ในงาน SXSW 2012 บริษัทอเจนซีโฆษณาอย่าง BBH Labs ได้ทดลองแคมเปญใหม่ที่เปลี่ยนจะเปลี่ยนคนไร้บ้าน (Homeless) ให้กลายเป็น Wi-fi Hotspot
แคมเปญที่ว่านี้มีชื่อเต็มๆ ว่า Homeless Hotspot โดยทาง BBH Labs ร่วมมือกับองค์กรเพื่อช่วยเหลือคนไร้บ้านอย่าง Front Steps จัดการเปลี่ยนคนไร้บ้าน 13 คนแถบเมืองออสตินให้กลายเป็น Wi-fi Hotspot ด้วยการให้พก Mi-fi 4G เอาไว้ และสวมเสื้อยืดที่เขียนชื่อ พร้อมกับวิธีการเข้าถึง Wi-fi Hotspot ดังกล่าว โดยฝั่งคนไร้บ้านจะได้เงินบริจาค 2 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ 15 นาทีที่มีการใช้งานเครือข่าย
หลังจากที่แคมเปญนี้แพร่หลายไปในอินเทอร์เน็ตก็มีเสียงต่อต้านจากหลายฝ่ายทั้งว่าไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาคนไร้บ้านบ้าง หรือดูถูกความเป็นมนุษย์ของคนกลุ่มนั้นบ้าง จนทาง BBH Labs ต้องออกมาปฏิเสธพัลวันว่าแคมเปญดังกล่าวเป็นเพียงการทดลองโดยไม่มีการแสวงผลกำไร และปฏิเสธข้อมูลที่ว่าแคมเปญนี้จะถูกถ่ายทำเป็นรายการเรียลลิตีโชว์
...ว่าแต่คิดอย่างไรกับแคมเปญนี้กันบ้างครับ ?
ที่มา - BBH Labs, ReadWriteWeb, Wired
Comments
ผมไม่เถียงว่าเป็น idea ที่ดี
แต่มันไม่ค่อยเหมาะสมรึป่าว?
ยิ่งให้สวมเสื้อที่มีบอกว่าจะใช้ wifi ยังไงนี่ ยิ่งแล้วใหญ่
ยังมองเห็นคน เป็น "คน" อยู่รึป่าว
เราไปคิดแทนเค้าหมด ผมว่าคนไร้บ้านมันคงคิดในใจมึงคิดแทนกรูทำไม กรูอยากมีเงิน มันก็ไม่ต่างอะไรกับได้เป็น PR ที่ใส่เสื้อประชาสัมพันธ์เลย รายได้ก็โอเคเลยนะ
ยังมองเห็นคน เป็น "คน" อยู่รึป่าว !!!
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมมองเห็นเป็นป้ายโฆษณาเดินได้(ผมล้อเล่น)
อันนี่จริงคนเรามีสิทธิ์ที่จะคิดเองคับ ไม่มีใครมาบังคับให้ทำในสิ่งที่เจ้าตัวไม่ชอบหรอกคับ เหตุผลคนเรามีกันทุกคนแหละคับ แต่เหตุผลของเราอาจจะไม่ถูกใจคนอื่นก็เท่านั้นเอง บางทีเค้าอาจจะพอใจให้ทำแบบนี้ก็ได้นะคับ โลกมันไม่ได้สวยอย่างที่หลายคนจินตนาการไว้หรอกคับ ลองมองความเป็นจริงให้มากขึ้น ฟังผู้อื่นให้มากขึ้น คิดให้มากขึ้น อะไรหลายๆอย่างอาจจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่คับ
ระดับ Senna นี่ผมว่าเจ้าของแบรนด์น่าจะมองเป็นเทพนะ ได้ออกทีวีบ่อยเหลือเกิน
เขาก็ไม่ได้บังคับนี่ครับ
เข้าท่าดีออก win-win ด้วยซ้ำ สร้างงานอีกแบบนึง
คนขับรถขายไอติม = ตู้ไอติม ไม่ใช่คน?
พนักงานขายมิสทีน, ยาคูลท์ ฯลฯ = ตู้ขายของ ไม่ใช่คน?
คิดได้ยังไงเนี่ย!!!
สังคมส่วนใหญ่ เค้าพยายามจะหาที่อยู่ให้พวก homeless กัน
บางทีบริษัทโฆษณาก็พยายามจะทำอะไรที่แสบๆ คันๆ ขัดกับศีลธรรมเสมอ เพียงเพราะว่าต้องการเป็น talk of the town
หางานให้เขามีเงินไปซื้อบ้านเองจะดีกว่าครับ
I need healing.
งั้นลองนึกภาพตามนะครับ มีแคมเปญนี้เกิดขึ้นในเมืองไทย คุณและผมได้รับรู้ผ่านสื่อต่างๆ เข้าใจวิธีการใช้งาน ก็เลยไปเดินหาคนไร้บ้าน เพื่อใช้งาน wifi เพราะหวังว่าเค้าจะได้มีรายได้ หวังว่าจะช่วยเค้าได้ พอใช้งานเสร็จก็เดินจากไป คิดว่าเราได้ช่วยเค้าแล้ว
คุณคิดว่ามันแก้ปัญหาได้จริงๆ?
คุณคิดว่าเข้าใจหัวอกของเค้าในฐานะคนไร้บ้าน?
จบแคมเปญแล้ว?
คนไร้บ้านจะหมดไป?
หรือจะมากขึ้น?
มันไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้ ที่คุณจะทำได้?
ผมว่าเราบริจาคให้องค์กรอะไรก็ได้ ที่ออกหน้าว่าจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน จะให้หาที่อยู่ให้ หรือสร้างอาชีพ (ที่ดีกว่านี้) ให้เค้ามีรายได้ด้วยตนเอง จะให้คิดเงินบริจาคจากการใช้งาน internet ก็ได้
คุณคิดว่ามันจะดีกว่าหรือเปล่า? (ถ้าไหนๆ จะต้องบริจาคเงิน ก็เอาไปใช้แก้ปัญหามันตรงๆ น่าจะดีกว่า)
จริงอยู่ในเชิงปฏิบัติการณ์มันอาจจะดูวุ่นวาย มีหลายหน่วยงานที่ต้องเกี่ยวข้อง
แต่การเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้น มันไม่ได้ง่าย มันน่าจะต้องช่วยกัน เห็นใจกัน ไม่ได้ปล่อยให้เป็นภาระของใคร
จบแคมเปญ แค่คนไร้บ้าน 1 คนรู้ว่าเค้าต้องทำยังไงกับชีวิตต่อเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น แค่นี้ก็คุ้มแล้ว
ไม่ใช่เอาความเป็นอยู่ที่เลวร้ายของสังคมมาใช้ประโยชน์
หวังว่าจะเปลี่ยนโลก โดยไม่ทำอะไรเลย แล้วแถมไม่ได้แก้ไขอะไรสังคมแบบยั่งยืนอีกด้วย
จริงอยู่ หลายคนบอกว่ามันอาจจจะเป็นสิ่งที่เค้าเลือก อย่าไปคิดแทนเค้า
แต่ผมคิดว่า แล้วเค้าอยากเป็นคนไม่มีบ้าน?
ผมว่า ผมไม่ได้คิดแทน แต่ผมคิดถึงพวกเค้ามากกว่า
ผมคิดถึงสังคมของเรามากกว่า
(
ความคิดนี้เหมือนบอกว่า อาชีพเชล หรือ อาชีพนักกีฬาที่รายใด้มาจากการแปะโฆษณาบนเสื้อ ต่ำต้อยกว่าการวางขันขอเงินนะครับ
แล้วก็เหมือนกับบอกว่าทำป้ายแปะตามผนัง ดีกว่าสร้างงานให้คนกลุ่มนี้
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
คนละเรื่องกันนะครับ
อันนี้มันเป็นการแก้ไขปัญหาสังคมนะครับ ผมไม่ได้มองว่าอาชีพอะไรต่ำต้อย
ถ้าจะแก้ไขปัญหาสังคม มันน่าจะใช้วิธีที่ตรงไป ตรงมา มากกว่า
งั้นเปลี่ยนเป็น ... เค้าเป็น บ. ไม่ไช่สังคมสงเคราะห์นิครับ
จุดประสงค์หลักก็ต้องมีกำไร ส่วนการที่ทำให้คนกลุ่มนี้ใด้ส่วนแบ่งเป็นแค่น้ำใจ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
การแก้ไขปัญหาสังคมเป็นหน้าที่ของรัฐบาลไม่ใช่หรือครับ
นี่เป็นบริษัทเอกชน ร่วมกับ "องค์กรการกุศล" ที่มีจุดประสงค์การช่วยเหลือเป็นหลักไม่ใช่เหรอครับ
ถ้าจะพูดถึงประเด็นการแก้ไขปัญหา การจัดหาที่อยู่ที่พัก รัฐบาลต้องเป็นเจ้าภาพครับ คนละประเด็นกัน
ผมว่ามันเป็นงานที่ดีนะ ดีกว่าพวกขอทาน เดินมาขอค่ารถ หรือ นั่งนอนนิ่งๆ ตามสะพานลอย มันก็แค่งานโฆษณาอย่างหนึ่ง ถ้าไม่จำกัดว่าเป็น Homeless ผมยังอยากไปทำเลย แค่หาคนแล้วนั่งเล่น FB หรือ Blognone ดี ไปกับเขาด้วย lol
ผมว่าคุณมองไกลไปอะ คนที่ทำ Project เป็นบริษัทด้วย ไม่ใช่การกุศล ส่วนวิธีการถือว่าเหมาะสมแล้ว
ทำแบบนี้ดีกว่าดูก็ปล่อยไปเฉยๆ
โอเค ผมอาจจะลืมไปว่า เรากำลังพูดถึงบริษัทโฆษณาที่ทำแคมเปญงานโฆษณาชิ้นนึง
มากกว่า การทำอะไรเพื่อสังคมแบบยั่งยืน และจริงใจ
อันนี้เราต้องช่วยกันคิดครับ คุณลองคิดก็ได้ครับว่าควรทำอย่างไร
"การทำอะไรเพื่อสังคมแบบยั่งยืน และจริงใจ" อันนี้ผมไม่รู้ว่าคุณมองในแง่ไหน อาจจะเป็นแง่ที่ว่าหากจะช่วย ก็ควรให้เงิน หรือสร้างบ้านให้หรือเปล่าครับ
ผมมองกลับกันนะครับว่าแคมเปญนี้ถึงจะดูไม่จริงใจ(?) แต่มันคือการให้โอกาสเลี้ยงชีพที่คนไร้บ้านไม่เคยได้รับ และก็เป็นอาชีพที่สุจริต โอเคชื่อแคมเปญมันอาจจะดูแย่ แต่เนื้อแท้แล้วมันก็เป็นการช่วยอย่างหนึ่ง และสิ่งที่สำคัญก็คือ การได้รับโอกาสในการมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ครับ ผมเชื่อว่าคนไร้บ้านส่วนใหญ่ยินดีกับโอกาสนี้ที่พวกเขาได้รับครับ
คุณไม่ชอบที่แคมเปญนี้เกิดขึ้น ส่วนผมไม่ชอบที่ทำไมไม่มีใครลงมือทำอะไรเลย ทำไมมีแต่คนบ่นว่านู่นไม่ดี นี่ไม่ดี พอมีคนทำหน่อยแต่ไม่ได้เลิศหรูก็โดนต่อว่า แล้วต่อไปนี้ใครมันคิดจะลงมือทำครับ
ขอบคุณ link ของคุณ MrShin ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ถ้าแคปเปญแสวงผลกำไรที่ว่านั่น มันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน และมีผลดีกับคนแม้สัก 1 คน ก็ควรทำครับ
ผมชอบนะโครงการนี้ ไม่ได้เป็นการบังคับ ซึ่งนั่นเท่ากับว่าเค้ารู้่ว่าเค้าต้องการอะไรเค้าเข้ามาด้วยความสมัครใจเอง ไม่ใ่ช่เราเอาความคิดไปยัดเยียดให้ฝ่ายเดียว ส่วนเรื่องที่ว่าแก้ปัญหายั่งยืนอันนั้นผมว่าหลายๆ คนก็น่าจะคิดอยู่เหมือนกันและมีคนที่ทำตรงนี้อยู่แล้ว แต่ว่าทำไมมันก็ยังแก้ปัญหาแบบยั่งยืนอะไรแบบที่คุณว่าไม่ได้ กำลังคนไม่พอ? กำลังทรัพย์ไม่พอ? ผมว่าคนปกติส่วนใหญ่คิดได้ครับแต่ไม่ได้ทำ จะให้ไล่แก้ตรงไหนล่ะ เริ่มไล่แก้กันตั้งแต่ทัศนคติกันรายบุคคลเลยไหม
กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงคนเราในโลกนี้มีความคิดที่ต่างกันหลากเหตุผล ต่อให้คุณพยายามลดคนไร้บ้านไปหนึ่งคน มันก็ต้องมีคนใหม่ๆ มาแทนเสมอ ถ้าจะทำให้ได้แบบที่คุณว่าผมว่าอีกร้อยปีก็ไม่รู้จะได้เห็นหรือเปล่า
ที่ผมนับถือและยกย่องโครงการนี้เพราะเค้าคิดและทำมันออกมาได้จริงและสอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบันครับ แม้จะไม่ได้ช่วยอะไรมากมายแต่มันก็มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าตัวองค์กรต้องการอะไร
เข้าใจคิดนะครับ คิดได้ยังไง
ผมว่ามันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย อย่างน้อยคนไร้บ้านคนหนึ่งที่ปกติไม่มีคนสนใจหรืออาจจะรังเกียจด้วยซ้ำ ก็จะกลายเป็นจุดสนใจมากขึ้น ดูมีคุณค่ามากขึ้น
แต่ถ้าเอาไอเดียนี้มาใช้ในเมืองไทย คนไร้บ้านคนนั้นคงเอา Mi-Fi นั้นไปขาย หรือไม่ก็โดนขโมยทุบหัวขโมย Mi-Fi ไป
สำหรับคนไร้บ้าน การมีรายได้ไม่ต่างจากพระเจ้ามาโปรด
สำหรับบริษัท ได้โฆษณา ทดลองผลิตภัณฑ์
สำหรับคนภายนอกที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ช่วยอะไรคนไร้บ้าน มันคือการดูถูกความเป็นมนุษย์
ถ้ายังไม่มี แนวทางจะช่วยเหลือคนกลุ่มนั้น และ ถ้าเหล่าคนไร้บ้าน เหล่านั้นเต็มใจ ผมเห็นด้วยครับ
ใช่ครับ ถ้าคนเหล่านั้นเขาเต็มใจ ไม่ได้โดนบังคับ ก็ไม่ควรไปคิดแทนพวกเขา
+1 เลยครับชอบตรงคำพูดนี้เลย "ไม่ควรไปคิดแทนพวกเขา"
มองในแง่นึง มันก็ไม่ต่างจากการที่รถยนต์ชาวบ้านติด sticker โฆษณารอบคันนะครับ บ้านเราก็มีรู้สึกถ้าขับผ่านถนนเส้นหลักๆทุกวัน จะมีรายได้เดือนละ 3-5พันบาท(แต่stickerนี่ติดรอบคัน ยังกับรถเมล์เลยนะ) ก็เห็นมีคนยินยอมพร้อมใจสมัครกันเต็ม?
อย่างงี้คนใช้ wifi จะรู้สึกยังไง อู้วๆๆ มีคนไร้บ้านอยู่ใกล้ๆนี้เอง มาต่อ wifi กันเถอะเหรอ
โดยหลักการแล้ว ผมเห็นด้วยนะครับที่จะให้คนไร้บ้านเหล่านี้ ได้มีรายได้ ได้อย่างน้อยก็พยายามพึ่งตัวเองบ้าง ไม่ใช่แบมือรอคนอื่น ไม่ว่าจะนั่งขอทาน หรือรัฐบาล Support โดยการให้ที่อยู่อาศัย ให้เบี้ยยังชีพ ผมมองว่าตราบใดที่เค้ายังยืนด้วยตัวเองไม่ได้ ให้เงิน ให้ที่พักไป แต่ไม่สอนว่าจะยืนด้วยตัวเองยังไง ก็เหมือนให้ดื่มยาพิษ แก้กระหายนั่นละ มีแต่จะทรุดลงไปทุกวัน ไม่รู้จักพยายามพึ่งพาตัวเอง เอาตัวเองให้รอดให้ได้
แต่โดยวิธีการแล้ว ไม่ค่อยจะเห็นด้วยซักเท่าไหร ถ้าเปลี่ยนเป็นยกป้าย แทนที่จะใส่เสือเอา จะได้ใจกว่านี้ และลดแรงเสียดทานทางสังคมไปเยอะเลยครับ
ในแว่บแรกผมก็ว่ามันแปลกๆ นะครับ
แต่พอมาคิดดูแล้ว มันก็เป็นมองเป็นหนึ่งใน "งานบริการ" นะครับ
ก็คือเค้าให้บริการเชื่อมต่อ wifi โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงิน
ฟังดูคล้ายๆกับ คนที่รับเติมเงินมือถือบ้านเรา
ที่รู้สึกไม่เหมาะสม เพราะเรามองว่าเค้าเป็นคนไร้บ้านหรือเปล่าครับ
ถ้ามองในแง่ของคนที่เท่าเทียม และมีสิทธ์ในการทำมาหากินเหมือนกับเรา
ผมว่ามันก็โอเคนะ
+1 จริงๆ แล้วมันก็คือ "งานบริการ" อย่างหนึ่ง เพียงแต่ประเด็นที่สังคมอ่อนไหวกันไปเอง ก็คือ ผู้ให้บริการ เป็นคนไร้บ้าน ซึ่งผมก็ไม่ค่อยแปลกใจ เพราะสังคม มักจะ "อ่อนไหว" ในประเด็นแปลกๆ ถ้าเรื่องนั้นเกี่ยวข้องกับ "ผู้ด้อยโอกาส"
ถ้าแคมเปนนี้ ให้ใครก็ได้มาทำ ผมว่ามันจะไม่เกิดข้อถกเถียงอย่างนี้ขึ้นมาเลยนะเนี่ย ดังนั้น มันก็แค่ ความคิดว่า "คนไร้บ้าน" แตกต่างจากคนปกติ ไม่ต่างจากที่สังคม ชอบใส่มายาคติแปลกๆ ให้กับคนพิการ อะไรประมาณนั้นแหละครับ
ผมก็คิดเหมือนหลายๆ คนนะ ว่าถ้าตัวผู้ให้บริการเขายอมรับเงื่อนไข ของการให้บริการได้ ทำไมเราจะต้อง "ไปคิดแทน" เขาล่ะ อย่างนี้มันเป็นการดูถูก การตัดสินใจของคนไร้บ้านซะเองหรือเปล่า ซึ่งการไปดูถูกการตัดสินใจของเขา ผมว่าน่ารังเกียจมากกว่าที่บริษัทนี้ออกแคมเปนนี้อีกนะ :P
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
Homeless ปล่อยบ้านให้เช่าแล้วออกมาอยู่ข้างนอก อิอิ
ผมว่าทำไรก็ทำเถิดครับ ความคิดที่ว่าดูถูกความเป็นมนุษย์นั่นแหละ ที่ดูถูกความเป็นมนุษย์เสียเอง
แต่ต้องมาดูอีกทีด้วย ว่าแบบนี้ช่วยแก้ปัญหาได้จริงๆหรือเปล่า ยั่งยืนหรือเปล่า ถ้าคนไร้บ้านจำนวนหนึ่ง และเป็นจำนวนน้อยมีรายได้ แต่อีกพวกหนึ่งไม่ได้ จะเกิดการกระทบกระทั่งกันหรือเปล่า ยิ่งติดป้ายหราเดินไปมา ตกเป็นเป้าได้ง่ายดาย
อย่างน้อยผมว่าก็ยังดีกว่าที่เค้าจะอยู่อย่างไม่มีรายได้นะ
แจ่มครับ เป็นความคิดที่ดีมาก และ ที่สำคัญเค้าก็เต็มใจนิครับ ถ้าจะบอกว่าทำอย่างกับพวกนั้นไม่ใช่คน ผมว่าคุณลองมองใหม่ว่า เค้าคือคนที่มี internet มาแบ่งปันพวกเราดีกว่านะครับ ^^ และ งานนี้ก็ไม่ได้ทำฟรีๆด้วย ได้ตังนิ 15 นาที 2 เหรียญ ชั่วโมงนึง ได้ 8 เหรียญ แล้วนะครับ (ประมาณ 250 บาท) คิดดู วันนึงได้เป็นพันแล้วนะครับ แค่ อยู่เฉยๆ ^^ และ ถ้าเค้าเก็บตังเป็น รู้จักประหยัดละก็ อนาคตก็เช่าบ้านได้เลยละด้วย และ ไม่แน่อาจจะเอาไปลงทุน หรือ หางาน ประกอบอาชีพแบบคนทั่วไปก็ได้ครับ ถือเป็นการสร้างโอกาสให้เลยนะครับ ปล.ผมเห็นแล้วยังอยากเข้าร่วมเลย 55+ เอาโน๊ตบุ๊คเล่นเน็ตไป แล้ว แชร์เน็ตให้คนอื่นไปเรื่อยๆ วันนึง ได้ เป็นพัน หุหุ สบายๆ
มุมมองที่ต่างกัน
ฝ่ายแรก มองว่า การกระทำแบบนี้ เหมือนให้คนไร้บ้าน เป็น "เสา"
ฝ่ายที่สอง มองว่า การกระทำแบบนี้ เหมือนให้คนไร้บ้าน เป็น "พ่อค้าเร่"
ผมมองแบบที่สอง
เป็นความลงตัวทางธุรกิจ อาศัยรูปแบบการใช้ชีวิตที่ มีกระจายลงไปในพื้นที่อย่างกว้างขวาง
เป็นอาชีพที่มีศักดิ์ศรี มากกว่าขายความน่าสงสาร ขอทาน หรือขู่เข็ญทางอ้อมด้วย
การก่อกวนให้รำคาญ หรือทำลายความเป็นส่วนตัว
+1
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
โอ้วววว อย่างนี้ถ้าจะเล่นเน็ทต้องเดินตามไหมครับบบ
ผมว่าคนที่ดูถูกความเป็นมนุษย์ คือการตัดสิทธิทางความคิดและการตัดสินใจของผู้อื่นมากกว่านะครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
อย่ามองภาพ Homeless บ้านเค้า เหมือน Homeless บ้านเรานะครับ
Educational Technician
ใช่ครับ บ้านเค้าเป็นแบบนี้กัน :P
http://www.youtube.com/watch?v=Vr8Ib6OWv-E
ถ้าคิดในด้านบวก คนไร้บ้านอาจจะได้เงินจากการแจก WiFi ก็ได้นะ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
แนวคิดดี แต่ไปติดตรงที่ใช้กับคนไร้บ้าน
ถ้าเปิดให้ใครก็ได้มาทำงานนี้ ทั้งคนว่างงาน นักศึกษา รวมทั้งคนไร้บ้าน น่าจะไม่มีใครต้าน
+1 นิดเดียวจริงๆ ถ้าให้ใครก็ได้มาทำก็จบแล้ว
ผมว่าแคมเปญนี้เหมาะกับคนไร้บ้านตรงที่เพราะเขาไม่ได้มีบ้านครับ เพราะนักศึกษา คนว่างงาน มีบ้าน แล้วใครจะได้ใช้ MI-FI 4G ตัวก็ไม่ใช่ถูกๆนะครับแจกแล้วไม่เกิดประสิทธิภาพก็ขาดทุนเปล่าๆ
หรืออยู่ๆก็ให้เงินหละครับ
ผมว่ามันดูถูกมากกว่าทำงานอีกนะ
การที่คุณให้เงินขอทาน คุณก็ดูถูกคนเหมือนกันนั่นแหละ คนที่เห็นใจคนอื่นคือคนที่หาช่องทางให้เค้าหลุดพ้น ไม่ใช่เลี้ยงให้เค้าอยู่สภาพเดิม
คนไม่มีบ้าน ไม่ใช่ขอทานเสมอไปน่ะครับ
+1 นักพจญภัย เห็นโลกคือบ้าน
เหมือนเค้าก็กำลังขายสินค้าอยู่นะครับ เพียงแค่สินค้าที่ขายคือสัญญาณเครือข่าย ไม่ใช่ขนมลูกอม หรือล็อตเตอรี่
ไม่เห็นแปลกอะไร
เปลี่ยนวิธีคิดเป็นว่า บริษัท internet provider จ้างพนักงาน มีข้อแม้คือต้องไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง เพื่อที่จะช่วยสร้างอาชีพให้คนเหล่านี้ โดยมีหน้าที่คือให้บริการ internet แก่คนทั่วไป อาจจะมีเงินเดือนขั้นต่ำ bonus ตามชั่วโมงที่คนเข้ามาใช้
แคมเปญนี้ช่วยเหลือคนไร้บ้านครับ แต่ไม่ได้ช่วยให้คนไร้บ้านกลายเป็นคนมีบ้าน
ที่อยากรู้คือเคยถามคนไร้บ้านหรือยัง ว่าเขาชอบไหม? ทุกวันนี้ที่เขาต้องนั่งมาเป็นขอทานมันไม่ได้ทำให้ human integrity ตกลงไปกว่าการให้บริการ Wi-Fi?
@TonsTweetings
+32768 สำหรับคนที่บอกว่ามันไม่ช่วยให้คนไร้บ้านมีบ้าน ผมอยากรู้ว่าทำยังไงถึงจะมีบ้านครับ - -?
"ทุกวันนี้ที่เขาต้องนั่งมาเป็นขอทานมันไม่ได้ทำให้ human integrity ตกลงไปกว่าการให้บริการ Wi-Fi?" ทำให้คิดถึงพวกขอทานในเกมออนไลน์เลย
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ต้องซื้อบ้านให้เลยมั้ยครับ
มนุษย์เงินเดือนบางคนก็ยังเกาะพ่อแม่ อยู่บ้านพ่อแม่
บางคนก็เช่าเค้า
ไม่ให้เงินเค้าไปเช่าบ้าน ก็ต้องให้องค์กรสร้างให้ฟรีๆเลยใช่ปะ
ในมุมมองของคนไร้บ้าน ผมคิดว่าพวกเค้าอยากทำแน่นอน คนที่ไม่มีจะกิน เค้าไม่มาเซ้นซิทีฟกะเรื่องแบบนี้หรอก
เข้าสโลแกน "ทำตัวดัดจริต ชีวิตอดตาย"
http://www.businessinsider.com/this-guy-is-homeless-but-hes-getting-geeks-at-sxsw-to-pay-him-for-wi-fi-2012-3?utm_source=dlvr.it&utm_medium=social&utm_campaign=sai
อันนี้เป็นบทสัมภาษณ์ Homeless คนหนึ่งที่มาเข้าร่วมโครงการครับ ดูเค้าก็มีความสุขดี และมองว่านี่เป็นงานบริการ
ก็แค่ทำงานแลกเงินนี่ครับ เรื่องปกติ
รักนะคะคนดีของฉัน
ผมมองว่า ทำแบบนี้ยังดีกว่าไปขอทานนะ (ถ้าเป็น Wi-Fi Hotspot แล้วเป็นขอทานไปด้วยนี่ มีรวย) ทำตัวให้มีประโยชน์ แถมยังได้ตัง แต่ที่ว่าเสียศักดิ์ศรี ผมมองว่า การเป็นขอทานมันเสียมากกว่า ยังไงก็แล้วแต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้คนไร้บ้านได้มีบ้านตรงไหน เหมือนสนับสนุนให้เขาไร้บ้านต่อไปมากกว่า - -"