By: mk 
on 10 August 2012 - 22:14
Tags:
Nuance Communications เจ้าพ่อแห่งวงการประมวลผลเสียงพูด เปิดตัวแอพตัวใหม่ Nina ผู้ช่วยส่วนตัวที่แยกแยะคำสั่งของผู้ใช้จากการสั่งงานด้วยเสียงได้
ถ้าดูเผินๆ Nina ไม่ต่างอะไรกับ Siri ของแอปเปิล (ชื่อผู้หญิง-เสียงผู้หญิงเหมือนกัน) แต่กลุ่มเป้าหมายของ Nina ต่างไปจาก Siri อย่างสิ้นเชิง เพราะ Nuance ไม่ต้องการเจาะกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปเหมือนกับ Siri แต่ต้องการขาย Nina ให้องค์กรหรือแบรนด์ต่างๆ เพื่อให้บริการกับลูกค้าของตัวเอง (ผ่านแอพ) อีกทอดหนึ่ง
บทบาทของ Nina คือเข้ามาแทนคอลล์เซ็นเตอร์ที่ปัจจุบันใช้พนักงานมนุษย์โต้ตอบกับลูกค้า เพราะ Nina สามารถประมวลผลเสียงพูดของลูกค้าได้ และเปลี่ยนงานอัตโนมัติที่เคยใช้วิธีกดปุ่มตัวเลขมาเป็นการสั่งงานด้วยเสียงแทน
Nuaunce บอกว่า Nina มีความสามารถแยกแยะเสียงว่าเป็นของใคร (voice biometrics) ได้ด้วย ดังนั้นมันสามารถยืนยันตัวตนของผู้ใช้เวลาสั่งงานสำคัญๆ ได้อีกต่างหาก
ตอนนี้ Nina ภาคภาษาอังกฤษพร้อมใช้งานแล้วสำหรับองค์กรและแบรนด์ต่างๆ ผู้สนใจสามารถติดต่อขอ Nina Virtual Assistant SDK มาทดสอบได้ มีเวอร์ชันบน Android และ iOS ครับ
ที่มา - Nuance
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Cloudnone
- AWS มาไทย ย้ายเลยดีไหม อะไรยังมาไม่ครบบ้าง? | Cloudnone Ep. 23
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
Comments
ผมว่า คนที่โทรหา cc ไม่ได้ต้องการคุยกับบอทครับ เขาอยากคุยกับคนมากกว่า เพราะการได้ด่าคนเป็นๆ มันรู้สึกดีกว่าการด่าบอท
สงสาร cc ตกงานแน่
น่าจะแค่แทนกดปุ่มแล้วโอนให้พนักงานฝ่ายนั้น ๆ แทนนะครับ
ซึ่งผมจะดีใจมาก โทรศัพท์ที่ห้องผมเป็นแบบหมุน มันกดเลือกเมนูไม่ได้ ต้องวิ่งไปกดห้องอื่น - -"
Wow, antique. Cool.
อยากได้มาประดับห้องมาก -
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ข่าวต่อไป Apple ฟ้อง Nuance และสั่งถอน Nina ออกจาก App Store
Coder | Designer | Thinker | Blogger
รู้สึกว่า มันต้อง install ที่บริษัทใคร บริษัทมันนะครับ ลูกค้าก็โทรเข้าเบอร์เหมือนเดิม
อันที่จริงยังไงก็ต้องมีพนักงานเป็นคนจริงๆแน่นอน แต่ว่าเป็นด่านหน้า ที่จะรับอัตโนมัติ กรองลูกค้าไปในตัว
Nuance ไม่ต้องการเจาะกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปเหมือนกับ Siri แต่ต้องการขาย Siri ให้องค์กรหรือแบรนด์ต่างๆ
น่าจะเป็นแบบนี้ไหม
Nuance ไม่ต้องการเจาะกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปเหมือนกับ Siri แต่ต้องการขาย Nina ให้องค์กรหรือแบรนด์ต่างๆ
"เพราะ Nuance ไม่ต้องการเจาะกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปเหมือนกับ Siri แต่ต้องการขาย Siri ให้องค์กรหรือแบรนด์ต่างๆ"
ต้องการขาย Siri --> ต้องการขาย Nina
รึเปล่าครับ ??
ใช่ ชงักเลย
แล้วระบบมีความถูกต้องมากพอที่จะส่งต่อสายไปยังคนที่สมควรรับรึเปล่า แล้วถ้าเจอสถานะการที่สำคัญมากไม่อาจประมวลผลได้ล่ะ ?
เอาใว้คุยเล่นระหว่างรอoperatorตัวจริงมารับสายก็พอใจแล้วครับ
น้องNinaอาจทำให้ใจผมเย็นลง แต่ถ้าตอบงงๆแบบSiriคงเครียดขึ้น
ปัจจุบัน Call Center ของ Apple ก็เป็นหุ่นอยู่แล้วอ่ะ ต้องคุยไม่รู้เรื่องจริงๆ ถึงจะโอนให้คน
ระบบแบบนี้มีใช้อยู่แล้วนี่นา แต่แค่เอามากรองปัญหาเบื้องต้นแทน first level
พอกรองแล้วก็ส่งไปหา second level ได้เลย
ใช่ครับ อันนี้มันใหม่จริงๆ ตรงเป็น client side
จะสั่งไก่ผู้พันหรือพิซซ่าต่อไปต้องสั่งกะน้องนิหน่าหรือเปล่าเนี้ย
ของจริงคงรอนานกว่าจะตอบได้
กรุณาถือสายรอซักครู่ ระบบกำลังประมวลผลข้อมูลของท่านอยู่
ขออภัย ระบบไม่เข้าใจคำสั่งของท่าน กรุณาพูดใหม่อีกครั้ง
Dream high, work hard.
ขออภัย ท่านพูดคำสั่งที่ระบบไม่เข้าใจเกินกว่าจำนวนครั้งที่กำหนด กรุณาโทรเข้ามาใหม่
เสียงเนือยมาก ถ้าเป็นพนักงานจริงๆ ต้องโดนความผิดฐานไม่กระตือรือล้นนะเนี่ย 55
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.