อินเทอร์เน็ต คงเป็นสื่อเสรี ที่ไม่เสรีอีกต่อไป เมื่อผลสำรวจจาก Business Week ในเรื่องของประเทศที่จำกัดสิทธิและเสรีภาพในการใช้สื่ออินเทอร์เน็ตมากที่สุดในโลก 13 ประเทศ ซึ่งผู้ชนะเลิศได้แก่ .. แท่น แท๊น
อันดับหนึ่ง ได้แก่ พม่า ประเทศเพื่อนบ้านของเรานี่เอง โดยรัฐบาลพม่าลงทุนใช้โปรแกรมดักจับหน้า screen shot ของผู้ใช้เน็ตค่าเฟ่ ทุกๆ 5 นาที และยังมีการใช้ซอฟต์แวร์บล๊อกเว๊บที่ทางรัฐบาลเห็นว่าไม่เหมาะสมทันทีที่พบเห็น .. เรียกได้ว่า จับตาดู และบล็อกแบบทันทีทันใด
ส่วนอันดับอื่นๆที่ตามมาได้แก่ จีน , เบลารุส , อิหร่าน, ตูนิเซีย, คิวบา, อียิปต์, ซาอุดีอาระเบีย, เตอร์กมินิสสถาน, เวียดนาม, เกาหลีเหนือ, ซีเรีย และ อุซเบกิสถาน .. โดยที่น่าห่วงที่สุดคงจะเป็นจีน ซึ่งดูจะเจริญกว่าเพื่อนแต่กลับปิดกั้นสื่อมากเป็นอันดับที่สอง
สารภาพตามตรงว่าผมแอบลุ้นให้มี ประเทศไทยของเรา ติดอันดับกะเค้าบ้างเหมือนกันนะเนี่ย "ดวงตาแห่งซาลูมอน"
ที่มา - Business Week
Comments
แอบบล๊อกครับ เลยไม่ถูกจัดอันดับ
favicon.ico not found!
"พม่าลงทุนใช้โปรแกรมดักจับหน้า screen shot ของผู้ใช้เน็ตค่าเฟ่"
มันดักได้จริงๆ อะ เครื่องทุกเครื่องต้องบังคับลงโปรแกรมนี้ไ่ม่งั้นเล่นเน็ตไม่ได้งั้นหรอ ถ้าอยู่หลัง proxy ละ?
อ่านตอนแรกนึกว่า blog
แต่พม่าสุดยอดจริงๆครับ ทุกๆ 5 นาที -_-" งี้ ตอน 4 นาที กว่าๆ ต้องรีบปิดแล้วเปิดใหม่
>>favicon.ico not found! สงสัย ทำไปเพื่ออะไร??
Patrickz's blog|
linkedin
ถ้าเป็น Digg ต้อง Report as inaccurate :P
deans4j : นั้นสิ แต่คงเป็น กฏหมาย เคยได้ยินว่า Modem นี่ยังต้องขออนุญาติเลย
Patrickz's blog|
linkedin
ถ้าพูดแบบชาวบ้านต้องบอกว่า...เอาเวลาไปจับโจรไม่ดีกว่าเหรอ? ป.ล.อะไรเนี่ย...โมเด็มนะ ไม่ใช่M16 - -"
จีนมีประชากรมาก ยากต่อการควบคุมหากก่อการ
อเมกาก็โจรดีดีนี่เอง ตีอิรักขนทองขนน้ำมัน โดยมีนิวเคลียร์เป็นเครื่องแสดงความมั่นคงแทนทอง
ไม่ใช่จะคุยการเมือง แต่อยากชี้ให้เห็นว่าเหรียญมีสองหน้าเสมอ
ดีใจนะเนี่ย ที่ไม่ได้อยู่ใน list
@TonsTweetings
ในรายงานฉบับเดียวกันกับที่ Business Week อ้างถึง ไทยไม่ติด 1 ใน 13 แต่ติด 1 ใน 25 ครับ
http://iteau.wordpress.com/2006/11/22/blockingthenet/
อ่านเพิ่มเติม http://iteau.wordpress.com/2006/11/02/freedom-of-press-in-thailand-getting-worse/
ถ้าประเทศอื่นเป็นคนจัดอันดับ รายชื่อมันจะเปลี่ยนไปบ้างไหมเนี่ย มีแต่ประเทศที่ไม่ค่อยลงรอยกับอเมริกา
เห็นด้วยกับคุณ pt ครับ
ผมว่าการ บล๊อคเว็บบางทีก็ดีเหมือนกันนะครับ เพราะว่า หากเราปล่อยปะ ละเลยอะไรมากเกินไป สังคมก็จะเละได้ ไม่จำเป็นต้องตามชาติตะวันตกเสมอไป ลองคิดดูนะครับถ้าเดี๋ยวนี้ เหมือนสมัยก่อน ไม่มี pub ไม่มี คาเฟ่ ตอนกลางคืน เด็กคงกลับไปบ้าน ช่วยที่บ้านขายของ ไม่ก็อ่าหนนังสือเรียน ไม่ก็ไปเล่นสนุก หรือทำไรที่มีสาระ แต่เพราะมี pub มี คาเฟ่ สังคมถึงได้เละแบบทุกวันนี้ ผมก็ไม่ได้ว่าคนที่เข้า pub เป็นคนไม่ดี แต่ว่า สิ่งไม่ดีมันก็มีเยอะจริงๆ ทั้งยาเสพติด มั่วกาม และอื่นๆ เด็กต่างจังหวัด ม.ต้นก็ยังไปเที่ยว ไปมั่ว ... พอมีรัฐมีนโยบายออกมา ว่าจะ ลดเวลา หรือจะเคอร์ฟิว ก็มีแต่คนห้ามปรามว่าเป็นสิทธิมนุษย์ชน อื้ม... ผมออกจะหัวโบราณไปหน่อย แต่ผมว่า บางที การที่เรา ปิดบังไรไว้บ้าง มันอาจจะดีกว่าเปิดเผยซะหมด นะครับ เพราะเมื่อคนเราอิสระเสรีเกินไป ใช่ว่าทุกคนจะเป็นคนดี เมื่อมีอิสระ จะใช้แต่ในทางสร้างสรรค์ ถ้าไม่มีกฎหมาย หรือ แม่ไม่สามารถ บังคับหรือสั่งสอนลูกได้ ผมว่า ทุกวันนี้ โลกก็คงวุ่นวายกว่านี้มากครับ
ถ้าความคิดเห็นของผม ไปทำให้ไม่ถูกใจเข้า ผมต้องขอโทษจริงๆนะครับ ผมก็แค่เสนอความคิดของเด็กคนนึง ผมขอโทษจริงๆนะครับถ้าไม่ถูกใจใคร ขอบคุณครับ [ถ้าที่ผม post -_- มันไม่ค่อยตรง กับ เนื้อหาก็โทษทีครับ แต่ผมว่า หลายเว็บที่ ICT block มันก็ดีต่อเยาวชนพอสมควร เพราะอย่าลืมครับ บางคนไม่มี ความรู้เรื่อง Com หรือ Bit เมื่อมี อุปสรรค มากๆ เข้า เขาก็จะ เลิกราไปเอง ความจริง มันก็เรื่องธรรมชาติ แต่เด็กบางคนก็มีพฤติกรรมเลียนแบบ ซึ่ง ต่อให้ไปเกิดกะใครคนนึงแม้ว่าจะคนเดียว มันก็ เรื่องไม่ดีทั้งนั้น หรับ ถ้าบางเว็บที่ ICT ไป Block ทั้งเว็บ ซึ่ง ไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องจริงอันนี้ผมว่า เค้าก็น่าจะมีการรับผิดชอบ และความจริงผมว่าเค้าน่าจะเปิดรับการร้องเรียนได้นะครับว่า การปิดกั้นทั้งเว็บ ซึ่งบางเว็บอาจจะเป็น ลูก host ไม่เกี่ยวกัน ...]