By: Blltz 
on 5 May 2012 - 10:29
Tags:
ไม่มีใครปฏิเสธว่าแอพบน iOS นั้น ณ ปัจจุบันถือว่ามีความน่าสนใจ และน่าจับตามองที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งด้วยกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่นักพัฒนาส่วนมากเลือกที่จะพัฒนาแอพลงบน iOS ก่อน และในขณะที่จำนวนแอพมีแต่จะมากขึ้นเรื่อยๆ แอพชื่อดังที่เราคุ้นหูกลับมาจากบริษัทหน้าเดิมๆ หรือแอพที่มาจากบริษัทชื่อดังอยู่แล้ว จนน่าสงสัยว่านักพัฒนารายเล็กๆ นั้นสมควรจะมาลงเล่นในตลาดนี้หรือไม่
จากผลการสำรวจของ app promo บริษัทการตลาดแอพพลิเคชันที่ได้ไปสอบถามนักพัฒนาแอพบน iOS ได้ข้อมูลว่าแอพกว่า 59% นั้นไม่ทำกำไร และนักพัฒนาถึง 80% ระบุว่าไม่สามารถประคองธุรกิจให้อยู่รอดได้ด้วยการทำแอพเพียงอย่างเดียว
ถ้าหากตัวเลข 59% นั้นยังดูน่ากลัวน้อยไป ยังมีคำพูดจากนักพัฒนาบางคนที่บอกว่าตัวเลขแอพขาดทุนควรจะสูงถึง 85% หรือเกิน 90% ด้วยซ้ำ
นักพัฒนาหลายคนที่ให้ข้อมูลกับทาง app promo ว่าแอพบน iOS ถูกตั้งความคาดหวังไว้ว่าเป็นแอพคุณภาพสูง แต่ก็ถูกกำแพงของราคากดไว้ต่ำเพียง $1 เท่านั้น ในขณะเดียวกันที่มีแอพหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมากมาย พื้นที่ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายแอพได้อย่าง Feature Apps, Top 100-200 กลับมีน้อย และยิ่งเพิ่มช่องว่างระหว่างแอพขายได้ กับแอพขายไม่ได้ให้มากยิ่งขึ้น
ช่วงท้ายของรายงานระบุว่าแอปเปิลควรปรับปรุง App Store ให้รองรับระบบเดโมที่ดีขึ้น (อาจเป็นเหมือน Windows Phone) การค้นหาแอพที่แม่นยำกว่าเดิม และทิ้งท้ายว่านักพัฒนาควรสนใจเรื่องการตลาด และประชาสัมพันธ์แอพให้มากขึ้น
อย่าลืมรายงานชิ้นนี้ออกมาจากบริษัทการตลาดนะครับ ใครสนใจรายงานแบบเต็มสามารถดาวน์โหลดฟรีได้จากที่นี่เลย ท้ายข่าวมี infographic เกี่ยวกับรายงานนี้ด้วยครับ
ที่มา - ars technica
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
^
^
that's just my two cents.
แปลกแอฟบางตัวอย่างiblacklistยังติดtopได้ แต่แอฟดีๆที่Devหลายๆคนตั้งใจเขียนไม่ผ่านซักที (- -" )
สถิติคล้ายกับธุรกิจมีความเสี่ยงทั่วไป 10% สำเร็จ ที่เหลือไม่รอด
My blog
อย่าว่าแต่ทำกำไรเลย เอา submit app แล้วรีวิวให้ผ่านก่อนยังเหนื่อย
การทำ Apps เราต้องมองในมุมมองว่า เราไม่ได้ทำเพื่อให้เราเองได้กำไรมากที่สุด แต่เราต้องทำเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้และเสริมสร้างประสบการณ์ในการใช้งานมากยิ่งขึ้น การทำธุรกิจซอฟแวร์ถือว่ามีต้นทุนในการดำเนินการต่ำ เมื่อเทียบกับต้นทุนในธุรกิจอื่นๆ แต่สิ่งที่จะทำให้ประสบผลความสำเร็จได้นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ใครๆก็สามารถได้รับกันได้ การที่เราสามารถรับรู้ถึงความต้องการของลูกค้าก่อนตัวลูกค้าเองจะรู้ตัวนั้นจะทำให้ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทนั้น สามารถที่จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ได้
ช่องทางในการหารายได้มีจำนวนมากซึ่งขึ้นอยู่กับบริบทที่มีรายละเอียดที่ซับซ้อน การเลืองลงในที่ที่เหมาะสมที่สุด เป็นสิ่งสำคัญ การดำเนินธุรกิจทุกธุรกิจไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถที่จะเข้าใจเรื่องนี้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งมันขึ้นอยู่กับองค์ประกอบจำนวนมาก
ถ้าหากว่า Apps ที่ออกมานั้น เป็น Apps แนวกระแสแฟชั่น นั้นก็หมายถึงคู่แข่งสูง ดังนั้นแล้วเราก็ต้องสร้างสิ่งที่ดีที่สุดหรับลูกค้า ในแง่การปฏิบัติจริง การดำเนินการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆไม่ใช่เรื่องง่าย มันต้องสะสมระบบความคิดทั้ง 10 มิติ และผู้ที่รักในการสร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้จะประสบผลความสำเร็จในวันนึง
เห็นด้วยอย่างที่สุดครับ
+1 ^_^
ขอบคุณ คุณ crusio และ คุณ SaMzAn ครับ
คุ้นๆแฮะ คุณ MSPS4U รึเปล่าครับ
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ใช่จ้า
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ไม่เห็นด้วยในประเด็นธุรกิจซอฟท์แวร์ต้นทุนดำเนินการต่ำครับ ลองคำนวณเงินเดือนของคุณ (ถ้าคุณเป็น programmer) เล่น ๆ ก็ได้ว่า ถ้าจะทำ app ให้สำเร็จ ใช้เวลาขนาดไหน คนเดียวทำไหวไหม เบ็ดเสร็จแล้วเป็นเท่าไร แล้วจะรู้ว่าต้นทุนดำเนินงานน่ะสูงมาก แต่โอกาสของธุรกิจนี้ก็คือ ถ้าติดตลาดแล้ว มันจะ copy ได้ ซึ่งหมายถึงหากขายได้เลยจุดคุ้มทุนไปแล้ว จะกำไรต่างหากล่ะครับ
เอ่อ... เค้าหมายความว่าต่ำกว่าเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆรึเปล่าครับ (รอเค้ามาชี้แจงอีกทีเนอะ ^ ^)
ธุรกิจโดยเฉลี่ยมีต้นทุนแรงงานประมาณ 30% แต่เมื่อเทียบกับธุรกิจซอฟท์แวร์ ที่ต้นทุนเกือบทั้งหมดเป้นต้นทุนทางแรงงาน ถ้าเทียบกัน ธุรกิจซอฟท์แวร์มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า 70% เพราะต้นทุนอื่นๆมีปัจจัยต่ำ แต่หลังๆมานี้ต้นทุนการโปรโมทเริ่มมีความสำคัญเยอะขึ้นมาก ถึงในไทยจะยังไม่เท่าไหร แต่ในต่างประเทศอย่างญี่ปุ่น แอพกับเกมมือถือทุนต่ำมีโฆษณาทางทีวีกันแล้ว ตลาดนี้เริ่มไม่ง่ายสำหรับมือสมัครเล่นเหมือนเมื่อก่อนที่เขียนแอพโฆษณาทางเน็ทผ่าน search engine หรือ blog เหมือนแต่ก่อน
เห็นด้วยครับ
เมื่อวงการเทคโนโลยีมาถึงจุดนึง ความสำคัญของ software จะมากกว่า hardware ซึ่ง ณ เวลานี้เราได้มาถึงจุดนั้น แต่เมื่อเทคโนโลยีได้ก้าวหน้าขึ้นไปอีก ความสำคัญของ Content จะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบต่างๆมากมาย ซึ่งเมื่อผสมผสานกันแล้ว โลกเสมือนจริงหรือโลกดิจิตอลจะมีความก้าวหน้าไปจนไม่สามารถจินตนาการอย่างมีขีดจำกัดถึงมันได้
บริษัทรายย่อยจะมีผลต่อการพัฒนาวงการเทคโนโลยีมากที่สุด และผู้ครอบครองอำนาจในวงการอย่างแท้จริงจะไม่ใช่ Apple Google และ Microsoft
+1 ^^ อีกแล้ว
อ่านแล้วนึกถึง คำพูดของไอน์สไตน์ จินตนาการ สำคัญกว่าความรู้ ไม่ว่าใครก็เขียนซอฟแวร์ได้ มันไม่ยากที่จะเรียนรู้ แต่สิ่งที่เขียนมันมีความน่าสนใจขนาดไหน ก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการของแต่ละคนแล้วละครับ
เห็นด้วยเช่นกันครับ
เห็นมะ! ฉะนั้นมาทำแอพให้ Windows Phone ซะดีๆ
ใช้ผมว่า วินโดว์โฟนมีความต้องการแอปเยอะขึ้นมาก
ไม่งั้นก็ พัฒนาลงวินโดว์ 8 ก็ได้ครับ เพราะตอนนี้ วินโดว์ 8 มีแอปยังไม่ถึง 100 แอพเลย
+1 ทำเงินได้เยอะกว่าด้วย 555
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เห็นด้วยว่าช่องทางประชาสัมพันธ์ยังต้องเปิดมากกว่านี้ ทุกวันนี้โหลดแค่จากใน top 20 กับ feature แค่นั้นเอง
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
อยากรู้ว่า OS อื่นจะเป็นอย่างไรบ้าง
ข่าวยังงี้ ยังมีคนมาอวยแอปเปิ้ลอีก
conclusion ข่าวนี้: นักพัฒนาทั้งหลาย พวกเธอจงทำการตลาด
หากไปไม่ถูก ให้เราช่วยทำตลาดสิจ๊ะ ♥