ช่วงหลังซัมซุงบุกตลาดโน้ตบุ๊กในบ้านเรามากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากโน้ตบุ๊กรุ่นถูกที่เจาะตลาดล่างแล้ว ก็มีโน้ตบุ๊กตระกูล Samsung Series ออกมาจับตลาดกลางถึงบนอย่างต่อเนื่อง
ที่เคยรีวิวไปแล้วบน Blognone ก็มี Series 9 ตัวท็อป และ Series 7 ที่เน้นความแรงอีกสักหน่อย
คราวนี้เป็นคิวของ Series 5 Ultra ซึ่งเป็น ultrabook ตัวแรกของซัมซุงครับ
Series 5 Ultra เปิดตัวในเมืองไทยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ (ทดลองจับ Samsung Series 5 Ultra รุ่น 13 และ 14 นิ้ว โดยคุณ Blltz) ตัวที่ผมได้มารีวิวเป็นรุ่น 13.3" ราคาอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 30,900 บาท
สเปกเบื้องต้นของรุ่นนี้คือ
สำหรับรุ่น 14" จะได้จอใหญ่ขึ้น, การ์ดจอ Radeon, เพิ่มฮาร์ดดิสก์เป็น 1TB, ไดรฟ์ดีวีดี อย่างอื่นเหมือนกันหมด
ถ้า Samsung Series 7 ถูกเปรียบเทียบว่าหน้าตาเหมือน MacBook Pro ตัว Series 5 นี้คงหนีไม่พ้นการเทียบกับ MacBook Air แน่ๆ (คือมันมีส่วนที่ต่างไปบ้าง แต่โดยรวมเหมือนมาก สุดท้ายคงมี Series 9 ที่ดูแตกต่างมากที่สุด)
ขนาดของตัวเครื่องถือว่าค่อนข้างบางเมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กสายนี้ (ดูจากรูปมันจะไม่ค่อยบางเท่าไรนะครับ แต่ลองจับแล้วบางจริง)
พอร์ตเชื่อมต่อด้านซ้ายมือก็มีสายชาร์จ, ช่องเสียบสายแลน (บานพับเปิดได้), USB 3.0 สีฟ้า, HDMI, ไมโครโฟน-หูฟัง, Micro USB สำหรับต่อจอนอก VGA (มีหัวแปลงมาให้ในชุด)
ด้านขวามือจะมีพอร์ตน้อยกว่าหน่อย คือ USB 2.0 สองพอร์ต และช่องเสียบ SD ที่มีตัวปิดช่องมาให้
หัวแปลง Micro USB เป็น VGA มีมาให้ในกล่อง ใช้งานได้โอเคไม่มีปัญหา อาจจะแลกกับความไม่สะดวกสบายอยู่บ้างเมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กที่มี VGA ในตัว แต่ได้ความบางกลับคืนมาแทน
เท่าที่มีข้อมูลการดีไซน์ ฝาหลังและที่รองมือจะเป็นอลูมิเนียม จุดที่ผมติคือน้ำหนักที่ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับหน้าตา ยกด้วยมือเดียวแล้วจะรู้สึกหนัก ตอนถือเดินไปมารู้สึกว่าหนักกว่าที่ควรจะเป็นพอสมควรสำหรับโน้ตบุ๊กสาย mobility (คือบางจริงแต่หนักเกินควร)
คีย์บอร์ดเป็นปุ่มแบบชิคเล็ตตามสมัยนิยม ปุ่มค่อนข้างตื้นกดแล้วอาจจะเมื่อยมืออยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาอะไรจุกจิกมากนัก
ข้อด้อยของคีย์บอร์ดเท่าที่ลองใช้มา (บทความรีวิวตอนนี้ก็เขียนบน Samsung Series 5)
ลำโพงวางอยู่เหนือคีย์บอร์ด เสียงกระหึ่มดังดีมาก ถือเป็นโน้ตบุ๊กที่เสียงดังตัวหนึ่งเท่าที่เคยลองมา ดีกว่าพวกที่เอาลำโพงไปซ่อนไว้ใต้เครื่องหรือใต้คีย์บอร์ดมาก
ทัชแพดออกแบบสวนกระแสนิยมคือยังมีปุ่มแยกอยู่ (ซึ่งดีมาก) ไม่สามารถคลิกลงไปทั้งอันได้ โดยรวมใช้งานได้ดี ต่างไปจาก Series 7 ที่ทัชแพดห่วยแตกมาก
ไฟ LED indicator อยู่ตรงมุมซ้ายล่าง ขอบที่รองมือ การออกแบบนี้อาจดูยากไปสักหน่อยเพราะบางทีมือเราบังครับ
ข้อติอีกอย่างของโน้ตบุ๊กทรงแหลมๆ แบบนี้คือ ขอบล่างที่ออกแบบให้แหลมเพื่อให้ดูบางมันจะคม วางมือแล้วไม่สบายเท่ากับโน้ตบุ๊กขอบหนาๆ
เอ้อ คีย์บอร์ดของตัวนี้จะไม่มี backlight เหมือนกับ Series 7 นะครับ
อย่างแรกคือจอภาพสว่างมากถ้าเปิดสุด 8 ขีด (ตามสเปกบอก 300 nit) ในการใช้งานปกติผมใช้ 6 ขีดในห้องสว่าง และ 5 ขีดในห้องมืดครับ
จอเป็น anti-glare ลดแสงสะท้อนได้สมราคาคุย (จอกระจกควรหมดไปจากโลกได้แล้ว!) แต่ที่เป็นปัญหาแบบไม่คาดคิดคือระยะระหว่างจอภาพกับคีย์บอร์ด เวลาพับหน้าจอมันติดกันเกินไป ทำให้รอยคีย์บอร์ดเปื้อนบนจอได้ง่ายมากๆ)
ส่วนปัญหาอีกอย่างคือบานพับหน้าจอกางได้ไม่เยอะนัก ทำให้การใช้งานบางท่าอาจไม่ค่อยสะดวก (เช่น วางตักแล้วงอเข่า) เพราะระดับการเอียงของจอจะไม่พอดีกับสายตา
ผมไม่ได้ทดสอบอะไรจริงจังมากนักนะครับ ดูตัวเลขจาก Windows Experience Index ไปแทนละกัน
ข้อดีอีกอย่างของโน้ตบุ๊กตัวนี้คือ ExpressCache ที่มี SSD 16GB ทำหน้าที่บัฟเฟอร์ช่วยฮาร์ดดิสก์ขนาด 500GB ด้วย ทำให้ตอบโจทย์ทั้งความจุและความเร็ว เท่าที่ลองใช้งานก็พบว่าการบูตเครื่องและการปลุกให้ตื่นนั้นรวดเร็วดีมาก (อาจจะเป็นรองพวก SSD อย่างเดียวไปบ้างแต่ไม่มีนัยยะสำคัญต่อการใช้งาน)
แบตเตอรี่ไม่ได้ทดสอบละเอียด เท่าที่ลองใช้คร่าวๆ คือเปิด Wi-Fi และตั้งความสว่างหน้าจอ 5/8 อยู่ (น่าจะเป็นรูปแบบการใช้งานของคนทั่วไป) ได้ประมาณ 4 ชั่วโมงครับ
ข้อดี
ข้อเสีย
ใครสนใจ ultrabook ก็ลองพิจารณากันดูได้ครับ
Comments
MacBook Air กลายพันธุ์อีกละ แต่สวยกว่า Dell เยอะ
เห็นด้วยครับ
เอ่อ Micro USB รึเปล่าครับ?
ว่าแต่มุขนี้คุ้นๆ แต่ก็คุ่มนะผมว่า มันได้ VGA แต่รักษาความบางไว้ด้วย
Dream high, work hard.
จริงด้วยครับ ชื่อมันซ้ำๆ กันชวนสับสน แหะๆ
ข้อเสีย "หน้าตาเหมือน MacBook Air มาก"
ฮาาา..
น่าตีก้นทีมออกแบบเนอะ ที่สำคัญจอกว้างตั้ง 13.3 แต่ความละเอียดมีแค่กระจึ๋งเดียว เห้ออออ
น่าสงสัยว่าบริษัทนี้ไม่มีทีมออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นของตัวเองหรืออย่างไร คราวลอก iPhone ก็ทีนึงละ ฮาๆ
วีดีโอนี้รวมความพอสมควรครับ...
http://www.youtube.com/watch?v=ieohphC1g0A&feature=player_embedded
+100 การ์ตูนสุดรัก oneprice , pokemon ....พอรู้งี้รับไม่ได้เลย -_-
+1 ขอบคุณครับ ได้รู้ความจริงที่น่าตกใจหลายๆ อย่างเลย ?!
+10000000 วีดีโอนี้สุดยอดจริงๆเลย
ผมว่าเพราะเขาก็อปจนทำเป็นนี่แหละเลยไปไว ไม่เหมือนบ้านเราพูดซะเยอะมากกว่าลองทำเลยไม่ไปไหนกลายเป็นแรงงานของประเทศเจริญอีกทีทั้งๆที่คนเก่งก็มากมาย
บ้านเราไม่ชอบก็อปใครครับ
แต่ชอบซื้อของก็อปมาใช้ :P
เพิ่งสังเกตุเห็นว่า ฮุนได มาจาก ฮอนด้า
ถ้าไม่เทียบกันก็ดูไม่ออกจริงๆ เนียนมาก
(รูปนี้ถ่ายมาจากหนังสือ เมื่ออนาคตไล่ล่าคุณ)
ไม่รุ้เหมือนกันว่าจริงเท็จยัง แต่ดูเหมือนว่าแต่ก่อนญี่ปุ่นก็ก๊อปเหมือนกัน จะเจริญได้ก็คงต้องก๊อปกันก่อนละคับ
ปล.ผมก็แฟนบอยญี่ปุ่นเหมือนกัน ซื้อของญี่ปุ่นใช้ของญี่ปุ่น (รอ Xperia S อยู่ด้วย 55+)
もういい
จริงครับ เมื่อก่อนญี่ปุ่นก็ก็อปหลายๆอย่างจากฝั่งตะวันตกเหมือนกัน
เลือกไม่ถูกเลยว่าจะเอาค่ายไหน (ราคา 30,000+-3,000)
keyboard layout มัน macbook air 11" ชัดๆเลยครับ
ไม่รู้นะครับว่าทุกคนเป็นแบบผมหรือเปล่า พวกอุปกรณ์ที่ทำจากอลูมิเนียม หรือเหล็กพวกนี้ มีไฟฟ้าสถิตมากพอที่จะทำให้สะดุ้งไปเลย ไม่รู้ว่ากระแสไฟฟ้าที่บ้านผมวิ่งแรงไปไหม ขนาดเสียบ USB กับคอมยังช็อคเลย ..เสียวๆๆ
ลองตรวจสอบการเดินระบบไฟฟ้าในบ้านครับ สาย Line กับ Neutron ต้องต่อให้ถูกต้องน่ะครับ
Ground ของระบบไฟฟ้าในบ้าน ต้องมั่นใจว่าลงดินแน่ๆ และต่อถูกต้อง ครับ
ภายในบ้านหากอากาศแห้งมาก อยู่ในห้องแอร์ ก็มีโอกาสเกิดไฟฟ้าสถิตย์ได้มากครับ ... รวมทั้งมีพวกผ้าหรือวัสดุที่ก่อให้เกิดไฟฟ้าสถิตย์ได้ง่าย ครับ ...
หนักครับ
ปล.keyboard layout ถอดแบบจาก MBA มาเลยแฮะ
อยากรู้วันและราคาจำหน่าย (ในไทย) ของ Samsung galaxy note 10.1 มั๊ก ๆ
ข้อเสียฝั่งวินโดส์ผมว่า ทัชแพช ยังไม่ดีเท่าฝั่ง Apple
อยากให้เอามาวางเทียบกับ MacBook Air จัง
ต้องหาซื้อ CD External สำหรับจอ 13 ยกเว้น จอ 14 แถมมาให้ใช่ไหมครับ :)
ผมดูแล้วไม่เหมือน MacBook Air แฮะ ของ DELL ยังดูเหมือนกว่าเยอะเลย
ก๊อปแซงหน้าจีนไปแล้ว
ถ้าบอกว่าลอกหน้าด้านๆ จะแรงไปไหม