆ ไม่ใช่หัวใจของความสำเร็จหนิครับ ที่เขาเน้นความแตกต่างเพราะ เปลื่ยนแปลงเพื่อหาวิธีที่ดีกว่า แต่บ้างสิ่งก็ทำได้แย่กว่าเดิม แค่ทำให้มันแปลกเท่านั้น เหมือน คนเอาหมูมาขายแข่งกับ รถยนต์ แปลกแต่ไม่มีประโยชน์
smartphone android ทุกวันนี้ทำเพื่อความอยู่รอดครับ ความแตกต่างไม่ได้มีเพื่อผู้ใช้งานแต่เป็นการเพิ่มจุดขายมากกว่า
ผมรู้สึกว่า android ยังเป็นโอเอสเบต้าอยู่ ถ้าขาด GUI ที่ค่ายมือถือเพิ่มเข้ามาเองมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับมือถือ linux เมื่อสิบกว่าปีก่อน app บางส่วนใน market ออกแบบมาไม่ดีพอ อย่างน้อยก็ยังขาดการทดสอบกับเครื่องที่หลากหลายทำให้อาการ crash เกิดได้แบบสุ่มตลอดเวลา บางทีอาจจะเกิดจาก fragmentation ของระบบที่ไม่มีข้อกำหนดตายตัวก็ได้
นอกเรื่อง หน้าตาไม่ค่อยยิ้ม เหมือน Eminem เลยแฮะ
แต่เห็นข่าวนี้ ชาบู ๆ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
Ive เค้ายิ้มนะครับ ยิ้มเล็กๆพองามและยิ้มออกตาด้วยครับ ลองเข้าไปดูข่าวต้นฉบับมีภาพใหญ่จะได้เห็นชัดๆครับ ^^
"ถ้าเราทำให้มันดีกว่าเดิมไม่ได้ เราก็จะไม่ทำ" ขอยกเว้น ipod nano ไว้ตัวนึงละกัน :\ แต่ชอบการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เหลือหมดเลย
ipod nano gen4 กับ iPod classic เป็นการออกแบบที่โดนมาก ส่วน nano ตัวล่าสุด... บอกได้แค่ว่า ไม่น่าเลย
พวกเขาผิดพลาดเพราะมัวแต่คิดทำสิ่งใหม่ๆ
แทนที่จะเหมือนพวกเราที่้เอาสิ่งที่พวกเขาคิดใหม่ๆนั้น มารีมิกซ์ใหม่แล้วขาย ประหยัดเวลากว่าเยอะ เพราะเรามีเงินสดอยู่มาก
่านเม้นนี้แล้วฮามาก เรื่องจริงชัด ๆ
ผมไม่ศรัทธาแกก็ตั้งแต่ได้สัมผัส "เมาส์" ฝีมือแกนี่หละครับ ตั้งแต่ iMac gen1 ถึง magic mouse ในแง่ ergonomic มันเฟลแบบไม่เคยมีพัฒนาการเลย เหมือนเมาส์เป็นของแถมที่แกเขี่ยๆส่ง ไม่ค่อยใส่ใจ
แล้วก็ไอโฟน 4 ที่เอาแก้วมาทำเป็นวัสดุหลักทั้งหน้าทั้งหลังของ handheld device ซึ่งมันไม่ practical เท่าไรในแง่การใช้งานจริง(จริงๆมือถือรุ่นอื่นก็ใช้จอกระจกใหญ่ๆหมดละ มันก็ห้ามตกกันหมดทุกรุ่น แต่ไอโฟนมันมีความเสี่ยงสองเท่า)
อาจเป็นเพราะคอนเซปต์มินิมอลดีไซน์กับความเป็นแอปเปิลมันค้ำคอก็ได้ แต่บางทีเรื่องเล็กๆพรรค์นี้ก็ทำลายประสบการณ์การใช้งานของหลายๆคนไปได้เหมือนกัน
แต่ผมก็ยังยกย่องแกเป็นหนึ่งในสุดยอดนักออกแบบในโลกปัจจุบันอยู่ดีนะ โดยเฉพาะในด้าน engineering process กับความใส่ใจในรายละเอียดของงานออกแบบตามปรัชญา minimalism
แต่ผมยอมรับการออกแบบของ MacBook Air นะครับ มันสุดยอดจริง ๆ กว่าเจ้าอื่นจะทำตามได้นี่ก็ล่อไปเกือบ 3-4 ปี ว่าแต่ Air นี่เป็นฝีมือเฮียแกหรือเปล่าหว่า?
อันนั้นก็น่าจะใช่แหละครับ เพราะแอปเปิลมีแกเป็นดีไซน์เนอร์คนเดียว (มั้ง)
air นี่ผมโคตรทึ่งเลยครับ มันเป็นการแสดงให้เห็นแสนยานุภาพในแง่วิศวกรรมของแอปเปิลแบบเต็มๆตาเลยก็ว่าได้
ทีมครับ มีนักออกแบบสาขาต่างๆกันในทีม
จริงๆผมก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับทีมออกแบบของแอปเปิลเลยนะ 55
minimalism หรือ simplicity ครับ ? (minimalism จนไม่ simplicity ก็ได้นะครับ)
เอาเข้าจริงผมก็ว่ายังไม่ถึงขั้น minimal นะครับ แต่ดูว่าแกยึดหลัก form follow function ในการออกแบบตามแนวทางของ Dieter Rams แล้ว ก็น่าจะถือว่าเป็นงานที่ยึดปรัชญา minimalism ได้เหมือนกันมั้งครับ
เม้าส์แกใช้นานๆแล้วปวดมือครับ